06 พฤศจิกายน 2562

บันทึกการเดินทาง

บันทึกการเดินทาง
ถ้าท่านเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือ มือถือปากกาไฮไลท์และโพสต์อิท บนรถโดยสารประจำทางไปภาคอีสาน อาจจะดูเหมือนนั่งกร่างสองที่นั่ง แต่ไม่ใช่ จริง ๆ คือเขาซื้อสองที่แต่นั่งคนเดียว
ผู้ชายคนนั้น อาจเป็น แอดมินเพจนี้
เกือบทุกครั้งที่เดินทางมากทม. ผมจะไม่ขับรถ ชอบนั่งอ่านหนังสือและคิดโน่นนี่มากกว่า อีกเหตุผลคือไม่ชำนาญทางในกทม. เสียเวลามากกว่าใช้รถสาธารณะแน่นอน
การเดินทางด้วยรถโดยสารสะดวกสบายดี แอร์เย็น เบาะนุ่ม นวดหลังได้ มีปลั๊กชาร์จไฟยูเอสบีและไวไฟ สบายจริง ๆ แบบนี้เดินทางไปไหนก็ไปกัน แต่เมื่อถึงกทม. การเดินทางออกจากสถานีขนส่งไม่ง่ายเลย รถประจำทางไม่กี่เส้นทาง แถมอย่างผมเนี่ยแทบไม่รู้เส้นทาง การเตรียมล่วงหน้าสำคัญมาก เรียกว่า วางแผนการเดินทางละเอียดพอกับไปต่างประเทศเลย
หลังจากเดินไปขึ้นรถประจำทาง พบว่าการจราจรติดมาก ขนาดเป็นกลางวันวันพุธ รถเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ช้าระดับเดียวกับเดิน ครั้นจะลงเดินก็นึกได้ว่า มันไม่มีทางเดิน ฟุตปาธเต็มไปด้วยเก้าอี้จองที่ ร้านค้า และมอเตอร์ไซค์
เมื่อไปถึงจุดหมาย เป็นใจกลางเมือง ถนนสุขุมวิทอันพลุกพล่าน ข้างทางอุดมด้วยสตรีทฟู้ดอันเลื่องชื่อของไทย แต่แทบไม่เหลือทางเดิน เสื้อแจ็คเก็ตที่ใส่มาเพราะตอนออกจากบ้านตอนเช้าอากาศเย็น ๆ นี่ผมเดินทางข้ามทวีปรึไง ทำไมกทม.จึงร้อนระอุเยี่ยงนี้ แจ็คเก็ตคือส่วนเกินเสียแล้ว ไม่เป็นไร ถอดก็ได้
ผมมีเวลาอีกราวหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด โชคดีที่นี่มีร้านกาแฟเยอะมาก เลือกนั่งสบาย ๆ ได้เลย ผมจึงไปสั่งกาแฟดำและสโคน จากร้านชื่อไม่ดังแห่งหนึ่ง แต่อร่อยและบริการดี ราคาไม่แพงนัก เราเจอข้อดีของกทม.แล้ว
ในร้านกาแฟ ทุกคนดูจอมือถือ แม้แต่คนที่มาด้วยกันเป็นกลุ่มก็จิ้มจอใครจอมัน ชายชราหน้าหนุ่มที่จิบกาแฟพร้อมกางหนังสือพิมพ์รายวันอ่าน คงจะแปลกสำหรับเขามากเลย เมื่ออ่านนิยายจบ กาแฟหมดแก้ว ผมพักพอแล้ว ยืนขึ้นก็พบคนกลุ่มเดิม กดหน้าจอใครจอมันตามเดิม นี่เราอ่านหนังสือเร็วดื่มกาแฟเร็ว หรือเขานั่งนานกันเนี่ย
เมื่อไปถึงที่หมาย... ทุกคนคงงงว่าผมมากทม.ทำไม บางครั้งเราก็อยากออกจากจุดเดิม มาทำอะไรที่ท้าทายบ้าง
ผมได้รับการติดต่อให้ไป "ทอล์ค" ที่หน่วยงานแห่งหนึ่งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับงานวิทยาศาสตร์การแพทย์เลย ต่างจากงานบรรยายวิชาการเต็มรูปที่เคยทำ บรรยากาศเหมือนร้านกาแฟ พูดแบบสนุก ไม่ใช่บนโพเดี้ยม ผู้คนที่มาฟังคือคนนอกวงการ ทำงานอย่างอื่น มาทอล์คเพื่อให้เข้าใจเรื่องสุขภาพที่ถูกต้อง ง่าย และเอาไปใช้ได้จริง
ทุกคนแววตาสดใส มีพลัง ทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะรับรู้ข้อมูลที่ถูก ล้างข้อมูลที่ผิด แต่เขาไม่มีทักษะความเข้าใจภาษาหมอ และหมอที่เขาคุยด้วยก็ชอบจะพูดภาษาต่างดาวใส่เขาทุกที เป็นช่องว่างสำคัญให้ความเชื่อที่ผิดมาแทรกตัว
งานหนักเลยที่ต้องแปลภาษาหมอให้ง่าย พูดเร้าใจ สไลด์ไม่น่าเบื่อ ให้กับคนอาชีพสื่อดิจิตอล แต่ก็สนุกและท้าทายมาก
เมื่องานเริ่ม การทำงานแบบมีขั้นตอนแปลกไปจากเดิม มีสคริปต์ มีการใส่มุกเล่นหัวระหว่างพิธีกรและผู้ชม กลับสนุกสนาน มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ ผมมองเห็นพลังในแววตาเขาเหล่านั้นเหมือนเด็กที่กระหายใคร่รู้ หืม... คนอาชีพดิจิตอลมันไฟแรงฉะนี้เอง ผมเองยังดูดซับพลังนั้นได้เลย เวลาผ่านไปเร็วมาก พูดแบบทอล์คโชว์ได้อย่างที่ซ้อมมาเลย
ขากลับบนสถานีบีทีเอส ผมเพิ่งรู้ว่าจุดแลกเงินนั้นเขาจำหน่ายตั๋วได้จุดนั้นเลย ตั้งใจจะไปแลกเหรียญโดยแท้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่หนุ่มหล่อคนนั้น
บนรถแม้ไม่แน่นมาก แต่ผมก็ได้นั่ง สังเกตเห็นเหมือนกันว่าทุกคนไม่ว่านั่งหรือยืน กดมือถือใส่หูฟังเกือบ 95% มีคนที่มาด้วยกันที่คุยกันบ้าง ผมเข้าใจว่าทุกคนอาจจะเห็นผมแปลกก็ได้ เพราะผมหยิบนิยายมาอ่าน...
ชีวิตผมอยู่ในมือและเท้าของพี่วินอีกครั้ง ในราคา 60 บาทไปสถานีขนส่ง คุณพี่ขยับฉวัดเฉวียนมาก แต่ผมแปลกใจ แทบไม่มีข่าวอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างในกทม.มากนัก
เราเดินทางแซงรถติด ตามซอกหลืบต่าง ๆ มากมาย ลงท้ายพี่วินชมผมว่า "พี่เอวดีนะเนี่ย โยกรู้จังหวะรถ เคยขับวินมาก่อนเหรอ" เป็นคำชมที่เสียว ๆ ชอบกล
สถานีขนส่งที่นี่ เก้าอี้น้อยมาก ผู้คนมากมาย แต่ละช่องขายตั๋วมีรายละเอียดชัดเจนแต่ทำไมยังมีคนมาคอยถามว่า พี่ ๆ ไปไหน นี่ไปนี่ไหม ออกเลย อีกห้านาที คนกลุ่มนี้เยอะมาก ยังไม่นับสารพัดรถตู้ที่หากไม่คุ้นเคยหรือรู้มาก่อน ก็ยากที่จะขึ้นถูกคัน และไม่มีเกณฑ์ใดว่าจะออกเมื่อไร ปลอดภัยไหม
ห้องน้ำชายสถานีขนส่ง โถปัสสาวะเสียทุกอัน ห้องน้ำปิดซ่อมสองห้องจากห้าห้อง อาห์.. นี่คือสถานีขนส่งหลักเหนืออีสานของเราสินะ
แม้การเดินทางจะเหนื่อย แต่ทำให้ได้เห็นอะไรหลายอย่าง ได้ลองออกจากเครื่องช่วยหายใจ ตัวเลขหน้าจอมอนิเตอร์ เสียง alarm ทุกสิบนาที ก็ได้ความสนุกอีกแบบ ได้ปลดปล่อยตัวเอง ได้รีเฟรชตัวเองได้ ไม่ต้องทำอะไรหรูหรา ไม่ต้องไปเที่ยวไกล
สุขทุกข์อยู่ที่ใจและมุมมองครับ
อ้อ... อาหารในกทม. แพงกว่าต่างจังหวัดเยอะเลย
สวัสดีและลาก่อน กรุงเทพมหานคร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม