รัฐบาลออสเตรเลียประกาศรับรองการแต่งงานของเพศเดียวกัน ...วารสาร JAMA ลงบทความเกี่ยวกับการดูแลทางการแพทย์ของผู้ป่วยในกลุ่ม LGBT ในเวลาไล่เลี่ยกัน
LGBT lesbian, Gay, Bisexual, Transgender จากกราฟที่บอกว่าปัจจุบันพบมากขึ้น จริงๆผมคิดว่าไม่ได้มากขึ้นหรอกเพียงแต่เปิดเผยมากขึ้นต่างหาก จากการที่เคยต้องหลบซ่อนแต่ปัจจุบันสังคมยอมรับ และไม่ได้ใช้บรรทัดฐานทางเพศมาตัดสินคนอีกต่อไป
ในทางการแพทย์นั้น สิ่งที่เราเรียนมาจนถึงตำรายุคปัจจุบัน เราแยกเพศชัดเจน คือ โรคบางโรคเพศส่งผล เช่น โรคหัวใจผู้ชายเป็นมากกว่า โรครูมาตอยด์ผู้หญิงเป็นมากกว่า อันนี้คือเพศจริงๆ แต่ในโรคบางโรคเพศสภาพจะมีผล เช่น ลักษณะการมีเพศสัมพันธ์กับโอกาสเสี่ยงโรคต่างๆที่ไม่เท่ากัน การผ่าตัดแปลงสภาพเพศ การใช้ฮอร์โมนเพื่อปรับเพศสภาพ ย่อมมีผลต่อการวินิจฉัยและการรักษา จึงเลี่ยงยากที่จะ "ไม่เจอ" ผู้ป่วยกลุ่มนี้
ในทางการแพทย์นั้น สิ่งที่เราเรียนมาจนถึงตำรายุคปัจจุบัน เราแยกเพศชัดเจน คือ โรคบางโรคเพศส่งผล เช่น โรคหัวใจผู้ชายเป็นมากกว่า โรครูมาตอยด์ผู้หญิงเป็นมากกว่า อันนี้คือเพศจริงๆ แต่ในโรคบางโรคเพศสภาพจะมีผล เช่น ลักษณะการมีเพศสัมพันธ์กับโอกาสเสี่ยงโรคต่างๆที่ไม่เท่ากัน การผ่าตัดแปลงสภาพเพศ การใช้ฮอร์โมนเพื่อปรับเพศสภาพ ย่อมมีผลต่อการวินิจฉัยและการรักษา จึงเลี่ยงยากที่จะ "ไม่เจอ" ผู้ป่วยกลุ่มนี้
การศึกษาเรื่องผลของสุขภาพกายและใจในผู้ป่วย LGBT มีมาสักระยะแล้ว ก็พบว่าสุขภาพกายและใจ จะน้อยกว่า ความสัมพันธ์ต่างเพศ อาจเป็นเพราะกำแพงเรื่องการยอมรับและการสื่อสาร ความรู้สึกว่าถูกดูหมิ่น ทำให้ขาดโอกาสการเข้ารับบริการ หรือไม่กล้าบอกข้อมูลจนหมด
แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์เองที่รู้สึกอิหลักอิเหลื่อ แทนที่จะช่วยอย่างเต็มใจ
แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์เองที่รู้สึกอิหลักอิเหลื่อ แทนที่จะช่วยอย่างเต็มใจ
และยังรวมไปถึงความเสี่ยงบางอย่างที่ไม่ได้เปลี่ยนตามเพศสภาพ เช่น สุภาพสตรีที่ต้องการเป็นชาย แต่ยังไม่ได้ตัดมดลูก แน่นอนความเสี่ยงเรื่องโรคมะเร็งนรีเวชจะยังคงอยู่ หากผู้ป่วยละเลยหรือหมอละเลย ก็จะเป็นปัญหาได้ ...บางคนก็แยกไม่ออกจริงๆนะครับ ถ้าไม่ถามหรือไม่ดูคำนำหน้าชื่อ ประวัติเรื่องฮอร์โมน ประจำเดือนต่างๆเนี่ย อาจไม่ได้ถามเลย
ประวัติสภาพงาน สภาพชีวิต เช่น หน้าที่การงาน การประกัน ที่เงื่อนไขอาจจะเปลี่ยนไป
ประวัติสภาพงาน สภาพชีวิต เช่น หน้าที่การงาน การประกัน ที่เงื่อนไขอาจจะเปลี่ยนไป
การสื่อสารข้อมูลต้อง "เป็นมวย" มากขึ้น ผู้ป่วยกลุ่ม LGBT บางรายก็ไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลเช่นแจ้งว่า อยู่กับรูมเมท อยู่กับเพื่อน อาจต้องใช้เวลาและจังหวะที่จะถามเรื่องความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมทางเพศ หรือถ้าถึงคู่แต่งงานในอนาคตอาจต้องถามด้วยว่า เพศเดียวกันหรือไม่
และสิ่งต่างๆนี้เป็นพลวัติ คือ วันนี้เขาอาจเป็นแบบหนึ่ง วันหน้าเขาอาจเป็นอีกแบบก็ได้ ผู้ป่วยหลายรายที่เป็น bisexual วันที่มาตรวจให้ประวัติว่าคู่ชีวิตเป็นเพศนึง ในวันหลังเขาก็อาจจะเปลี่ยนได้นะครับ เรื่องพวกนี้เป็นจริงและเกิดขึ้นบ่อย พวกเราต้องยอมรับและปรับตัวให้ทันเช่นกัน
และสิ่งต่างๆนี้เป็นพลวัติ คือ วันนี้เขาอาจเป็นแบบหนึ่ง วันหน้าเขาอาจเป็นอีกแบบก็ได้ ผู้ป่วยหลายรายที่เป็น bisexual วันที่มาตรวจให้ประวัติว่าคู่ชีวิตเป็นเพศนึง ในวันหลังเขาก็อาจจะเปลี่ยนได้นะครับ เรื่องพวกนี้เป็นจริงและเกิดขึ้นบ่อย พวกเราต้องยอมรับและปรับตัวให้ทันเช่นกัน
การศึกษาเรื่องสุขภาพและโรคอนาคตอาจต้องเพิ่มกลุ่ม LGBT ด้วย และการรับรองสิทธิต่างๆคงจะมากขึ้น ใน Harrison Principle of Internal Medicine พิมพ์ครั้งที่ 19 ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ด้วย อนาคตเราคงพบมากขึ้นครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น