เทศกาลกินเจแล้วนะครับ ร้านอาหารต่าง ๆ ได้ทำเมนูอาหารเจออกมามากมาย มีการไปถือศีล การไปพบปะที่โรงเจ ลุงหมอที่น่ารักก็มีสิ่งละอันพันละน้อยเรื่องอาหารเจมาฝาก
อาหารเจ (โดยส่วนใหญ่) จะมีสัดส่วนของแป้งมากกว่าอาหารทั่วไป เนื่องจากสัดส่วนเนื้อสัตว์น้อยลง แน่นอนว่าการรับประทานแป้งเพิ่มจากเดิม อาจจะส่งผลให้น้ำหนักขึ้นและอาจทำให้การควบคุมเบาหวานแย่ลง แต่ที่ต้องย้ำคือ **การกินแป้งมากขึ้น**
เพราะตามปรกติเราก็แนะนำกินแป้งมากกว่าน้ำตาลนะครับ ถึงจะเป็นเบาหวานก็ตาม เพราะแป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ให้พลังงานโดยไม่ได้ไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลินมากเท่าน้ำตาล แต่จ้อสำคัญคือต้องไม่กินแป้งมากเกินไปนั่นเอง ในเมื่ออาหารเจมีสัดส่วนของแป้งมากขึ้น เราจึงต้องลดปริมาณโดยรวมลง กินได้แต่อย่ากินเยอะ นั่นเอง
นอกจากนี้อาหารเจหลายชนิดใช้การทอดและผัด ปริมาณน้ำมันที่ได้รับในช่วงนี้จะมากกว่าปรกติ หมายถึงพลังงานที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้น ในผู้ที่จำกัดพลังงานเช่นผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่ควบคุมน้ำหนัก จะต้องไม่กินมากเกินไป (สอดคล้องกับเรื่องแป้งเช่นกัน)
แม้มีการศึกษาเรื่องไขมันมากมาย ว่าไขมันนั้นดี ไขมันนี้ไม่ดี แต่อาหารทุกชนิดบนโลกไม่มีไขมันตัวใดเดี่ยว ๆ นะครับ มีผสมกันทั้งไขมันอิ่มตัว ไม่อิ่มตัว มีปนกันทั้งไขมันไม่อิ่มตัวสายสั้น สายยาว ในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป คำแนะนำเรื่องอาหารทุกคำแนะนำในโลกนั้น มีข้อกำหนดข้อหนึ่ง ที่เป็นข้อสำคัญมาก แต่คนมักจะมองข้ามไป ข้อนั้นคือ
**บริโภคไขมันให้ลดลง** คนมักจะไปเพ่งเล็งเลือกชนิดของไขมันที่ดีต่อสุขภาพ มองข้ามความสำคัญอันดับหนึ่งไป คือเรื่องปริมาณการบริโภคที่ต้องลดลงก่อนนั่นเอง
อีกประการคือ อาหารที่ชุ่มน้ำมัน อาจจะมีอาการท้องอืด แน่นท้อง ได้ง่ายโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับและทางเดินน้ำดี เช่นตัวเหลือง ตัดถุงน้ำดี ท่อน้ำดีอุดตัน ควรระมัดระวังการบริโภคอาหารผัดทอดครับ
อาหารทุกชนิดมีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่ดี ผสมกันไป เราไม่สามารถเลือกส่วนที่ดีกับเราได้ทั้งหมด มีแต่เลือกให้เหมาะสมที่สุดสำหรับกับแต่ละคนเท่านั้น จึงจะได้ประโยชน์สูงสุดจากอาหาร ดังคำสุภาษิตที่ว่า
ไม่รู้เขา รู้แต่เรา... อ่อยร้อยครั้ง แห้วร้อยครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น