ท่านเคยโดนคุณหมอเอาไม้กดลิ้นแตะด้านลึกของลิ้นแล้วขย้อนหรือไม่ครับ ..เราเรียกว่า Gag reflex..
Gag reflex เป็นการตอบสนองของร่างกายที่ใช้ปกป้องร่างกายจากการสำลักหรือกลืนของลงหลอดลม เมื่อมีอะไรแตะ เพดานอ่อนและลิ้นไก่จะยกตัวขึ้น กล้ามเนื้อหอคอยจะบีบตัว ปิดไม่ให้ลงหลอดลมและขย้อนสิ่งแปลกปลอมออกมา บางคนก็ถึงขั้นอาเจียนเลย
การทำงานของ Gag reflex คือการรับประสาทรับความรู้สึกบริเวณโคนลิ้นและคอหอย (จากการถูกสัมผัสในการทดสอบ) ผ่านเส้นประสาทสมองคู่ที่ 9 ชื่อ glossophayngeal nerve นำความรู้สึกเข้าไปที่ก้านสมองส่วน medulla oblongata แล้วไม่ต้องประมวลผลใดๆ เป็นช่องทางด่วนเลยว่าถ้าสัญญาณนี้เข้ามา ให้ส่งสัญญาณออกไปทันที ผ่านทางเส้นประสาทสมองคู่ที่ 10 ชื่อ vagus nerve ให้กล้ามเนื้อรอบคอหอย (constrictor muscle) บีบตัวขย้อนออก
การทำงานแบบไม่ต้องผ่านกระบวนการคิดและแปลผลนี่แหละที่เรียกว่า รีเฟลกซ์ (reflex) เพราะถ้าผ่านกระบวนการคิดก็จะมีอีกหลายขั้นตอน ช้าเกินไป เหมือนเวลาเราเดินไปเหยียบเข็มหมุด แล้วชักเท้ขาระตุกขึ้นมาทันที อันนี้ก็เป็นรีเฟล็กซ์ระดับไขสันหลังเช่นกัน
การแปลผลต้องใช้ความรู้เรื่องกายวิภาคระบบประสาทพอสมควร คือการรับความรู้สึกแยกรับซ้ายและขวา แต่เวลาขย้อนนั้น พร้อมกันทั้งซ้ายและขวา การตรวจแตะแล้วดูการตอบสนองทั้งซ้ายและขวาจึงเป็นการตรวจที่ถูกต้องและแยกได้ว่า ตกลงเส้นประสาทเส้นใดเสีย เส้นเก้าหรือสิบ ซ้ายหรือขวา โดยส่วนมากที่จะเสียมักเป็นความผิดปกติที่เส้นประสาทโดยตรง หรือที่ก้านสมองส่วน medulla oblongata เช่น หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้านสมองตีบตัน
ความเสียหายที่สมองด้านบน ที่เราพบบ่อยๆเวลาอัมพาตนั้น มักไม่ค่อยเสียหายตรงนี้ เพราะมีการควบคุมจากสมองใหญ่ทั้งสองด้านนั่นเอง
การสูญเสีย gag reflex ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญในการสูดสำลัก และติดเชื้อในปอดจากการสูดสำลัก อันตรายลำดับต้นๆของการเสียชีวิตในผู้ป่วยอัมพาต การตรวจ gag จึงมีความสำคัญ
แต่ว่าการตรวจ Gag Reflex ก็ไม่ได้แนะนำให้ทำทุกราย เพราะมันเป็นการตรวจที่รุกล้ำ และไม่สุขสบาย จึงแนะนำทำการตรวจเฉพาะรายที่สงสัยโรคของระบบประสาทที่การตรวจมีประโยชน์ เช่น ตรวจสอบการป้องกันการสำลักในอัมพาต ตรวจสอบการทำงานของศูนย์ควบคุมที่ก้านสมอง การทำงานเส้นประสาท โรคของสารสื่อประสาท หรือ กล้ามเนื้อบริเวณคอหอย
สำหรับการศึกษาหาความสัมพันธ์ของรีเฟล็กซ์การขย้อนและโรคปอดอักเสบจากการสูดสำลักก็ไม่ได้พบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนนัก แต่ก็เป็นข้อมูลพื้นฐานในการระมัดระวังเรื่องการกลืนการสำลักได้ดีครับ หรือใช้เป็นตัวพยากรณ์โรคตัวหนึ่งเท่านั้น ในหลายๆปัจจัยที่มีได้ครับ ตามที่ค้นมาและสามารถสืบๆหาวารสารมาอ่านได้ ส่วนมากเป็นวารสารทางแพทย์โสต ศอ นาสิกและลาริงซ์วิทยา ผมไม่ได้เป็นสามชิกครับ
Head Neck. 1996 Mar-Apr;18(2):138-41.
Clin Otolaryngol Allied Sci. 1993 Aug;18(4):303-7.
Rev Lat Am Enfermagem. 2015 Apr 14:0
สำหรับคนที่ไม่ได้สงสัยความผิดปกติตรงนี้อาจลองคัดกรองก่อนโดยการให้ดื่มน้ำเปล่าครับ ถ้าดื่มได้ราบรื่นดี ก็ไม่น่าจะมีปัญหากระบวนการขย้อนครับ เพราะการกดโคนลิ้น บางครั้งก็ทำให้คนไข้คนนั้นไม่อยากไปหาหมอเลยก็ได้นะครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
คำถามจากทางบ้าน : น้ำอสุจิมีมดตอม แบบนี้ เป็นเบาหวานไหม อย่างแรกคนที่ถามคำถามนี้เป็นสุภาพสตรี ต้องนับถือในความช่างสังเกตสิ่งรอบตัวจริง ๆ ค...
-
Acute pancreatitis จากที่ตอนที่แล้ว เราได้กล่าวถึงตับอ่อนอักเสบในภาพรวม สำหรับโพสต์วันนี้ขอเล่าถึงในภาพลึกในเชิงปฏิบัติบ้างนะครับ ตามสัญญา...
-
ปฏิบัติการ I/O สะท้านโลก I/O ทางการแพทย์เราคือ intake -- output ปริมาณสารน้ำเข้าออกในร่างกาย ไม่ได้เกี่ยวกับปฏิบัติการข่าวสารอันเลื่องลื...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น