กระอักเลือด จิวยี่

จิวยี่ ขุนพลนักรบที่ภรรยางามมาก ..กระอักเลือดถึงแก่ความตาย ...คุณคิดอย่างไร

จิวยี่ ผู้บัญชาการกองทัพแห่งง่อก๊ก ฐานที่มั่นที่เมืองกังตั๋งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน (เราคิดว่าปัจจุบันนี้คือเมืองนานกิง) ด้วยความที่ติดทะเลและแม่น้ำ จิวยี่จึงเป็นเลิศด้านการรบทางน้ำ คุณจิวยี่เกิดมาในครอบครัวมีอันจะกิน ได้รับการศึกษาอย่างดีตั้งแต่เด็กทั้งทางด้านวิชาการ ทักษะการทหาร การรบประชิดตัว ผ่านโรงเรียนการเมืองและ ชอบเล่นดนตรีอีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องต้มยำ ขึ้นครองตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แห่งกังตั๋ง ตั้งแต่อายุ 26 ผลงานการรบเป็นที่ประจักษ์ การวางหมากกล การล่อใช้คน ความใจกว้าง เป็นที่ยอมรับในยุทธจักร
แต่ประเด็นที่เป็นที่ฮือฮาที่สุดคือ เขาสามารถครองใจสาวงามระดับมิสเวิร์ลเลย แม่นางเสียวเกี้ยว ..อูยฟังชื่อก็เสียวแล้ว แม่นางเสียวเกี้ยวถือว่าเป็นยอดหญิงงาม ฉลาด สวย เอ็กซ์ ดูท่าจิวยี่น่าจะฟินที่สุดแล้ว แต่ว่าเขากลับมาจบชีวิตตอนอายุ 36 ปีเท่านั้น

ข้อมูลที่เราได้จากสามก๊กคือ จิวยี่นั้นชิงความเป็นเลิศอยู่กับจูกัดเหลียง หรือคุณขงเบ้งอยู่หลายครั้ง เรียกว่ากินกันไม่ลง เคยมีการ "กระอักเลือด" ก่อนหน้านี้มาแล้วสองครั้ง จนสุดท้ายที่สมรภูมิรบเมืองล่ำกุน เพื่อแย่งชิงเกงจิ๋ว จุดยุทธศาสตร์สำคัญในการรุกขึ้นเหนือของง่อก๊ก การรบครั้งนั้น จิวยี่ถูกยิงด้วยธนูและบาดเจ็บอยู่พักหนึ่ง เมื่อเข้าใจว่าเสียรู้ขงเบ้งก็ "กระอักเลือด" ครั้งที่สาม และเสียชีวิต ...เราลองมาคิดเล่นๆว่าเขาตายเพราะอะไร

กระอักเลือดนั้น ทางการแพทย์คงต้องแยกออกสองกรณีคือ อาเจียนเป็นเลือด หรือ ไอเป็นเลือด สิ่งที่จะแยกกันง่ายๆคือ ถ้าเลือดออกมาสีคล้ำๆมีเศษอาหารปนก็น่าจะเป็นอาเจียนปนเลือด แต่ถ้าออกมาสีสดๆ มีฟองอากาศมาก ก็น่าจะเป็นไอเป็นเลือด ข้อมูลตรงนี้คงแยกยาก เพราะไม่มีรายละเอียดอื่นเช่น เจ็บจุกท้อง ตัวเหลือง ที่อาจบอกว่าเป็นอาเจียนเป็นเลือดจากตับแข็งแล้วหลอดเลือดดำที่หลอดอาหารโป่งออก แต่เพราะจิวยี่ป่วย อาจกินยาที่มีการกัดกระเพาะได้ หรือ จิวยี่และนักรบสมัยก่อนชอบดื่มเหล้าก็คงมีแผลในกระเพาะอาหารบ้าง อันนี้ก็อาจเป็นอาเจียนเป็นเลือดได้

หรือ อาจเป็นไอเป็นเลือดได้ จากการที่เจ็บป่วย อาจเกิดภาวะติดเชื้อรุนแรงจนเกิดเลือดไหลไม่หยุดที่เรียกว่า DIC คือการอักเสบไปกระตุ้นทำให้เกิดลิ่มเลือดเล็กๆทั่วไปในร่างกายจนใช้สารแข็งตัวไปหมดสิ้น เลือดที่เหลือจึงออกง่ายหยุดยาก และนิยายบอกว่า จิวยี่ถูกธนูทำให้ป่วยจากธนู ก็คิดถึงการติดเชื้อจากบาดแผล เชื้อก่อโรคที่ทำให้ติดเชื้อจากบาดแผล ลุกลามเร็ว ลามตามกระแสเลือดไปที่ปอด ทำลายเนื้อปอดอย่างรวดเร็วแบบนี้ และเป็นหนึ่งในเชื้อโรคที่ทำให้ไอเป็นเลือดจากปอดติดเชื้อได้คือเชื้อแบคทีเรีย staphylococcus aureus เชื้อโรคประจำผิวหนังเรานั่นเอง

**แสดงว่าเหตุผล เรื่อง ไม่ไอก็อาเจียนเป็นเลือดจนตายดูมีเค้าลาง**

ข้อมูลต่อมาคือ เสียชีวิตหลังจากกระอักเลือด เอาว่าถ้าเร็วๆแบบนี้ก็จะคิดว่าไอแล้วสำลักลงปอดมากกว่า (asphyxia from massive hemoptysis) ส่วนไอเป็นเลือดเล็กๆน้อย คือน้อยกว่า 200 ซีซีต่อครั้ง หรือน้อยกว่า 600 ซีซีต่อวัน โอกาสจะไปอุดตันจนขาดอากาศเฉียบพลันนั้นน้อยมาก หรือในกรณีถ้าอาเจียนออกมามากๆก็อาจสูดสำลักจนขาดอากาศได้ซึ่งเป็นอันตรายที่สำคัญของคนที่เลือดออกทางเดินอาหารแต่ไม่ค่อยรู้สติ บางครั้งเราต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อกันการสำลัก

**ตรงนี้ น้ำหนักของไอเป็นเลือดปริมาณมาก ดูสมเหตุผลมาก ส่วนอาเจียนจนสูดสำลักก็ตกไปบ้างเพราะจิวยี่ยังครองสติได้ดีขณะพูดจาก่อนตาย ยังบัญชาการรบได้ ถ้าเลือดออกทางเดินอาหารมากขนาดนั้นน่าจะลุกไม่ขึ้นแล้ว**

แต่ว่าจะไปบอกว่าปอดอักเสบติดเชื้อลามมาจากการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยเฉพาะเชื้อ Staphylococcus aureus ก็ดูจะขัดไปหน่อยกับประวัติที่ยังลุกมาบัญชาการรบได้ ไม่โทรมเท่าไร และยังมีประวัติว่าเคยกระอักเลือดก่อนหน้านี้มาแล้วสองครั้งแต่ไม่ตาย ...แสดงว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดไอเป็นเลือด
ไอเป็นเลือดปริมาณมากนั้น พยาธิสภาพต้องมีการฉีกขาด ทำลายหรือบาดเจ็บของหลอดเลือดแดงที่ปอดอย่างแน่นอน เพราะถ้าเป็นแผลซึมๆ หรือเลือดออกในหลอดลม (alveolar hemorrhage) มักจะมีอาการขาดอากาศหายใจลำบากมาก่อน เพราะมันค่อยๆออกมา แต่ถ้าออกมาเร็วๆมากๆ น่าจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด หรือทำให้หลอดเลือดมีปัญหา

***ดูมีเหตุผลนะ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยกระอักเลือดโดยที่ไม่ได้ติดเชื้อแบบนี้ แสดงว่าที่ตายอาจจะตายจากโรคหลอดเลือดเดิมที่มากำเริบตอนนี้ ..เพียงแต่ก่อนหน้านี้อาจไม่รุนแรง คราวนี้รุนแรงเพราะติดเชื้อร่วมด้วย โรคอะไรล่ะ***

โรคที่มีหลอดเลือดผิดปกติ เคยเกิดอาการมาแล้วและเกิดซ้ำ เกิดในคนอายุไม่มากเท่าไร ร่างกายแข็งแรงดีมากสามารถรบได้ดีแถมเมียสวยติดแจ แสดงว่าเวลาไม่มีอาการกำเริบจะเป็นปรกติ ผมคิดถึงโรคต่างๆดังนี้

pulmonary AV malformation คือ หลอดเลือดแดงและดำมันมาเชื่อมต่อกัน ทำให้ตรงนั้นเป็นจุดอ่อน วันดีคืนร้ายก็แตกออกตายได้ แต่ว่าไม่น่ารอดครั้งสองครั้งแรกมาได้

pulmonary vasculitis หลอดเลือดผิดปกติ อักเสบเรื้อรัง และเลือดอาจรั่วออกได้เอง หายเอง ครั้งนี้มีการติดเชื้อร่วมด้วยเลยรุนแรง เช่น เอสแอลอี ,Wegener' granulomatosis, แต่พวกนี้มีอุบัติการณ์ในสตรีมากกว่าชายหลายเท่า

pulmonary aneurysm หลอดเลือดมันโป่งพองเป็นกระเปาะ วันดีคืนร้ายก็แตกออก อาจเป็นความผิดปกติแต่แรกเกิด หรืออาจเป็นสิ่งที่พบบ่อยในบ้านเราคือ ถุงลมโป่งพอง หลอดลมโป่งพอง แล้วไปดึงรั้งทำให้หลอดเลือดผิดรูป หรือเป็นแผลหลังจากหายจากการเป็นวัณโรค ที่เรียกว่า rasmussen aneurysm ...เจอน้อยมากครับ

ส่วนตัวแล้วจากหลักฐานในวรรณคดี บวกความรู้ทางการแพทย์ก๊อกๆแก๊กๆ และจินตนาการอันบรรเจิด (คือจินตนาการถึงแต่เสียวเกี้ยว) คิดว่าจิวยี่น่าจะเป็น pulmonary vasculitis ครับ และกำเริบเนื่องจากร่างกายอ่อนแอมากจากการติดเชื้อแผลถูกธนูยิง แม้ว่าสองโรคที่เหลือคือ AVM และ aneurysms จะดูเหมือนมากๆ แต่ว่าจริงๆอุบัติการณ์การเกิดถือว่าน้อยมากๆเลยทีเดียว
ส่วนสาเหตุที่พบบ่อยๆ ของไอเป็นเลือด ก็ปอดอักเสบ ไม่ว่าเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียหรือวัณโรค, หลอดลมโป่งขยาย (bronchiectasis), มะเร็งปอด แต่บังเอิญน้องยี่ ไม่มีข้อมูลชวนให้คิดถึงโรคพวกนี้ครับ

ใครมีแนวคิดดีๆมาแลกกันได้ ... คิดสนุกๆบวกความรู้ติดปลายนวม เอาใจคนอ่านสามก๊กจบสามรอบ เพราะคงต้องมาคบกันเองในหมู่พวกเรา ฮ่าๆๆๆ

อย่าลืมอ่านเบื้องหลังนะ..
...
...เมื่อที่จิวยี่ล่วงลับไปแล้ว รองแม่ทัพชราหน้าหนุ่มขึ้นมาเป็นแม่ทัพแทน และก็กำลังเคลมเสียวเกี้ยวด้วย หลังจากพาเสียวเกี้ยวไปดินเนอร์สามครั้ง เธอก็ใจอ่อน ยอมไปดื่มชารอบดึกกับท่านแม่ทัพคนใหม่ ที่ห้องโถงเรือนท่านแม่ทัพ ขณะที่เสียวเกี้ยวนั่งอยู่นั่น บังเอิญเหลือบไปเห็น...

..อุปกรณ์การแปลงตัว หน้ากากหมอหลวง ขนมต้มแดง วิกผม ซุกอยู่ในหีบหลังตู้

..
..เธอเดินเข้าไปคุ้ยหีบนั้น และเจอสิ่งที่ทำให้เธอตกใจสุดขีด ...ห่อยากันเลือดแข็ง warfarin
พร้อมๆกันนั้นเธอก็ได้ยินเสียงประตูห้องปิด เสียงล็อกกระตูดังกริ๊ก
..
และเสียงกระแอมเบาๆ ...หึหึหึ