05 มีนาคม 2560

เราอย่าตัดสินคน ด้วยภาพที่เห็นเท่านั้น

..เราอย่าตัดสินคน ด้วยภาพที่เห็นเท่านั้น...
ที่อำเภอเล็กๆแถบชายแดนห่างไกลแห่งหนึ่ง ห่างจากตัวจังหวัด 65 กิโลเมตร หนทางไม่สะดวกนัก  ฉากที่คุ้นเคยกับนิยายปรัมปราของแอดมิน  ในตอนเช้าตรู่ ไก่ขันดังสนั่น..เจี๊ยบๆๆๆๆ
   "แม่คะ..วันนี้หนูจะไปเป็นเพื่อนแม่ วันนี้หมอนัดใช่ไหมคะ นานๆจะได้หยุดมาอยู่บ้าน อยากพาแม่ไปหาหมอ นะคะ นะคะ" ลูกสาวรบเร้าคุณแม่ด้วยความกระตือรือร้น
   " ก็ดีนะจ๊ะลูก แต่ว่าวันนี้แม่ไปตรวจเบาหวาน เป็นวันคลีนิกเบาหวาน คนจะมาก รอนานนะลูก หนูรอที่บ้าน ทำอาหารให้แม่กินดีไหม"   แต่ลูกก็ยังยืนยันจะพอไป คุณแม่ก็ตามใจ
  ตัดฉากไปที่หน้าห้องตรวจ ลูกสาวเริ่มหงุดหงิด เพราะคนไข้มากมายและรอนาน ลูกสาวบ่นกับคุณแม่ว่า ...นี่มันสองชั่วโมงกว่าแล้วนะคะแม่ ทำไมช้าแบบนี้ คนไข้ก็มากมาย หมอออกตรวจห้องเดียวเอง  ทำไมบริหารงานแย่ๆแบบนี้..  คุณแม่ยิ้ม และปลอบว่า ..แม่ชินแล้วล่ะลูก วันนี้เร็วนะ เพราะเมื่อครั้งที่แล้วแม่ฟังอบรมไปแล้ว ไม่ต้องไปอบรมอีก คุณหมอท่านก็ทำเต็มที่แล้วล่ะ...หันไปมองลูก เห็นลูกกำลังหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูป และโพสต์ลงเฟสบุ๊กว่า นี่แหละ รพ รัฐ รอ..วนไปสิ..หงุดหงิด
     เมื่อถึงคิว เกือบสิบเอ็ดโมงเช้า ...คุณหมอกับคุณแม่ พูดคุยกันดีเชียว ถามสารทุกข์กันใหญ่ อย่างนี้นี่เอง คนข้างนอกจึงรอนาน แถมดูสิ บนโต๊ะยังมีกล่องนมกับขนมจีบด้วย ตรวจไปกินไปใช้ได้ที่ไหน อย่างนี้ต้องถ่ายรูปลง... แล้วลูกสาวก็แอบถ่ายภาพ โดยไม่ได้ฟังสิ่งที่หมอแนะนำแม่ตัวเองเลย
   เวลา 15.00 น. ลูกสาวมาที่ตลาดซึ่งอยู่ข้างๆโรงพยาบาล เพื่อมาหาซื้อของไปทำกับข้าวให้แม่กิน คิดว่าวันนี้จะทำหมูสามชั้นคลุกผงกะหรี่ทอด และ บัวลอยกะทิสด เอาให้อิ่มเพราะเมื่อกลางวันเสียเวลาไปมากเลย พอซื้อเสร็จก็ไปนั่งพักที่ร้านอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม สั่งกาแฟเย็นมาดื่ม ...ทันใดนั้น..ก็เห็นหมอที่ตรวจแม่นั่งกินข้าวอย่างรวดเร็ว กินเสร็จก็ลุกพรวดออกไป
   ...กลัวเราจำได้ล่ะสิ แอบหนีมากินข้าวตั้งแต่ยังไม่เลิกงานเลยนะ...ลูกสาวคิด  แล้วก็ถามอาแปะเจ้าของร้าน หวังเก็บข้อมูลไปถล่มในเฟสบุ๊ก
อาแปะคะ..คุณหมอเขามากินข้าวเย็นตั้งแต่บ่ายเลยนะคะเนี่ย ตอนเช้าก็ตรวจช้า กินของว่างในห้องอีก   ลูกสาวถามเชิงประชดประชัน
อาแปะปาดเหงื่อ..ยิ้ม..ไม่ใช่ข้าวเย็นหรอกหนู คุณหมอณเดชน์น่ะ แกเพิ่งได้กินข้าวเช้า ข้าวกลางวัน รวบมื้อตอนนี้แหละ ปกติก็จะมาตอนบ่ายสอง วันนี้คลีนิกเบาหวาน คนไข้มาก นี่กว่าจะเสร็จก็เลยแวบมากินข้าว...อาแปะอธิบาย
รวบแล้วก็กลับบ้านเลย ยังไม่เลิกเวลาราชการเลย คนไข้ก็รอกันต่อไปสิ นี่หนูถ่ายรูปไว้แล้ว ต้องไปโพสต์เฟสบุ๊ก พวกนี้ต้องใช้โซเชียลตัดสิน..ลูกสาวเริ่มโมโห
อาแปะยกน้ำจับเลี้ยงมาให้...หนูใจเย็นๆก่อน ที่คุณหมอแกรีบมารีบไป ก็เพราะยังมีคนไข้รอนี่แหละ คนไข้ทุกคนที่นี่ทราบดี ไม่ว่าอะไรแกหรอก แกกินข้าวสิบห้านาทีเท่านั้น แล้วก็ไปตรวจต่อ แกถือคติว่า คนไข้ต้องตื่นแต่เช้าอดอาหารมาตรวจ แกก็ต้องตรวจ ต้องเท่ากัน  หลังๆแกสุขภาพไม่ดี เจ้าหน้าที่เขาเลยต้องเอานมกับขนมจีบไปให้แกกินไปก่อน ก็มาเอาจากร้านแปะนี่แหละ..
นี่หมอเขาทำแบบนี้ทุกวันเลยหรือคะ แล้วหมอคนอื่นๆเขาทุ่มเทแบบนี้ไหม..ลูกสาวเสียงอ่อนลง เริ่มเข้าใจ
ที่นี่มีหมอสองคนเท่านั้นหนู  เห็นว่าท่าน ผอ.เคน ธีรเดช ต้องเข้าจังหวัดด่วน ไม่อย่างนั้นวันคลินิกเบาหวานนี้ ไม่ไปไหนหรอก สองหมอกว่าจะมากินข้าว ปาเข้าไปเกือบบ่ายสาม รอจนคนไข้ซาลงนั่นแหละ  น่าสงสารนะ อยู่มานาน สู้มานานทั้งคู่ เงินเดือนก็น้อย พวกชาวบ้านเขาหาข้าวเย็นไปให้บ่อยๆ เพราะแกไม่มีเวลาออกมาตลาด พอออกมาตลาดก็วายแล้ว...
ลูกสาวคิดในใจ ..มิน่า..แม่ไม่บ่นสักคำ แถมพูดกับหมอดี๊ดี
ลูกสาวเปิดเฟสบุ๊ค ลบโพสต์เดิมของตัวเองทิ้ง ก่อนลบเหลือบมอง มีคนมาคอมเม้นท์ช่วยด่าเป็นร้อยเลย ..เฮ้อ..
แล้วก็ลงโพสต์ใหม่ เล่าเรื่องราวที่ฟังจากอาแปะ ให้เพื่อนๆฟังใหม่อีกครั้ง...เริ่มด้วย..เราอย่าตัดสินคนด้วยภาพที่เห็นเท่านั้น.....
หลังจากเก็บร้านขายอาหารตามสั่งเรียบร้อย อาแปะเดินไปที่รถนิสสันมาร์ชสีขาวคันเก่า ถอดหน้ากากและเสื้อกุยเฮงออก เผยเห็นเป็นชายหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดี เขาก้าวขึ้นรถ ปรับกระจกมองหลัง ภาพที่เห็นในกระจก คือ ลายสกรีนสีน้ำเงินบนอกเสื้อ...อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม