30 พฤศจิกายน 2562

Shift-Work disorder

Shift-Work disorder
ความผิดปกติของการนอนหลับอันหนึ่งที่ทุกคนคงเคยพบ นอนไม่พอและง่วงเพราะต้องเปลี่ยนเวลานอน
ในคนที่ทำงานหรือใช้ชีวิตแบบใดแบบหนึ่งเป็นประจำ ร่างกายจะมีการปรับตัว มีการปรับสารสื่อประสาทและตั้งเวลาในสมอง ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของเรา ความเป็นจริงก็ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด สิ่งแวดล้อมเรื่องการกิน การหาอาหาร การทำงาน สิ่งต่าง ๆ จะเป็นตัวปรับเวลาของเราให้พร้อม เช่น ตื่นตัวเมื่อจะทำงาน หรือง่วงเมื่อถึงเวลานอน แต่ถ้าการใช้ชีวิตจะต้องเปลี่ยนรูปแบบไปชั่วคราว
จะต้องอยู่ดึกเพื่อปั่นงานให้เสร็จ ต้องตื่นเช้ามากเพื่อขับรถไกล ๆ ต้องอยู่เวรกะต่าง ๆ ไม่เป็นเวลาที่แน่นอน ลักษณะเช่นนี้จะมีผลทำให้นาฬิกาของเรา "รวน" ได้เช่นกัน และเมื่อวงจรการหลับตื่นของเราอิงตามเวลาพวกนี้ วงจรการหลับตื่นจะเปลี่ยนไปด้วย
เช่น เมื่อต้องทำงานจนดึกให้เสร็จ จะรู้สึกง่วงมากจนแทบทนไม่ไหว หรือเมื่อต้องตื่นเช้ามาก พอถึงเวลาที่ต้องทำงานช่วงบ่ายเราก็จะง่วงมากจนทำอะไรไม่ได้ แล้วพองานต่าง ๆ เสร็จสิ้นไป (อย่าลืมว่ามันก็ไม่ใช่งานปรกติ) เราก็พยายามที่จะพัก แต่ก็นอนไม่หลับ นอนไม่หลับจนหมดเวลาพัก อยากจะหายเพลียก็ไม่หาย ..น่าจะพอนึกภาพ Shift-Work ออกนะครับ
หลายคนก็บอกว่า มันก็เป็นเรื่องปรกติ เราอยู่ในสังคมที่มีเวลากำกับ จะมาทำตามใจตัวไม่ได้ มันก็จริงครับ แต่เราควรบริหารจัดการตัวเองด้วย ไม่ให้เกิด Shift-Work เพราะเมื่อเกิดแล้วมันมีผลเสีย
1. ความคิดการตัดสินใจจะช้าลง สมองที่อ่อนล้าและขาดการพักมีผลส่วนนี้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ การทำงานที่ต้องอาศัยความฉับไว ประสิทธิภาพจะด้อยลง
2. การตอบสนองสิ่งเร้าจะช้าลง อันนี้อันตรายมากกับงานเครื่องจักรกลหรือขับขี่ยวดยานพาหนะ
3. รบกวนการทำงานของร่างกาย เช่นใจสั่น เหนื่อย ท้องผูก หรือบางคนที่เป็นโรคลมชัก สามารถกระตุ้นการชักได้ด้วย
4. เพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็ง มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งลูกหมาก ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกประกาศแล้วว่า Shift-Work disorder เป็นภาวะก่อมะเร็ง
5. ถ้ามีอาการแบบนี้บ่อย ๆ สลับไปมานานเข้า อาจนำไปสู่โรคนอนไม่หลับเรื้อรังได้ (ความเรื้อรังของโรคนอนไม่หลับใช้เกณฑ์ 3 เดือน)
การแก้ไขเชิงระบบต้องมีการจัดคน จัดงาน จัดเวลาให้เหมาะสม โดยเฉพาะงานที่ต้องรับผิดชอบชีวิตเช่น นักบิน พนักงานขับรถโดยสาร แพทย์พยาบาลในไอซียู กลุ่มงานพวกนี้จะมีการกำหนดว่าห้ามทำงานต่อเนื่องเป็นเวลากี่ชั่วโมง และต้องพักอย่างน้อยกี่ชั่วโมงก่อนทำงานต่อไป
การแก้ไขที่ตัวเอง คือต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ให้เสร็จในช่วงเวลาที่กำหนด จะได้ไม่คั่งค้าง ปรับสถานที่พักให้เอื้อกับการนอนของแต่ละคน ไม่ใช่พอจะได้พักก็ไปพักในที่อึกทึกครึกโครม มันก็ไม่ได้ผล ปรับแสง สี เสียง อุณหภูมิ เมื่อได้เวลาพัก
การงีบช่วงสั้น ๆ จะช่วยลดความเหนื่อยล้าสะสมได้ แม้ไม่ได้แก้สาเหตุเหมือนนอนหลับยาว ๆ แต่ก็ดีกว่าฝืนทำขณะเหนื่อยล้าง่วงแล้วเกิดอันตราย เช่น การงีบหลับสั้น ๆ หากง่วงเวลาขับรถ
สารที่ใช้กระตุ้นมากที่สุดคือ กาแฟ แต่ผลมันไม่แน่นอนและหลาย ๆ คนก็ทราบดีว่า "กาแฟไม่ช่วยอะไร" อาจจะทำให้นอนไม่หลับ แต่มันไม่ช่วยเรื่องความล้าและประสิทธิภาพของร่างกายใน Shift-Work
ยาที่รับรองการใช้คือ modafinil และ armodafinil เป็นยาที่กระตุ้นการทำงานของสมอง กินก่อนตองทำงานที่จะอ่อนเพลียหรือง่วงจัด เพราะเปลี่ยนเวลาทำงาน แม้จะกระตุ้นสมองและลดการสัปหงกได้แต่จะง่วงเท่า ๆ เดิม ..ผมไม่เคยใช้นะ ไม่เคยสั่งด้วย เพิ่งเคยรู้นี่แหละ เพราะถ้ามีคนมาถามว่าง่วงมาก ทำอย่างไร คำแนะนำเดียวที่เคยให้คือ..นอน
ไม่อยากมีอาการง่วงให้หยุดพัก ถ้าอยากมีอาการรัก ก็หยุดเพ้อ...แล้วลงมือซะที !!!

29 พฤศจิกายน 2562

เงินซื้อความสุขได้หลายอย่าง แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง

เงินซื้อความสุขได้หลายอย่าง แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง
ตรู๊ดๆๆ : สวัสดีครับ
ปลายสาย : สวัสดีค่ะพี่ หนู.... จำได้ไหมคะ ที่พี่สอนการปรับเวนติเลเตอร์ (ventilator เครื่องช่วยหายใจ)​ ให้หนูน่ะค่ะ
ลุงหมอ : จำได้ครับ สอนจนน้องปรับเก่งมาก มีอุปสรรคเรื่องปรับเครื่องอีกหรือครับ
ปลายสาย : ไม่ใช่ค่ะ คือ พี่เป็นเจ้าของเพจใช่ไหมคะ หนูแอบสืบมา
ลุงหมอ : ใช่ครับ ขอบคุณที่ติดตามนะ
ปลายสาย : คือเพจพี่รายได้ดีไหมคะ ของหนูเปิดมาสี่ห้าเดือน รายได้น้อยมาก เรามารวมเพจทำธุรกิจกันไหมคะ ทีมหนูพอทำกราฟฟิกโฆษณาได้ เกี่ยวกับอาหารเสริมต้านมะเร็งน่ะค่ะ
ลุงหมอ : รายได้หรือ ก็ไม่มีหรอกครับ
ปลายสาย : โฆษณาเดี๋ยวนี้ให้น้อยค่ะ
ลุงหมอ : คือพี่ไม่ได้รับลงโฆษณาครับ ไม่มีรายได้หรอก
ปลายสาย : งั้นเรามาทำร่วมกัน พี่คิดคอนเท้นต์ เดี๋ยวหนูทำกราฟฟิก และยิงแอดให้ พอมีคนรู้จักค่ะ เพจพี่มีคนตามเยอะ ยอดเข้าถึงน่าจะสูงมาก
ลุงหมอ : ขอบคุณมากครับน้อง แต่พี่ขอผ่านก่อนนะ พี่คิดว่า โมเดลทางธุรกิจของเราอาจไม่ค่อยตรงกัน
ในใจ :โมเดลมันไม่ตรงกันแน่ ๆ เพราะพี่ไม่มีโมเดลใด ๆ นะน้อง ไร้ความรู้ทางธุรกิจ การตลาด กลยุทธ ทำแบบบ้าน ๆ ตามความเข้าใจของพี่เอง
คุยโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มกับตัวเอง ควักเงินสี่สิบบาทค่าข้าวราดแกงสองอย่าง น้ำเปล่าฟรี ส่วนกาแฟซื้อแบบผงมาชงเอง ประหยัดมาก แค่นี้ก็กินอย่างมีความสุขและเอร็ดอร่อย อิ่มท้องและอิ่มใจ
ส่วนบาริสต้าคนนั้น... ปล่อยเธอไปพร้อมลมหนาวที่ผ่านเข้ามา.. อีกครา

แผลไฟไหม้

ถ่านไฟเก่า ... โหมกระพือ มอดไหม้ และร้อนแรง ดังที่พี่เบิร์ดกล่าวไว้
"...เขากลับเข้ามาให้เธอเห็นใจ และขอให้เธออภัย แล้วฉันต้องทำอย่างไร.."
ทำอย่างไรน่ะหรือ
อย่างแรก ... ถ่านไฟที่มอดไหม้ ถือเป็น tetanus-proned wound มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดบาดทะยัก ยิ่งเกิดกับแผลจากไฟไหม้ด้วยแล้ว การพิจารณาให้ยาป้องกันบาดทะยักจำเป็นมาก
อย่างที่สอง ... ถ่านไฟที่มอดไหม้ ยิ่งแผดเผารุนแรงเป็นวงกว้าง จะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อมากขึ้น การทำแผลอย่างสะอาดคือปัจจัยป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุด ข้อมูลของการใช้ยาฆ่าเชื้อเฉพาะที่คือแบบทาที่แผลนั่นแหละ ที่นิยมใช้เช่น silver sulfadiazine, silver nitrate มีทั้งช่วยลดการเกาะตัวของเชื้อ (colonisation) และลดการติดเชื้อ แต่ก็มีหลายการศึกษาบอกว่าเพิ่มการติดเชื้อ แล้วจะเชื่ออันใดดี
จากการทำ systematic review ใน BMJ และ Cochrane พบว่าลดการติดเชื้อได้ แต่ข้อมูลยังกระจัดกระจายและมีข้อมูลจากการศึกษาทดลอง RCTs ไม่มากนัก ถ้าจะใช้ต้องใช้ร่วมกับการทำแผลที่ดีครับ
อย่างที่สาม.. ถ่านไฟที่มอดไหม้ มันทำอะไรเรามากไม่ได้ การให้ยาฆ่าเชื้อแบบกินหรือฉีด เพื่อหวังผลป้องกันการติดเชื้อรุนแรง ยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่าจะเกิดประโยชน์ในภาพรวม อาจจะเกิดประโยชน์บ้างในผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและในคนที่ต้องรักษาโดยการปลูกถ่ายผิวหนัง (skin graft) ซึ่งประโยชน์ "บ้าง" ที่ว่านี้ไม่ได้มาจากหลักฐานที่หนักแน่นนัก
ปัจจุบันจึงยังไม่มีคำแนะนำมาตรฐานว่าจะต้องให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อทุกรายไป
สำหรับลุงหมอแนะนำให้คนที่ต้องเจอถ่านไฟเก่าว่า เข้มแข็งมาก ๆ นะครับ ...อย่าได้ปล่อยฉันตายในกองไฟ
ที่มา
1. Avni Tomer, Levcovich Ariela, Ad-El Dean D, Leibovici Leonard, Paul Mical. Prophylactic antibiotics for burns patients: systematic review and meta-analysis BMJ 2010; 340 :c241
2.Takashi Tagami, Hiroki Matsui, Kiyohide Fushimi, Hideo Yasunaga, Prophylactic Antibiotics May Improve Outcome in Patients With Severe Burns Requiring Mechanical Ventilation: Propensity Score Analysis of a Japanese Nationwide Database, Clinical Infectious Diseases, Volume 62, Issue 1, 1 January 2016, Pages 60–66, https://doi.org/10.1093/cid/civ763
3.อันนี้เขียนมาแย้งข้อสอง มันมาก James C. Hurley, Prophylactic Antibiotics for Severe Burns: Are They Safe?, Clinical Infectious Diseases, Volume 62, Issue 9, 1 May 2016, Pages 1191–1193,
4.Barajas‐Nava LA, López‐Alcalde J, Roqué i Figuls M, Solà I, Bonfill Cosp X. Antibiotic prophylaxis for preventing burn wound infection. Cochrane Database of Systematic Reviews 2013, Issue 6. Art. No.: CD008738. DOI: 10.1002/14651858.CD008738.pub2.

28 พฤศจิกายน 2562

วงการอายุรแพทย์ก็มีเลขชุด

ถ้าคุณคุ้นเคยกับเลขชุด 3-4-5, 5-12-13, 7-24-25 ตัวเลขความยาวด้านของสามเหลี่ยมมุมฉากตามทฤษฎีปิทากอรัส ไม่รู้ทำไมชอบออกข้อสอบเอ็นทรานซ์เลขชุดนี้
วงการอายุรแพทย์ก็มีเลขชุดมาฝาก
ชุดแรก 5-5-11
คือตัวเลขจำนวนวันของการให้ยา prednisolone เพื่อรักษาการอักเสบปอด ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อรา pneumocystis และมีการแลกเปลี่ยนแก๊สผิดปกติมาก จะให้ยา prednisolone เพื่อลดการอักเสบนั้น
40 มิลลิกรัม เช้าและเย็น เป็นเวลา 5 วัน
40 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
20 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 11 วัน
ชุดที่สอง 150-50-100
คือขนาดของยา N-acetylcysteine เป็นมิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ในการรักษายาพาราเซตามอลเกินขนาด ที่ให้ใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดโอกาสที่พาราเซตามอลจะมีพิษต่อตับ
150 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในสารละลาย 200 ซีซี ในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ต่อด้วย
50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในสารละลาย 500 ซีซี ในเวลาสี่ชั่วโมง ต่อด้วย
100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในสารละลาย 1000 ซีซี ในเวลาที่เหลือจนครบ 24 ชั่วโมง
ชุดที่สาม 92-180-153
คือตัวเลขระดับน้ำตาลในเลือดที่ใช้วินิจฉัยโรคเบาหวานจากการตั้งครรภ์ ในการทดสอบด้วยการกินน้ำตาลกลูโคส 75 กรัม ตามการศึกษา HAPO (IADPSG criteria) หากค่าเกินนี้อย่างน้อยหนึ่งค่าจะวินิจฉัยได้
92 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร คือค่าน้ำตาลในเลือดเมื่องดอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนกินน้ำตาล
180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร คือค่าน้ำตาลในเลือดหลังกินน้ำตาลไปหนึ่งชั่วโมง
153 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร คือ ค่าน้ำตาลในเลือดหลังกินน้ำตาลไปสองชั่วโมง
ชุดที่สี่ 35-26-36
อืมมมม...
ไม่ต้องมีคำบรรยายใด ๆ สักคำให้ลึกซึ้ง ไม่ต้องบรรยายอะไรให้สวยเลิศเลอ
ของมันต้องมี

โรคทางกายที่ทำให้ sex ไม่ healthy

สุขภาพเซ็กซ์ไม่ดี อาจไม่ใช่แค่เรื่องจิตใจ
วันก่อนฟังรายการ R U OK ของคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์ กับคุณหมอ ปีย์ เชษฐโชติศักดิ์ พูดถึง healthy sex ว่าต้องปรับความเข้าใจกัน ต้องเรียนรู้ความต้องการซึ่งกันและกัน จึงอยากมาเสริมต่อไปว่า มันมีโรคทางกายที่ทำให้ sex ไม่ healthy ด้วยนะ
1. โรคหลอดเลือดแดง atherosclerosis อันนี้สำคัญที่สุด เบาหวาน ไขมัน ความดัน ทำให้สุขภาพทางเพศไม่แข็งแรง ต้องดูแลแก้ไขตรงนี้
2. โรคระบบประสาท ไขสันหลังบาดเจ็บหรืออักเสบ ปลายประสาทอักเสบ โดยเฉพาะจากการดื่มเหล้าและเบาหวาน ทำให้สมรรถภาพโดยรวมแย่ลง
3. โรคระบบต่อมไร้ท่อ เกี่ยวกับฮอร์โมนเพศโดยตรง เช่นระดับฮอร์โมนลดลงเร็วมาก อาจจะมีความผิดปกติที่รังไข่ อัณฑะ หรือจากศูนย์สั่งการต่อมใต้สมอง การตรวจฮอร์โมนจะช่วยแยกโรคนี้ออกได้ และโรคที่สำคัญที่สุดที่ทำให้สมรรถภาพเสื่อมคือ เบาหวาน นั่นเอง
4. โรคของอัณฑะหรือรังไข่ ที่ทำให้การสร้างฮอร์โมนเพศลดลง หรือโรคเกี่ยวกับโครงสร้างทางกายวิภาคของอวัยวะสืบพันธุ์
5. ผลจากยา ต้องมาติดตามผลจากยา ยาหลายชนิดมีรายงานผลข้างเคียงเรื่องสุขภาพเซ็กซ์เสื่อมลง ทั้งหมดอารมณ์ ไม่สู้ สู้แต่ตายเร็ว เช่น spironolactone, ketoconazole, beta blocker
ดังนั้นนอกจากภาวะจิตใจ เรื่องของรสนิยมความชื่นชอบที่ต้องคุยกันระหว่างคู่นอน ยังต้องคำนึงถึงประเด็นเหล่านี้ ถ้าคุยแล้วยังไม่เวิร์กควรปรึกษาแพทย์นะครับ อาจพบโรคที่เป็นสาเหตุซ่อนอยู่ หรือโรคพวกนี้ที่ยังรักษาได้ไม่ดี
เซ็กซ์ที่ดีสร้างไม่ยาก แต่ที่ลำบากคือ...มันไม่มี !!

ข้ออักเสบเฉียบพลันจากผลึก calcium pyrophosphate (เก๊าต์เทียม)

ภาพเอ็กซเรย์ข้อเข่าของชายสูงวัยคนหนึ่ง มีปัญหาข้อเข่าซ้ายปวดบวมแดงขึ้นมา 1 วันในขณะนอนรักษาโรควิกฤตในโรงพยาบาล
สถานการณ์เช่นนี้ สำหรับผู้ป่วยและญาติคงต้องยอมรับว่า หากไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ใด ๆ คุณหมอคงต้องเจาะตรวจน้ำข้อเข่าครับ เพราะมีสาเหตุการเกิดโรคได้หลากหลายในข้ออักเสบเฉียบพลันข้อเดียวแบบนี้ ทั้งการติดเชื้อ การอักเสบจากผลึกสารเคมีตกตะกอน เลือดออกในข้อเข่า
สำหรับผู้ป่วยรายนี้การเจาะตรวจข้อเข่า พบน้ำข้อเข่าขุ่น หนืดเล็กน้อย เซลล์เม็ดเลือดขาวมากสองหมื่นกว่าตัวต่อหนึ่งซีซี ปริมาณน้ำ 15 ซีซี เมื่อไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศ์ปรกติผลึกรูปสี่เหลี่ยมจำนวนมาก ผลการเพาะเชื้อไม่ขึ้นเชื้อ
ภาพเอกซเรย์ พบมีแคลเซียมมาเกาะที่หมอนรองกระดูกเข่า ปรกติไม่ควรมีแคลเซียมมาเกาะที่นี่ เป็นแนวยาวตลอดข้อเข่า
ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัย ข้ออักเสบเฉียบพลันจากผลึก calcium pyrophosphate (เก๊าต์เทียม) ที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยสูงอายุที่มีอาการเจ็บป่วยหนักหรือมีโรคประจำตัวมาก ๆ โดยที่ไม่เป็นมาก่อนได้ และควรตรวจหาโรคที่ทำให้แคลเซียมไพโรฟอตเฟตตกตะกอนผิดปกติอื่น ๆ ด้วยเสมอเช่น ฮอร์โมนพาราไธรอยด์สูง ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ธาตุเหล็กในเลือดเกิน ...การเกิดแคลเซียมมาตกตะกอนในข้อ อาจไม่ใช่โรคต้นกำเนิดก็ได้
อยากบอกว่า ในผู้ป่วยที่มีภาวะข้ออักเสบข้อเดียว ที่เป็นแบบเฉียบพลัน เป็นข้อบ่งชี้อันหนึ่งในการเจาะตรวจน้ำในข้อครับ เพราะต้องแยกสาเหตุและรักษาตามสาเหตุด้วย

27 พฤศจิกายน 2562

ยาใกล้ตัวอาจเกิดพิษได้


คนดีมีฝีมือ

ย้อนอดีต : หนังสืออ่านประกอบวิชาการงานพื้นฐานอาชีพชั้นประถม 4-6 "คนดีมีฝีมือ"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเจอหนังสือเล่มนี้ในเว็บเพจหนังสือมือสอง สะดุดและสั่งซื้อเลย หามาสักพักแล้ว อ้อ.. เดี๋ยวนี้การซื้อหนังสือมือสองตามเพจตามเว็บ ต้องระมัดระวังสักหน่อย มิจฉาชีพเริ่มเข้ามา อาจต้องตรวจสอบให้ถ่ายภาพเล่ม ส่วนล่างของหน้านั้น ส่วนบนของหน้านี้ เอกสารยืนยันตัวตนกันสักหน่อย
หนังสือเล่มนี้ขนาดเอสี่ หนาประมาณร้อยหน้า พิมพ์แบบเก่าตัวอักษรพิมพ์ดีด กระดาษปรู๊ฟที่ตอนนี้เหลืองและบอบบางมาก ภายในแบ่งเนื้อหาเป็นหลายตอน ตาม งานบ้าน งานเกษตรและงานประดิษฐ์
โดยมีตัวละครเป็นเด็กประถมที่กำลังเรียนรู้ ใช้ภาษาที่ง่าย สวย ถูกหลักการและไม่มีพิษภัยใด ๆ นอกจากสอนวิชาการงานพิ้นฐานอาชีพ ที่กลมกลืนมาในรูปเรื่องสั้น ยังสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความรักชาติและรักเพื่อนมนุษย์อีกด้วย
เช่น
ความรู้เรื่องการเลี้ยงเด็ก ในเรื่อง ของขวัญของปอง
ความรู้เรื่องเสื้อผ้า ในเรื่อง ซื้อของกับพ่อ
ความรู้เรื่องปุ๋ยหมัก ในเรื่อง นักพูดรุ่นเยาว์
ความรู้เรื่องเศษวัสดุ ในเรื่อง นักประหยัดพลังงาน
ความรู้เรื่องการแกะสลัก ในเรื่อง ความสงสัย
ความรู้เรื่องการทำอาหาร คุณค่าทางอาหารและความสามัคคี จากเรื่อง อาหารมื้อพิเศษ เรื่องที่ผมชอบมากสุด เด็ก ๆ กำลังจะเลื่อนชั้น จึงปรึกษากันว่าจะมากินอาหารร่วมกัน จะทำอะไรดีจึงมีประโยชน์และราคาไม่แพง ระหว่างก๋วยเตี๋ยวราดหน้า กับ สปาเก็ตตี้ จะเลือกผลไม้ที่มีคุณค่าอย่างไร ระหว่างมังคุดที่มีน้ำหนักเปลือก กับองุ่นที่กินได้ทั้งลูก จะประหยัดเงินค่าเครื่องดื่ม โดยขอครูใหญ่ตัดใบเตยมาทำน้ำใบเตย จะแบ่งงานอย่างไร และสุดท้ายรสชาติของความสามัคคี อร่อยมากกว่ารสชาติอาหารหลายเท่า ... เรื่องนี้ชอบมาก อ่านแล้วยิ้ม คิดถึงเพื่อนสมัยประถม
สำนวนภาษาคล้ายของ อ.รัชนี ศรีไพรวรรณ ผู้ประพันธ์มานะ มานี ภาพวาดประกอบเหมือนกัน อ่านแล้วย้อนอดีต อ่านแล้วมีความสุขมาก
ในชุดเรียนรู้สมัยปี 2510-2528 มีชุดหนังสืออ่านประกอบสนุก ๆ ให้เรียนไปด้วยสนุกไปด้วยมากมาย ทั้งภาษาไทย สปช. กพอ. สลน. คิดว่าทุกคนในที่นี้คงจำได้ดี
มีความสุขจริง ๆ ..ทำไมเราถึงชอบดื่มกาแฟดำ ชมสาว ๆ สวย ๆ และชอบเล่าเรื่องอดีตนะ

ลุงหมอสอนน้อง ..

ลุงหมอสอนน้อง ..
มีน้องหมอจบใหม่ หลังไมค์มาถามปัญหาเรื่องกฎหมายและเรื่องภาษีอากร สองสามอย่าง ลุงหมออยากบอกน้อง ๆ ไว้ สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ จะเรียนโฟกัสมากจนลืมด้านอื่นหมดสิ้น บางครั้งมารู้ตัวก็ผิดก็พลาดไปแล้ว ดังนั้น
สำหรับน้อง ๆ นักเรียนแพทย์ นักเรียนพยาบาล เภสัช ทันต กายภาพ เทคนิค ... อย่าลืมเรื่องราวเหล่านี้ ศึกษาตั้งแต่ก่อนจบ สถาบันการศึกษาต้องช่วยพาผู้รู้มาสอน และตัวน้อง ๆ เองต้องหาความรู้ เดี๋ยวนี้มีสื่อการเรียนเพียบ อย่าคิดว่าไกลตัว เพราะมันจะใกล้ตัวเมื่อเกิดเรื่อง อย่าให้เกิดเรื่องแล้วตั้งรับไม่ทัน
1. ฉันจะยื่นภาษีอย่างไร ใช้ ภงด.ใด คำนวณเงินได้พึงประเมินแบบไหน มีรายได้กี่ตัว ตัวไหนต้องคิด ตัวไหนไม่ต้องคิด ... ไปอ่านมาให้เรียบร้อย สถาบันต้องหาคนมาสอน
2. เข้าทำงานแต่ละที่ มีสวัสดิการอะไรบ้าง มีสิทธิใช้อะไรได้บ้าง ทั้งภาครัฐและเอกชน หรือปัจจุบันต้องรวมฟรีแลนซ์ สตาร์ตอัพด้วย
3. เงินออมที่เป็นภาคบังคับ เช่น กบข. ประกันสังคม ต้องจ่ายเท่าไร นายจ้างสมทบเท่าไร มีสิทธิอะไรบ้าง จะได้เงินเมื่อไร หรือเงินสำรองเลี้ยงชีพจะจัดสรรอย่างไร
4. การจัดสรรเงินส่วนบุคคล บัญชีแต่ละประเภท การทำบัญชีรายรับรายจ่าย เงินสำรอง เงินออม เงินใช้
5. วางแผนชีวิต จะเรียนต่อ จะทำธุรกิจ จะแต่งงาน เริ่มร่างแผน วางแผนชีวิต การเงิน กฎหมายระบุ ทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
6. กฎหมายเบื้องต้นในชีวิตประจำวันและที่ใข้ในการประกอบอาชีพ อันนี้จำเป็น จะมาอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้
7. ศึกษาเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง ไว้บ้างจะได้ไม่ถูกหลอกและไม่ตกเป็นเครื่องมือใคร ดูแชร์ลูกโซ่เป็นตัวอย่าง
ลุงหมอเตือนได้แค่นี้แหละ ฝากรูปมาเตือนใจกัน
เปลี่ยนรูปดีกว่า รูปเดิมล่อเป้าเหลือเกิน 555 แต่คิดว่ารูปนี้ก็ "ล่อเป้า" ไม่แพ้กัน

ระดับของสีผิว Fitzpatrick's scale

ระดับของสีผิว Fitzpatrick's scale
ความหลากหลายทางชีวภาพโดยเฉพาะเชื้อชาติ ทำให้คนเรามีสีผิวที่แตกต่างกัน ประเด็นสำคัญคือเรื่องเม็ดสี เซลล์สร้างเม็ดสี ที่แปรผันตามเชื้อชาตินี่เอง เราอาจจะเคยได้ยินการแยกสีผิวแบบมองโกลอยด์ สีออกเหลือง ๆ นิกรอยด์ สีออกน้ำตาลเข้ม และคอเคซอยด์ สีขาวซีด
แต่ในทางการแพทย์เรามีวิธีวัดสีผิวอีกแบบ
1. Fitzpatrick Skin Phototype : คิดค้นโดยนายแพทย์ Thimas B. Fitzpatrick ในปี 1975 คุณหมอฟิตซ์แพทริก เป็นคุณหมอด้านโรคผิวหนังที่ฮาร์เวิร์ด ถือเป็นบิดาแห่งโรคผิวหนังยุคใหม่เลย ตำรา Fitzpatrick's Dermatology ถือเป็นตำราโรคผิวหนังมาตรฐานสากลเล่มหนึ่ง คุณหมอมีความสนใจเรื่องเนื้องอกของเซลล์เม็ดสี หรือ melanoma ได้สร้างระบบการวัดผิวแบบนี้ขึ้น
โดยเจตนาแรกเริ่มต้องการแยกลักษณะผิวที่ตอบสนองต่อแสงอัลตร้าไวโอเลตในแบบต่าง ๆ ออกมาได้หกลักษณะ type I-VI ใข้เกณฑ์ว่าเมื่อถูกแสงยูวีแล้ว ผิวจะไหม้ได้ง่ายเพียงใด และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (tanning) ได้ง่ายเพียงใด ผิวขาวจะไหม้ง่ายและเปลี่ยนสีง่าย ผิวสีน้ำตาลเข้มจะไหม้ยากและเปลี่ยนสียากสุด
แต่การแบ่งแยกสีแบบนี้ได้กลายมาเป็นภาษาสากลในการแบ่งสีผิวเวลาพูดถึงระดับสีผิวทางการแพทย์ แต่ว่าส่วนมากใช้ในงานวิจัย
2. Von Luschan's chromatic scale : โดยนายแพทย์ Felix von Luschan นายแพทย์และนักมานุษยวิทยาชาวออสเตรีย คิดค้นระบบการวัดนี้ในปี 1911 คุณหมอเป็นพหูสูต มีความรู้หลายด้าน แต่ด้านที่คุณหมอสนใจมากคืองานด้านมานุษยวิทยา โดยเฉพาะเรื่องที่มาและชาติกำเนิดของมนุษย์
คุณหมอใช้กระจกฝ้ามาเทียบสีผิวของมนุษย์จากภูมิภาคต่าง ๆ ในโลก ออกมาเป็นแบบสีตั้งแต่สีขาวจนถึงน้ำตาลเข้มสุด เป็นระดับคะแนน 1-36 ระดับ ถือว่าเป็นระบบวัดค่าสีผิวที่ออกแบบมาเพื่อวัดสีที่แท้จริง แต่ตอนนั้นทำในแง่แบ่งแยกชาติกำเนิดเท่านั้น ไม่ได้อ้างอิงกับเม็ดสี ไม่ได้มีการอ้างอิงจากการศึกษาระบบตจวิทยา
ระบบคะแนนนี้สามารถนำมาเปรียบเทียบกับระบบ Fitzpatrick ได้ด้วย
3. the Taylor Hyperpigmentation scale : สร้างโดย hyperpigmentation scale study group ที่รพ.เซนต์ลุกซ์ -รูสเวลท์ นิวยอร์ก อเมริกา จัดทำเพื่อใช้เปรียบเทียบระดับสีผิวหนังเวลาทำการรักษา โดยเจตนาเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงการรักษาโรคสีผิวเข้มกว่าปรกติ (hyperpigmentation) ระดับคะแนนเป็นแถบสีที่ใช้วัด มีสิบระดับคะแนนและ 15 ระดับความเข้ม แถบอันเดียวใช้เทียบ ทำให้เทียบง่ายและเป็นมาตรฐาน
ส่วนการวัดระดับความเข้มโดยใช้คลื่นแสงสะท้อนและหักเหที่เรียกว่า skin melanin index นั่นจะเป็นการวัดเชิงปริมาณใช้ในการศึกษาวิจัยมากกว่าชีวิตจริง เช่นงานวิจัยเรื่องการรักษาฝ้า งานวิจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสีผิวหลังรักษาโรคระบบฮอร์โมน
ในชีวิตจริง สีผิวใช่เรื่องสำคัญ คนจะดีหรือไม่นั้น ดูกันที่จิตใจ
เครดิตภาพ : pinterest.com

26 พฤศจิกายน 2562

ข่าวสั้น statin กับ สมอง

ข่าวสั้น ทันสมัย ง่ายนิดเดียว
ยาลดไขมันสเตตินกับผลเรื่องการรับรู้และความจำของสมอง
เป็นที่ถกเถียงกันมานานในเรื่องของยาลดไขมันว่ามีผลต่อการรับรู้และความทรงจำและโรคสมองเสื่อมหรือไม่ ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาบอกว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ตอนนี้มีงานวิจัยล่าสุดตีพิมพ์ใน Journal of American Colleges of Cardiology
ศึกษาข้อมูลในผู้สูงวัยอายุ 70-90 ปีในออสเตรเลีย แบบติดตามไปข้างหน้าระหว่างกลุ่มที่กินยา statin กับไม่เคยกินยา statin เมื่อติดตามไปหกปี วัดคะแนนการรับรู้การทำงานของสมอง และตรวจวัดขนาดสมองโดนทำ MRI ว่าต่างกันหรือไม่ โอเค..ผลออกมาว่าไม่ต่างกัน
แต่ประเด็นคือ คนที่ไม่เคยกินยา statin กลุ่มนี้มีโรคน้อยกว่าอีกกลุ่ม และมีการเริ่มยาใหม่ในกลุ่มที่ไม่เคยใช้อีกพอสมควร เมื่อติดตามไปจนจบการศึกษา ทำให้ต้องมีการปรับวิธีหาผลลัพธ์และวิธีคิดทางสถิติพอสมควร อันนี้เป็นจุดสังเกตที่สำคัญของการศึกษานี้
ผลที่ออกมาบอกว่า คนที่ใช้ยาอยู่แล้ว กับคนที่ไม่เคยใช้ยา หรือจะต้องไปใช้ยาทีหลัง เมื่อตัดตัวแปรปรวนต่าง ๆ (ด้วยวิธีทางสถิติแล้ว) พบว่าการใช้ยา statin ไม่ได้ส่งผลต่อคะแนนการเรียนรู้รับรู้ความจำ และขนาดของสมองส่วนความจำ
น่าสนใจมากทีเดียว
อ่านฉบับเต็มได้จากลิ้งก์
ต้นทางจาก JACC ไม่ฟรี
http://www.onlinejacc.org/content/74/21/2554

ความดันโลหิตตก หกล้มได้นะ

ภาพนี้คือ ภาพเอ็กซเรย์กระดูกข้อมือ แสดงให้เห็นกระดูกแขนท่อนล่างที่ชื่อ เรเดียส หัก (แขนท่อนล่างมีกระดูกสองท่อนคือ เรเดียสและอัลน่า)
ผู้ป่วยเป็นหญิงมีอายุ ไม่ถึงขั้นสูงอายุ ลุกนั่งแล้วเกิดอาการวูบ คล้ายจะเป็นลม เสียหลักแล้วเอามือรับน้ำหนักตัวได้ทัน โชคดีที่ศีรษะและลำตัวไม่กระแทก โชคร้ายที่กระดูกข้อมือหัก
ผู้ป่วยได้รับการใส่เฝือกและยาแก้ปวดเรียบร้อย
ปัญหาที่ต้องพิจารณาคือ ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ได้รับยาลดความดันสามชนิด เวลาไปตรวจที่โรงพยาบาลและคลินิกพบความดันโลหิตสูงตลอด จึงได้รับการปรับเพิ่มยา มีอาการวูบ ๆ เวียน ๆ บ่อย คนไข้และหมอคิดว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงควบคุมได้ไม่ดีจึงเพิ่มยา
ปรากฏว่าผู้ป่วยรายนี้มีภาวะความดันโลหิตลดลงขณะลุกยืน (postural hypotension) และให้กลับไปวัดความดันโลหิตที่บ้าน พบว่าความดันโลหิตที่บ้าน (หลังจากหยุดยาไปสองชนิด) แค่ 110/70 เท่านั้น
ในวันที่หกล้ม ผู้ป่วยใช้ยาแก้วิงเวียนซื้อเองจากร้านค้า โดยแจ้งว่าวิงเวียนและได้ยาแก้เมารถมารับประทาน ยานั้นคือ dimenhydrinate อันมีผลข้างเคียงทำให้ความดันโลหิตลดลง หน้ามืด วูบ โดยเฉพาะขณะลุกนั่งได้
สรุปว่า ปัญหากระดูกหัก อาจจะเป็นปัญหาทางอายุรกรรม
1. ความดันโลหิตที่ไม่สูงมากที่บ้าน แต่สูงขึ้นที่รพ. ทำให้ได้รับปรับยาเพิ่มโดยไม่จำเป็น
2. ยาต้านฮิสตามีน ใช้แก้เมารถ แก้แพ้ ต้องระวังการใช้มาก ๆ ในผู้สูงวัย
3. อาการวิงเวียน วูบ ๆ เวลาเปลี่ยนท่า ต้องวัดความดันโลหิตท่านั่งท่ายืนเสมอ
4. เมื่อมีกระดูกหักแบบนี้ ต้องประเมินโรคกระดูกพรุนด้วย
orthopedic medicine

25 พฤศจิกายน 2562

พลังการควบคุมอาหาร

ณ ห้องตรวจ
หมอคนหนึ่ง : อาการทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดี น่าพอใจครับ ยกเว้นน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นมาตลอดหกเดือนนี้
คนไข้ : มันลดได้ไหมคะ จะลดได้อย่างไร ตอนนี้ก็ปวดหลังปวดเข่าค่ะ
หมอคนหนึ่ง : ดื่มแต่น้ำเปล่า งดขนมและอาหารส่วนเกิน ลดปริมาณผลไม้ลง ออกแรงมากขึ้น และหาเวลาออกกำลังกาย คงไม่ยากใช่ไหมครับ
คนไข้ : จะพยายามทำค่ะ
สามเดือนถัดไป คนไข้น้ำหนักลดลง 2.5 กิโลกรัม
หมอคนเดิม : น้ำหนักลดลงพอสมควรเลย น่าชื่นชมครับ ทำอย่างไรเนี่ย
คนไข้ : ทำแบบที่หมอแนะนำเลยค่ะ ทำทุกวัน อยากลดน้ำหนักมาก ๆ
หมอคนเดิม : ทำต่อไปอย่าท้อนะครับ น้ำหนักในช่วงนี้อาจจะลดลงช้าหน่อย แต่มันจะลดครับ
คนไข้ : ค่ะ จะพยายามค่ะ
หกเดือนต่อมา คนไข้น้ำหนักลดลง อีก 2.7 กิโลกรัม
หมอหน้าเดิม : สบายขึ้นไหมครับ
คนไข้คนเดิม : ค่ะ ตัวเบา ไม่ปวดหลัง ไม่ปวดเข่า วิ่งได้เลย
หมอหน้าเดิม : ต่อไปให้รักษาวินัยการกินและการออกกำลังกายต่อไปนะครับ
คนไข้คนเดิม : ค่ะ หนูน่าจะทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ปล่อยเวลาไปตั้งนาน เสียดาย
....
....
ใช่ครับ แล้วคุณจะรออะไรอยู่

24 พฤศจิกายน 2562

Rita Hayworth and Shawshank Redemption

Rita Hayworth and Shawshank Redemption
เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสอ่านเรื่องสั้นของสตีเฟน คิง เรื่อง Rita Hayworth and Shawshank Redemption ต้นเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้
เรื่องราวของแอนดี้ ดูเฟรน นายธนาคารอัจฉริยะ ที่ต้องมาติดคุกเพราะคดีฆาตกรรมภรรยา คดีที่เขาไม่ได้ทำ ? ในช่วงที่แอนดี้อยู่ในคุก เขาไปทำในสิ่งที่นักโทษทั่วไปไม่ทำ สิ่งนั่นคือ สร้างความหวัง
นักโทษคดีเด็ดขาดที่นี่อยู่ไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี ไร้ซึ่งความหวังแต่แอนดี้ได้ใช้ความสามารถทางบัญชีของตัวเอง จัดสรรภาษีให้เหล่าผู้คุมแลกกับสิทธิพิเศษของนักโทษ การผ่อนคลายและห้องสมุด แอนดี้ได้สร้างอิทธิพลเงียบ ๆ ในคุก ในขณะเดียวกันผู้คุมและพัสดีคุกก็เริ่มระแวงว่าหากแอนดี้ออกจากคุกไป ความลับเรื่องภาษีและการทุจริตจะถูกเปิดโปง พวกเขาวางแผนให้แอนดี้ อยู่ที่นี่และตายพร้อมกับเรื่องต่าง ๆ ที่นี่
แต่แอนดี้ไม่โง่ เขารู้เช่นกันว่าผู้คุมคิดจะตลบหลังเขา แล้วเขาจะตลบหลังผู้คุมอย่างไร เขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เขาจะสามารถออกไปไขว่คว้าอิสระและกู้คดีของเขาได้ไหม
แนวเรื่องที่ค่อย ๆ เปิดเผยด้านมืดในใจของแต่ละฝ่าย การสับเปลี่ยนกับคุมเกมด้วยจิตวิทยา หนึ่งคำพูดแต่สะท้านไปถึงก้นบึ้งในใจอีกฝ่าย แนวถนัดของสตีเฟ่น คิง
การวางเรื่องที่ผูกปมและเฉลยปม พร้อมผูกปมถัดไปทันที การโยนความสนใจของนักอ่านระหว่างแอนดี้กับผู้คุม เหมือนคิงกำลังหยอกเย้าผู้อ่าน ทำได้ดีมาก โดยมีเรื่องราวมิตรภาพและชีวิตในเรือนจำมาเป็นตัวเกลื่อนไม่ให้เรื่องดิบเกินไป
เรื่องสั้นนี้ถูกหยิบมาทำเป็นหนัง ออกฉายปี 1994 โดยทิม รอบบิ้นส์ รับบทแอนดี้ ดูเฟรน และใช้ผู้เล่าเรื่องดำเนินเรื่องโดย "เรด" นักโทษอีกคน รับบทโดย มอร์แกน ฟรีแมน กำกับโดย แฟรงค์ ดาราบ้อนต์ โดยมีสตีเฟ่น คิง มาช่วยตรวจสอบเรื่อง เลือกนักแสดง โดยเขาติดใจบทบาทการแสดงของทิม รอบบิ้นส์บอกว่าเหมือนดูเฟรน ในจินตนาการของเขาจริง ๆ
ด้วยความถูกใจบทและการทำหนัง คิงจึงตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ให้เจ้าของหนังด้วยเงินเพียง 1 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น !! และภาพยนตร์ก็ออกมาสมจริง เข้มข้น สุดยอด ได้รับการนำเสนอชิงรางวัลออสการ์ถึง 7 รางวัลในปีนั้น แต่ทว่าต้องพ่ายแพ้กับสุดยอดภาพยนตร์ที่ออกฉายในปีเดียวกันหมดสิ้น ภาพยนตร์เรื่องนั้นคือ "Forrest Gump"
อ่านจบแล้วถึงขั้นย้อนกลับไปดูหนังอีกรอบ ฉากที่เรดออกจากคุกและเดินทางออกไปพบดูเฟรนที่ชายฝั่งทะเล แล้วพบว่าเขาซื้อเรือมาทำตามฝันได้จริง ๆ มันแสดงให้เห็นถึงสุดยอดมิตรภาพมาก ๆ
อีกหนึ่งนิยายของสตีเฟ่นคิง ไม่ใช่นิยายสยองหรือระทึก แต่กลับอัดแน่นด้วยความรู้สึกขัดแย้งในตัวเองและการต่อสู้ในทางจิตวิทยา แนะนำให้ทั้งอ่านและทั้งดูหนังครับ

รายงาน evali ในไทย

ข้อมูลจาก อ.มนูญ ว่ามีรายงาน evali ในไทยแล้ว และอาจจะมีรายต่อไป
ตามกฎหมายแล้วบุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมายไทย แต่ยังมีใช้กันแพร่หลาย ที่สำคัญยังไม่มีมาตรฐานการควบคุมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ในตลาดมีน้ำยาหลายเกรด ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าพึงระวังโรคนี้ด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมน้ำมันกัญชาลงไป
สำหรับบุคลากรสาธารณสุข คงต้องเพิ่มคำถามเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ในหมวดคำถามเรื่องการสูบบุหรี่ด้วย เพราะว่าคนที่เขาสูบบุหรี่ไฟฟ้า เวลาถามว่าสูบบุหรี่หรือไม่ เขาจะแปลความว่าเป็นบุหรี่มวนเผาไหม้ ดังนั้นคำถามยุคปัจจุบันต้องลงลึก และเฉพาะลงไปเลย
ขอบคุณ อ.มนูญ ครับ

พบแล้วผู้ป่วยไทยรายแรก ป่วยเป็นปอดอักเสบเฉียบพลัน และระบบหายใจล้มเหลว หลังสูบสารกัญชา CBD และ THC ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า
ผู้ป่วยชายไทยอายุ 48 ปี ไม่สูบบุหรี่ ได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งปอดกลีบกลางและกลีบล่างขวาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ได้รับการรักษาด้วยยาพุ่งเป้า Ceritinib ตั้งแต่เดือนมีนาคม ผลการรักษาก้อนมะเร็งปอดเล็กลง และดีขึ้นตามลำดับ แต่ 3 เดือนก่อน ผู้ป่วยลดยาพุ่งเป้าเองโดยไม่ได้บอกแพทย์ เพราะเชื่อคำบอกเล่าของผู้อื่นว่ายารักษามะเร็งทานมากๆไม่ดี อาจมีผลเสียต่อร่างกาย ได้ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียสูบน้ำมันสารกัญชาด้วยบุหรี่ไฟฟ้า ช่วยรักษามะเร็งปอด และน้ำมันกัญชานี้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้สั่งซื้อมา (ดูรูป) และเริ่มใช้เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสูบวันละ 2 ครั้งเช้าและก่อนนอน ร่วมกับการหยดน้ำมันกัญชาใต้ลิ้น ผู้ป่วยสังเกตว่าตั้งแต่เริ่มสูบสารกัญชา CBD และ THC ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า เริ่มมีอาการเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 15 พ.ย. มีไข้ ไอ หอบ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หลังได้การรักษา ยังคงเหนื่อยมากในวันที่ 18 พ.ย. 2562 ต้องใส่ท่อหายใจและเครื่องช่วยหายใจ ความดันโลหิตต่ำ ขอย้ายมารักษาต่อในห้องไอซียู เอกซเรย์ปอดวันที่ 18 พ.ย.พบเนื้อปอดมีลักษณะเป็นฝ้าขาวทั้งสองข้าง ส่วนมะเร็งปอดขวาล่างมีขนาดใหญ่กว่าเดิม (ดูรูป) ฝ้าในปอดที่เห็นทั้งสองข้างมีลักษณะไม่เหมือนกับปอดอักเสบจากการติดเชื้อ และไม่เหมือนมะเร็งกระจายไปทั่วปอด ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้งหมดไม่พบสาเหตุ ประกอบกับประวัติสูบสารกัญชาด้วยบุหรี่ไฟฟ้าก่อนป่วย จึงวินิจฉัยเป็น e-cigarette, or vaping product, use associated lung injury (EVALI) ปอดอักเสบจากการใช้สารกัญชาด้วยบุหรี่ไฟฟ้า เริ่มให้สเตียรอยด์ในวันที่ 20-22 พ.ย.อาการเหนื่อยดีขึ้นตามลำดับ เอกซเรย์ปอดฝ้าขาวค่อยๆลดลง (ดูรูป) ในผู้ป่วยรายนี้ยังไม่ได้ส่งน้ำล้างปอดหาวิตามิน E acetate เหมือนในประเทศสหรัฐอเมริกา
ขอขอบคุณ นพ.สิทธิ์เทพ ธนกิจจารุ สำหรับข้อมูลเป็นวิทยาทานเตือนคนไทย อย่าหลงเชื่อการสูบสารกัญชาด้วยบุหรี่ไฟฟ้ามีประโยชน์ช่วยดูแลปอด ในความเป็นจริงกลับทำร้ายปอด ทำให้ปอดอักเสบเฉียบพลันถึงขั้นระบบหายใจล้มเหลวอย่างผู้ป่วยรายนี้

บทความที่ได้รับความนิยม