10 ข้อ G6PD กับถั่วปากอ้า จาก review article NEJM 4 มกราคมที่ผ่านมา ครับคำตอบถูกส่วนมาก ปิธาโกรัส a2=b2+c2 นี่แหละเป็นคนบรรยายคนแรก เอาสั้นๆมาฝาก
1. ถั่วปากอ้าจะมี vicine และ covicine ที่จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ในปริมาณมาก ถั่วปากอ้าจึงเป็นถั่วชนิดเดียวที่เกิดปัญหา
2. ถั่วชนิดอื่น มีสาร vicine และ covicine ไม่มาก ดังนั้น กินถั่วปากอ้าแล้วเกิดเม็ดเลือดแดงแตก ยังสามารถกินถั่วอื่นๆได้
3. คนธรรมดาที่ไม่เป็น G6PD กินได้ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีตัวจัดการออกซิเดชั่นพอ
4. กินมากก็จะมีโอกาสเกิดเลือดแดงแตกมาก กินน้อยๆอาจมีเลือดแตกแบบน้อยๆได้เช่นกัน
5. สูดละอองถั่ว ดอกไม้ เกสร ไม่เกิดเลือดแตก ต้องกินเท่านั้น
6. กินดิบจะเสี่ยงกว่ากินสุก
7. อาการก็ไข้ ซีด ตัวเหลือง ปัสสาวะสีดำ ถ้าหยุดกินถั่วก็หายเองในสามถึงห้าวัน รุนแรงมากก็อาจต้องให้เลือด
8. เป็นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงหลายเท่านัก ยืนอยู่บนโครโมโซมเอ็กซ์ เป็นโครโมโซมเพศ ชายมีเอ็กซ์เดียวอันเดียว บกพร่องแล้วเกิดอาการเลย ผู้หญิงเกิดน้อยกว่ามาก
9. แอฟริกามี G6PD มากแต่ถั่วปากอ้าน้อย ยุโรปมีถั่วปากอ้ามาก คนเป็น G6PD น้อยกว่า ธรรมชาติช่างเลือกสรร แต่ตอนนี้มีอยู่ตามร้านสะดวกซื้อทั่วโลก
10. เชื้อมาเลเรียไม่ค่อยชอบเลือดที่ผิดปกติ โดยเฉพาะพวก G6PD เลยมีการป่วยมาเลเรียน้อยกว่าคนทั่วไป
เรื่อง G6PD ที่เคยเขียนไป
https://m.facebook.com/medicine4layman/posts/1703363893312970:0
https://m.facebook.com/medicine4layman/posts/1703363893312970:0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น