ย้อนอดีต : เรื่องราวของยาสูบ
หลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว พืชชนิดหนึ่งเกิดขึ้นและเจริญเติบโตในทวีปอเมริกา กระจายตัวต่อเนื่องตั้งแต่เขตอบอุ่นของอเมริกาเหนือเรื่อยมาถึงเทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้ พืชชนิดนี้ยึดครองพื้นที่มานาน มันคือ tobacco ต้นยาสูบ
เรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ของยาสูบน่าจะเกิดขึ้นมานานก่อนที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสจะเล่นเรือมาค้นพบอเมริกา ในปี1490 จุดสิ้นสุดของยุคกลาง จุดสิ้นสุดของยุคมืดแห่งยุโรป แต่ไม่มีบันทึกเรื่องใบยาสูบอย่างเป็นทางการ
เรื่องราวเล่าขานจากชาวอินคา ชาวแอซแท็ก และชาวพื้นเมืองอเมริกาเหนือ ที่เราเรียกกันว่าอินเดียนแดง ว่าพวกเขาใช้ใบไม้จากพืชชนิดหนึ่ง เพื่อใช้เป็นยารักษาโรคหลายชนิด รักษาไข้หวัด ปวดหัว ปวดข้อ และใช้ในพิธีกรรมขั้นสูงเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงของมนุษย์และเทพเจ้า มีคำอธิบายในยุคหลังว่าการใช้ใบยาสูบทำให้เกิดอารมณ์เคลิ้มและคึกคักนั่นเอง
ชนพื้นเมืองในดินแดนอเมริกาได้นำใบยาสูบมาใช้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าการเคี้ยว การคั้นน้ำ หรือการนำมาจุดสูบ ณ ที่แห่งนี้ ยาสูบได้รับการยอมรับว่าคือพืชสมุนไพรรักษาโรคที่ทรงคุณค่ามาก
การมาถึงของชาวยุโรปในปลายศตวรรษที่สิบห้า มาพร้อมการล่าอาณานิคม ทำลายทรัพยากร ทองคำ และนำเทคโนโลยีกลับสู่แผ่นดินยุโรป หนึ่งในนั่นคือ ยาสูบ นั่นเอง
เมื่อชาวยุโรปได้มาถึงอเมริกา ได้เรียนรู้การใช้ใบยาสูบจากชนพื้นเมือง และที่นี่ชาวยุโรปได้พัฒนาการใช้ใบยาสูบมาเป็นการตากแห้งและจุดสูบ วิธีนี้นอกจากจะส่งนิโคตินเข้าสู่ร่างกายได้เร็ว ทำให้ความเคลิบเคลิ้ม ความบันเทิงที่ได้จากยาสูบมีมากกว่าเดิม และในแง่การรักษาพยาบาล หมอผู้รักษาและสูบยาและพ่นควันใส่ใบหน้า บาดแผล ของผู้ป่วยด้วยความเชื่อว่า ไม่ใช่เพียงตัวยาจากใบยาสูบเท่านั้น ร่างกายและจิตวิญญาณของผู้รักษาและเทพเจ้า ได้ถูกส่งผ่านจากเทพเจ้า ผ่านตัวผู้รักษาโดยใช้ควัน มาถึงผู้ป่วย
ยาสูบเริ่มได้รับการยกระดับ จากสมุนไพรชาวบ้าน เป็นสมุนไพรชั้นสูงและแน่นอน ความต้องการสูงขึ้น การเพาะปลูกมากขึ้น ราคามากขึ้น
ในขณะที่ผืนแผ่นดินอเมริกานั้น เกษตรกรรมยาสูบได้รับความความนิยมมากขึ้น ในภาคพื้นยุโรป ยาสูบก็เริ่มแพร่หลาย เริ่มจากยาสูบที่โคลัมบัสนำกลับไปสเปนในปี 1492 เป็นของขวัญแทนใจจากชาวพื้นเมืองสู่ราชสำนักสเปน ฐานะของใบยาสูบที่มาสู่แผ่นดินยุโรปในครั้งนั้นจึงสูงค่าและเป็นที่ต้องการอย่างมาก
ในช่วงศตวรรษที่ 17 ยาสูบที่ได้รับการนำเข้าจากแผ่นดินอเมริกาถือว่าเป็นสินค้าชั้นเลิศ ใช้ในหมู่ชนชั้นสูง ราชสำนัก ใช้เพื่อความบันเทิง ใช้ในงานเลี้ยง หลังจากกินเลี้ยงและดื่มกินแล้ว จะมีการ "ดื่ม" ยาสูบ ด้วยการใช้ใบยาสูบตากแห้ง นำมาจุดสูบด้วยกล้อง พ่นควันฉุย คุยการเมือง เป็นสินค้าเพื่อความรื่นเริงบันเทิงใจ
นอกเหนือจากการใช้เพื่อความบันเทิงเริงใจแล้ว บรรดาแพทย์ในยุคเรอเนสซองต์ของยุโรปก็เรียนรู้และเลียนแบบการใช้ยาสูบในรูปสมุนไพรจากอเมริกา ไม่ว่าจะเคี้ยวใบสด จะรมควันคนไข้ หรือพ่นควันใส่ใบหน้า จะถือว่าเป็นการรักษาชั้นดี ครั้งหนึ่งวิธีการกู้ชีพจากการจมน้ำ จะต้องพ่นควันจากการสูบยาสูบ จากปอดผู้ช่วยเหลือเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย
ธุรกิจการปลูกยาสูบ การจำหน่ายยาสูบ เริ่มแพร่สะพัดตามความต้องการที่สูงขึ้น ยาสูบเริ่มแพร่ขยายออกไปทั่วทุกมุมโลกตามการคมนาคมในยุคล่าอาณานิคมและปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อเข้าสู่ยุคศตวรรษที่ยี่สิบ อุตสาหกรรมยาสูบมีค่ามหาศาล การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้ธุรกิจยาสูบจากเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มราคาแพง กลายเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงและซื้อหาได้ บริษัทบุหรี่ที่ใหญ่โตขยายการค้าการลงทุนไปทั้งโลก งบประมาณการโฆษณาในขณะนั้น เป็นรองแค่ธุรกิจยานยนต์เท่านั้น
แต่ในขณะนั้น กระแสเล็ก ๆ ของพิษที่เกิดจากยาสูบเริ่มก่อตัวขึ้น รอยแผลเรื้อรังจากการสูบบุหรี่ รอยโรคที่อธิบายไม่ได้จากบุหรี่ โดยเฉพาะเนื้องอกจมูก เพราะสมัยนั้นการสูบยาสูบนิยมพ่นควันออกทางจมูก มาในระยะหลังที่ดาราผู้นำเสนอ ใช้วิธีพ่นออกปากแล้วดูเก๋ขึ้น จึงพบรอยโรคในช่องปากมากขึ้น
ผ่านมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง ถือว่าธุรกิจยาสูบพุ่งสู่จุดสูงสุด ทหารในสงครามถือว่าบุหรี่คือหนึ่งในอุปกรณ์สนามที่สำคัญ การแพร่กระจายของบุหรี่ตามไปกับพื้นที่สงคราม มีการผลิตบุหรี่รูปแบบต่าง ๆ เช่น เพื่อทหาร เพื่อสุภาพสตรี ตอบสนองความต้องการหลายหลาก มีการผลิตรสชาติและรูปแบบต่าง ๆ ออกมามากมาย มีความโก้เก๋
มีความเชื่อมากมายว่าการสูบบุหรี่จะช่วยร่างกายหลายอย่าง การโฆษณา การแทรกแซงนโยบายการเมือง เรื่องเหล่านี้มีมายาวนานมากกว่าห้าร้อยปี
จนมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง หน่วยงานสุขภาพต่าง ๆ นำโดย US General Sergeon ได้ออกมาเผยแพร่ผลกระทบสุขภาพจากบุหรี่ มีงานวิจัยที่เชื่อถือได้ ชัดเจนและหนักแน่นปริมาณมากมายที่ออกมาสนับสนุนเรื่องพิษภัยจากบุหรี่
ในปี 1950-1960 ความเสียหายเชิงสุขภาพของบุหรี่ได้รับการศึกษาและยอมรับมาปฏิบัติเป็นวงกว้างส่งผลให้เกิด
▪การควบคุมโฆษณา การควบคุมการเข้าถึง
▪การควบคุมเขตสูบบุหรี่ การควบคุมด้วยกฎหมาย
▪การใช้กฎหมายภาษีการควบคุมยาสูบ
▪ความร่วมมือระดับนานาชาติที่จะลดอันตรายจากบุหรี่และควบคุมยาสูบ
▪การควบคุมโฆษณา การควบคุมการเข้าถึง
▪การควบคุมเขตสูบบุหรี่ การควบคุมด้วยกฎหมาย
▪การใช้กฎหมายภาษีการควบคุมยาสูบ
▪ความร่วมมือระดับนานาชาติที่จะลดอันตรายจากบุหรี่และควบคุมยาสูบ
หลังจากความตื่นตัวเรื่องโทษของบุหรี่มามากกว่า 40 ปี โรคและพิษภัยของบุหรี่แม้เริ่มลดลง แต่ก็ยังเป็นปริมาณมหาศาลหากเทียบกับอัตราการเสียชีวิตโดยรวม แม้จะทำให้บริษัทจำหน่ายบุหรี่ต้องเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ (คุ้กกี้โอรีโอ ก็เป็นธุรกิจอันหนึ่งของบริษัทบุหรี่) หรือต้องคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค แต่บุหรี่ก็ยังเป็นสินค้าทำกำไรอันดับต้น ๆ ของโลก
คิดว่าคุณคงได้เห็นภาพรวม ที่มา การเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย และเข้าใจว่าเหตุใดการควบคุมยาสูบและการรณรงค์การเลิกบุหรี่ไม่ได้ทำง่ายนัก สิ่งที่สั่งสมมากว่าพันปีสำหรับยาสูบ ยังหยั่งรากลึกในสังคมมนุษย์ แม้ความรู้และเทคโนโลยีปัจจุบันจะ "disrupt" ความเข้าใจต่าง ๆ ไปมากมายก็ตามที
น่าสนใจว่าหลังจากนี้ต่อไป ความเปลี่ยนแปลงในเรื่องยาสูบ ความรู้เรื่องยาสูบ จะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของโลกใบนี้ทั้งในแง่สุขภาพ สาธารณสุข และธุรกิจต่าง ๆ อย่างไร
เฝ้าติดตามต่อไปด้วยใจระทึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น