บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเรื่อง การลดไขมันในยุคปัจจุบัน ตอนที่ 1
มนุษย์เรารู้จักไขมันในเลือดมานานแล้ว และในรอบห้าสิบปีที่ผ่านมาเรามีความเข้าใจมากขึ้น และความรู้ในช่วงห้าสิบปีหลังมานี้พุ่งสูงเป็นยอดเขาเพราะว่า เราได้ค้นพบวิธีอันทรงประสิทธิภาพที่มาจัดการได้นั่นเอง
ยิ่งในช่วงสิบปีหลังมานี้ ความเข้าใจเรื่องไขมันในเลือดไปไกลมากขึ้นลงลึกไปถึงระดับเซล ระดับเล็กกว่าเซล ระดับพันธุกรรม แต่ว่าจริงๆ เราก็ยังเข้าใจมันน้อยอยู่ดี
ยิ่งในช่วงสิบปีหลังมานี้ ความเข้าใจเรื่องไขมันในเลือดไปไกลมากขึ้นลงลึกไปถึงระดับเซล ระดับเล็กกว่าเซล ระดับพันธุกรรม แต่ว่าจริงๆ เราก็ยังเข้าใจมันน้อยอยู่ดี
เป็นความเชื่อที่มีมานานว่า you are what you eat นั้นเป็นจริงแค่บางส่วน ร่าวกายคนเราอัศจรรย์กว่านั้นในการควบคุมและแปรรูปสารอาหาร ผลิตภัณฑ์ ให้ทดแทนกันได้ยามขาดแคลน ความจริงที่ว่ากินไขมันมากๆนั้นไขมันในเลือดจะสูง ก็เป็นจริงแต่ไม่ใช่กินร้อยได้ร้อย กินร้อยมีผลต่อไขมันในเลือดประมาณ 20-30% เพราะไขมันต้องผ่านกระบวนการย่อยสลาย แปรรูป เก็บสะสมอีกหลายอย่าง
สิ่งที่ได้แน่ๆจากการกินไขมันมากเกินไปคือ ความอ้วน เพราะไขมันมีพลังงานต่อหน่วยสูงที่สุด และถ้าคิดว่าเราควบคุมการกินได้ ท่านอาจประมาทเกินไป อุตสาหกรรมอาหารยุคปัจจุบันมีไขมันอยู่มากมาย และส่วนมากก็ต้องใช้ไขมันที่มีจุดเกิดควันสูง คือทนความร้อนได้มากๆ นั่นก็คือ ไขมันอิ่มตัวนั่นเอง หรือในอุตสาหกรรมขนม ที่นิยมใช้เนยเทียม มาร์การีนที่เป็นไขมันอิ่มตัวทั้งสิ้น
อาหารทอดซ้ำๆกัน ตอนแรกๆอาจใช้ไขมันดี แต่เมื่อทอดไปก็กลายเป็นไขมันไม่ดี ไปได้เช่นกัน
สิ่งที่ได้แน่ๆจากการกินไขมันมากเกินไปคือ ความอ้วน เพราะไขมันมีพลังงานต่อหน่วยสูงที่สุด และถ้าคิดว่าเราควบคุมการกินได้ ท่านอาจประมาทเกินไป อุตสาหกรรมอาหารยุคปัจจุบันมีไขมันอยู่มากมาย และส่วนมากก็ต้องใช้ไขมันที่มีจุดเกิดควันสูง คือทนความร้อนได้มากๆ นั่นก็คือ ไขมันอิ่มตัวนั่นเอง หรือในอุตสาหกรรมขนม ที่นิยมใช้เนยเทียม มาร์การีนที่เป็นไขมันอิ่มตัวทั้งสิ้น
อาหารทอดซ้ำๆกัน ตอนแรกๆอาจใช้ไขมันดี แต่เมื่อทอดไปก็กลายเป็นไขมันไม่ดี ไปได้เช่นกัน
จริงๆ การไปเรียกว่าไขมันตัวนั้นดีไขมันตัวนี้ไม่ดี ก็ออกจะเป็นการให้ร้ายไขมันไปสักหน่อย คุณประโยชน์ของไขมันก็มีมากมาย ถ้าเราบริโภคเหมาะสม ในยุคหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม การใช้เครื่องมือ การผลิตเพื่อส่งออกและจำหน่าย เข้ามาแทนที่การผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือน คนทำไม่ได้กินและคนกินไม่ได้ทำ คนทำจึงใช้วิธีให้ได้ผลผลิตมากๆราคาไม่แพง ทำให้การใช้ไขมันและการบริโภคไขมันเยอะขึ้นมากมายมหาศาล
โรคต่างๆก็เปลี่ยนไป ภาวะอ้วนลงพุง ไขมันเกาะตับ ไขมันสูงในเลือด ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวและตอนนี้เงานั้นก็ใหญ่กว่าตัว หันกลับมากลืนกินมนุษย์เจ้าของเงา ก็จนมาพัฒนาเป็นองค์ความรู้ปัจจุบัน
โรคต่างๆก็เปลี่ยนไป ภาวะอ้วนลงพุง ไขมันเกาะตับ ไขมันสูงในเลือด ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวและตอนนี้เงานั้นก็ใหญ่กว่าตัว หันกลับมากลืนกินมนุษย์เจ้าของเงา ก็จนมาพัฒนาเป็นองค์ความรู้ปัจจุบัน
การลดไขมันในเลือด แน่นอน การรักษามาตรฐานและใช้ได้ทุกโรคตั้งแต่เบาหวาน ไขมัน ความดัน โรคไต หรือแม้แต่ไม่เป็นโรคก็ควรกระทำ คือสิ่งที่เรียกว่า lifestyle modification ปรับเปลี่ยนจากพฤติกรรมเสี่ยงโรคมาเป็นพฤติกรรมห่างโรค ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนัก การควบคุมอาหาร การลดไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัว การออกกำลังกาย การพักผ่อน งดดื่มเหล้างดสูบบุหรี่
ทำแบบนี้ไม่ได้ลดแค่ไขมัน แต่ส่งเสริมสุขภาพและลดอัตราเสี่ยงโดยรวม แล้วถามว่าทำเต็มที่สุดๆเลย มันจะลดไขมันในเลือดได้มากไหม ไม่ต้องกินยาได้ไหม
ตัวเลขจากการศึกษาพบว่าจะลดไขมันในเลือดลงได้ประมาณ 15-30% จากของเดิม แต่ในชีวิตจริงก็มีคนทำได้จริงและบางคนก็ทำจนลดได้ 40-60% ก็มี แต่นั่นคือไม่ใช่ทุกคน คุณต้องซื่อสัตย์ เคร่งครัด อดทน มีวินัย (เหมือนคำขวัญวันเด็กเลย) และถึงแม้เป็นเด็กดีทุกอย่างบางคนก็ไม่ลด เพราะว่า อีกเกือบ 70% ของไขมันที่ผิดปกติในเลือด อันเป็นตัวก่อโรคนั้น เกิดจากการสังเคราะห์ที่ผิดปกติ
ทำแบบนี้ไม่ได้ลดแค่ไขมัน แต่ส่งเสริมสุขภาพและลดอัตราเสี่ยงโดยรวม แล้วถามว่าทำเต็มที่สุดๆเลย มันจะลดไขมันในเลือดได้มากไหม ไม่ต้องกินยาได้ไหม
ตัวเลขจากการศึกษาพบว่าจะลดไขมันในเลือดลงได้ประมาณ 15-30% จากของเดิม แต่ในชีวิตจริงก็มีคนทำได้จริงและบางคนก็ทำจนลดได้ 40-60% ก็มี แต่นั่นคือไม่ใช่ทุกคน คุณต้องซื่อสัตย์ เคร่งครัด อดทน มีวินัย (เหมือนคำขวัญวันเด็กเลย) และถึงแม้เป็นเด็กดีทุกอย่างบางคนก็ไม่ลด เพราะว่า อีกเกือบ 70% ของไขมันที่ผิดปกติในเลือด อันเป็นตัวก่อโรคนั้น เกิดจากการสังเคราะห์ที่ผิดปกติ
การสังเคราะห์มีหลายขั้นตอน ใช้สารตั้งต้นและเอนไซม์ต่างๆที่ซับซ้อน ความผิดปกติของสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นหลักสำคัญของไขมันที่ผิดปกติในเลือด..ขอใช้คำว่าผิดปกตินะครับ เพราะบางทีปริมาณไม่มากแต่พิษสงร้ายกาจก็มี อาทิเช่น LDL สูง กับ triglyceride สูงนี่ ความสำคัญในการเกิดโรคหัวใจต่างกันมากและการรักษาให้ LDL ลดลง กับการรักษาให้ triglyceride ลดลง ก็มีผลต่างกันมหาศาล ทั้งๆที่เป็นไขมันในเลือดเหมือนกัน
แม้ว่าเราจะเข้าใจกลไก และการยับยั้งกลไกต่างๆได้ดีกว่าเดิมแต่ก็ต้องบอกว่ายังเหลืออีกมากที่ไม่เข้าใจ
แม้ว่าเราจะเข้าใจกลไก และการยับยั้งกลไกต่างๆได้ดีกว่าเดิมแต่ก็ต้องบอกว่ายังเหลืออีกมากที่ไม่เข้าใจ
เอาล่ะ..ที่พูดมาก็จะบอกว่า การควบคุมอาหารและพฤติกรรมสำคัญมาก แต่การใช้ยาก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการควบคุมอาหารไม่สามารถไประงับการผลิตที่ผิดปกติได้เลย
การใช้ยาลดไขมัน ที่ปัจจุบันผมอยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น #ยาลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดอันเกิดจากไขมัน ต้องบอกว่าปัจจุบันมันมีบทพิสูจน์มากมายที่เป็นหลักฐานที่ตรงกัน ด้วยการทดลองแบบควบคุม ทำในคน และรวมการทดลองดีๆเหล่านั้นมากลั่นแล้วกลั่นอีกออกมาเป็นข้อเท็จจริงคือ ยาเหล่านี้ ลดไขมันที่กลไกการสร้าง และไม่ใช่แค่ลดไขมันอย่างเดียวมันยังไปลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือด อัตราการเสียชีวิตและพิการจากโรคหลอดเลือดอีกด้วย (เชื่อว่ากลไกคือลดการอักเสบร่วมด้วย)
ฟังดูดีนะ แต่ว่าทุกการศึกษาจะเป็นการใช้ยาเพิ่มไปจากการทำ lifestyle modification นั่นคือจะได้ผลดังว่าต้องปรับปรุงชีวิตด้วย ดูแลโรคร่วมอื่นๆให้ดีด้วย ไม่ใช่กินยาไขมัน ออกกำลัง งดของมัน แต่คุมเบาหวานไม่ได้ อย่างงี้ผลร้ายของเบาหวานก็หักลบกลบหนี้กับประโยชน์จากยาเสียสิ้น
ฟังดูดีนะ แต่ว่าทุกการศึกษาจะเป็นการใช้ยาเพิ่มไปจากการทำ lifestyle modification นั่นคือจะได้ผลดังว่าต้องปรับปรุงชีวิตด้วย ดูแลโรคร่วมอื่นๆให้ดีด้วย ไม่ใช่กินยาไขมัน ออกกำลัง งดของมัน แต่คุมเบาหวานไม่ได้ อย่างงี้ผลร้ายของเบาหวานก็หักลบกลบหนี้กับประโยชน์จากยาเสียสิ้น
หลายกระแสหลายคนก็บอกว่า เป็นอุบายของต่างประเทศในการจำหน่ายยา ...ไม่ใช้หนทางธรรมชาติ... ทำไมยากินก็กินกันโครมๆ แต่โรคหัวใจโรคอัมพาตก็ไม่เห็นลดลง .. กระแสพวกนี้แรงมาก เล่นเอาผมต้องไปหาหนังสือเกี่ยวกับ dark side, untold, mysterious fact ของไขมันและยาลดไขมันมาอ่านหลายเล่ม และอ่านเว็บ ฟังคลิปทั้งหลายมามากมาย เพราะหวั่นไหวในใจว่าวิชาการแพทย์แบบสมเหตุสมผลกับหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ใช้มาตลอดมันไม่ถูกหรือเปล่า
แล้วมาต่อบทหน้านะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น