สาวที่ฮอตที่สุดในโลก คือ african-american girls .... มีงานวิจัยสนุกๆมาให้ทราบเป็นเกร็ดความรู้
คุณหมอสองท่านและนักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เกิดความคิดเจ๋งๆในการนำเอา big data ข้อมูลที่ได้จากการเก็บต่างๆ มาประมวลผลทางการแพทย์ เพื่อตอบคำถามว่าตกลงอุณหภูมิกายปกติของมนุษย์มันเท่าไรกันแน่และแปรปรวนมากไหม
คณะที่ศึกษาจึงใช้ข้อมูลจากการเก็บข้อมูลมหาศาลตอนที่คนมารักษาผู้ป่วยนอกที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องไข้ ซึ่งต้องบันทึกอุณหภูมิ เพศ อายุ เชื้อชาติ เวลาที่วัด ฤดูกาล เอาข้อมูลที่มีมาวิเคราะห์ เพื่อหาคำตอบ
แต่ว่าได้ความจริงตามข้อมูลหลายประการ เอามาเล่าสนุกๆนะครับ อย่าถือเป็นจริงจังมากเพราะเป็นขั้นตอนการเก็บ cohort จาก big data ของระบบคอมพิวเตอร์ และจากแค่โรงเรียนแพทย์แห่งเดียวเท่านั้น
คณะที่ศึกษาจึงใช้ข้อมูลจากการเก็บข้อมูลมหาศาลตอนที่คนมารักษาผู้ป่วยนอกที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องไข้ ซึ่งต้องบันทึกอุณหภูมิ เพศ อายุ เชื้อชาติ เวลาที่วัด ฤดูกาล เอาข้อมูลที่มีมาวิเคราะห์ เพื่อหาคำตอบ
แต่ว่าได้ความจริงตามข้อมูลหลายประการ เอามาเล่าสนุกๆนะครับ อย่าถือเป็นจริงจังมากเพราะเป็นขั้นตอนการเก็บ cohort จาก big data ของระบบคอมพิวเตอร์ และจากแค่โรงเรียนแพทย์แห่งเดียวเท่านั้น
ผลที่พบดังนี้
1. จากการวัดกว่าสองแสนราย เป็นหญิงชายพอๆกัน ส่วนมากเป็นคนผิวขาวอายุประมาณ 50 ปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 36.6 องศาเซลเซียส เป็นการวัดทางปากเสียเกือบหมด
2. อุณหภูมิที่วัดจากทางปากจะสูงกว่าจุดอื่นทั้งรักแร้ หรือหูชั้นกลาง แต่มันก็แปรปรวนมากนะ เทคนิค ความชื้น..ฯลฯ ก็เอาเป็นว่าที่ต่างกันน่ะเป็นจุดทศนิยมสองตำแหน่งครับ 0.05 0.03 ประมาณนี้ อาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงการจัดการมากนัก
3. ความแปรปรวนอุณภูมิมีหลายอย่าง แต่พยายามใช้การคำนวนเพื่อลดความแปรปรวน แต่ก็ยังพบว่า สภาพอากาศ ความชื้น การสวมเสื้อผ้าแบบต่างๆ เชื้อชาติ ขนาดตัว มีผลต่ออุณหภูมิกาย "ปรกติ" ของแต่ละเชื้อชาติจริงๆ
4. ค่ากลางประมาณ 36.6 แปรปรวนไม่มาก 35.7-37.3 องศา
5. เวลาที่ฮอตที่สุด บ่ายสามถึงบ่ายสี่ อย่าไปทำให้ใครโกรธตอนนี้ล่ะ เวลาที่เย็นที่สุดที่เจ็ดโมงเช้า น่าจะเป็นการตื่นนอนใหม่ๆ กิจกรรมไม่มาก แต่ก็เปลี่ยนแปลงบวกลบจากเดิมสูงสุดต่ำสุดแค่ 0.04 องศา ส่วนเดือนที่ฮอตที่สุดของอเมริกาเขาคือ กรกฎาคม ของเราน่าจะทั้งปี
6. คนที่ฮอตที่สุดคือหญิงเชื้อชาติแอฟริกันอเมริกัน ... ฮอตขึ้น 0.052 องศา บียองเซ่, รีฮานน่าห์, เซเรน่า วิลเลียมส์ ส่วนคนที่คูลที่สุด คือที่คนประสบการณ์ทางอายุสูง เย็นลง 0.02 องศา ..ตรงนี้เขาถึงกับตั้งข้อสังเกตเลยนะ ว่าถ้าเราลดอุณหภูมิกายลงได้ เราจะอายุยืนขึ้น..(แต่รูปแบบการศึกษามันไม่ได้ทำมาตอบคำถามแบบนี้นะ อย่าไปนั่งเล่นในตู้เย็นเพราะข้อสังเกตเขาล่ะ)
7. ภาวะร่วมที่ทำให้ฮอตมากขึ้น มากที่สุดคือ มะเร็ง !! เพิ่ม 0.02 ส่วนภาวะร่วมที่คูลที่สุดคือ ไทรอยด์ต่ำ ลงมา 0.01 และอีกนั่นแหละ ห้ามไปแปลความเพิ่มว่า มะเร็งพบว่าอุณหภูมิกายสูงกว่าปกติ อย่ากระนั้นเลย เปลือยกายลงสระเย็นๆซะเลย... ไม่ได้นะครับ
อุณหภูมิสูงขึ้นก็ยังสัมพันธ์กับชีพจรเร็ว ความดันขึ้น และมันผ่านระบบประสาทอัตโนมัติ ซิมพาเธทิก เหมือนกัน เลยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าระบบประสาทซิพพาเธทิก ที่ทำงานมากตลอดเวลาอาจจะทำให้เราชีวิตไม่ยืนยาวเท่าพวกที่ เย็นๆ คูลๆ ชิกๆ ซึ่งต้องพิสูจน์อีกมากนะครับ
อุณหภูมิสูงขึ้นก็ยังสัมพันธ์กับชีพจรเร็ว ความดันขึ้น และมันผ่านระบบประสาทอัตโนมัติ ซิมพาเธทิก เหมือนกัน เลยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าระบบประสาทซิพพาเธทิก ที่ทำงานมากตลอดเวลาอาจจะทำให้เราชีวิตไม่ยืนยาวเท่าพวกที่ เย็นๆ คูลๆ ชิกๆ ซึ่งต้องพิสูจน์อีกมากนะครับ
8. บอกเราว่าอุณหภูมิกายของแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติแตกต่างกันจริงๆ แต่ระดับความแตกต่างมันน้อยมากๆ จนไม่น่าจะเกิดปัญหาที่แตกต่างกัน (ข้อมูลนี้เก็บจากอเมริกานะครับ มาเก็บเมืองไทยเมืองร้อน ผมว่า ป้าๆน้าๆพี่ๆในนี้อาจจะ "ฮอต" กว่า ดาราฮอลลีวูด)
9. มีความแปรปรวนและปัจจัยอีกมากมายที่ส่งผลต่ออุณหภูมิกาย เพียงแต่ระดับการเปลี่ยนแปลงมันน้อยมาก น้อยกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงการดูแลรักษา เช่น ไข้ขึ้น 38.5 องศา แต่ถ้าใส่เสื้อหนา อ้วน แอร์เสีย อุณหภูมิอาจเพิ่มเป็น 38.52 องศา ก็คงรักษาไม่ต่างกัน เอามาใช้ทางคลินิกได้ยากครับ วัดวิธีเดิมต่อไปได้เพียงแต่ต้องวัดให้ถูกต้องเท่านั้น
10. เจอบริสตอลซิตี้ยังไม่รอดสันดอน อย่าคิดไปต่อกรกับพญาหงส์อัคคี
ที่มา BMJ 2017;359:j5468
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น