06 ธันวาคม 2560

anthrax อาวุธ

ลุงหมอขอเล่า...(เหล้าก็เอานะ ขอไวน์แดง Woodbridge Cabernet Sauvignon) จากที่เมื่อวานเรารู้จักแอนแทรกซ์ในมุมโรคจากสัตว์จากผู้ใหญ่ลีแล้ว วันนี้มารู้จักในแง่อาวุธชีวภาพกัน
เชื้อก่อโรคแอนแทรกซ์ คือเชื้อแบคทีเรียรูปแท่งกรัมลบ ที่มีชื่อเพราะๆว่า Bacillus anthacis ความพิเศษของแบคทีเรียชนิดนี้มีหลายประการที่เหมาะกับการเป็นอาวุธเชื้อโรค
1. แบคทีเรียชนิดนี้คือ ทรานสฟอร์มเมอรส์ ในภาวะที่ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตเช่น ในดิน ในน้ำ มันจะอยู่ในรูปของสปอร์ จำศีลในแคปซูลส่วนตัว คงทนถาวรมาก ร้อนไม่สะท้าน เย็นไม่สะเทือน ด่างไม่สะกิด กรดไม่ระคาย กระจายได้ตามลม แต่ถ้ามันเข้าไปอยู่ในภาวะที่เหมาะสมเช่นในสัตว์หรือในคน ก็จะเปลี่ยนรูปเป็นรูปแบคทีเรีย โตได้ขยายพันธ์ และเมื่อไปสู่สิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมก็จะทรานสฟอร์มเป็นสปอร์อีกครั้ง
2. ความร้ายกาจของมันคือ เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายมันก็จะคืนสภาพแบคทีเรีย มันอาจถูกร่างกายตรวจจับและทำลายทิ้ง แน่นอน ความสามารถที่สองคือมันจะสร้างสารเคลือบตัวที่เรียกว่า poly-gamma-D-glutamic acid เป็นสารที่หลอกภูมิคุ้มกันเราให้มองไม่เห็น ...คือ..มีผ้าคลุมล่องหนนั่นเอง มันจึงสามารถก่อโรคและลุกลามได้เร็ว กว่าจะจับได้ต้องใช้เวลา
3. อาวุธลับเพิ่มเติมอีกคือ ระเบิดทำลายพิสัยไกล พิษที่เรียกว่า Tripartite toxin ทำให้มีการอักเสบรุนแรง ไข้สูง ปฏิกิริยามากมายทั้งร่างกายจนเป็น multiorgan dysfunction syndromes ถ้าจะทำลายนอกจากจะทำลายเชื้อแล้ว ยังต้องทำลายระเบิดมันด้วย (anthrax antitoxin)
คุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้มีการพัฒนาเชื้อในรูปสปอร์ที่สามารถแพร่กระจายได้ไกล ได้กว้าง อยู่ทนเป็น 50 ปี และพิษรุนแรงมาก ความเข้าใจเรื่องนี้คือตอนแรกเราก็รู้จักแอนแทรกซ์แบบผู้ใหญ่ลี คือ ติดจากสัตว์และที่ผิวหนังเป็นหลัก จนในปี 1919 โรงงานผลิตเสื้อขนสัตว์ (woolsorter's disease) พบคนงานติดเชื้อแอนแทรกซ์จากขนแกะ นั่นคือสปอร์ของแอนแทรกซ์ เป็นที่ยืนยันว่ามีการแพร่กระจายผ่านทางละอองสปอร์ และมีการระบาดเป็นวงกว้าง
ตอนนั้นการติดเชื้อรุนแรง กว่าจะพบว่าเป็นแอนแทรกซ์ก็เสียชีวิตไปมาก จนเกิดมาตรการการเฝ้าระวังแอนแทรกซ์จากการหายใจ ในขณะเดียวกัน ผู้พัฒนาอาวุธก็ได้ความคิดนี้เช่นกัน พัฒนาและสะสมรูปสปอร์เข้มข้น กระจายไกล และดื้อยา
การระบาดปริศนาในสงครามกลางเมืองซิมบับเวปี 1979-1980 ที่ถือว่าเป็นการระบาดครั้งใหญ่สุดของแอนแทรกซ์ 9,400 ราย ตาย 182 ราย ทั้งจากการหายใจและทางผิวหนัง ว่ากันว่าเกิดจากความแร้นแค้นของสงครามจนต้องขาดสุขอนามัย ซึ่งมีนักทฤษฎีสมคบคิดมากมายที่คิดว่านี่คือ biological weapon
inhalation anthrax จะเกิดจากละอองสปอร์เข้าไปในปอด ตัวเชื้อไม่ทำให้เกิดปอดอักเสบติดเชื้อตามแบบการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วๆไป เชื้อจะกระจายเข้าไปที่ขั้วปอด และท่อน้ำเหลือง เกิดปฏิกิริยาและส่งพิษออกไปทั่วตัว จะเกิดการหายใจล้มเหลวและช็อกติดเชื้อรุนแรง อาการจากเริ่มจนเสียชีวิต ใช้เวลาแค่ 2-10 วันเท่านั้น ขึ้นกับปริมาณสปอร์ที่สูดเข้าไป
ปริมาณเชื้อที่เป็นพิษ LD50 คือ ปริมาณเชื้อที่จะสังหารประชากรไปได้ 50% ของประชากรที่สัมผัสโรค ถือว่าต่ำมาก คือ ใช้ปริมาณเชื้อไม่มากแต่หวังผลสังหารได้รุนแรง ยังความหวาดผวาเป็นวงกว้างในสังคม และความมั่นคงของชาติ
การรักษาในกรณีสงสัยจากอาวุธชีวภาพจะแตกต่างจากการติดเชื้อจากสัตว์ พวกนี้จะรุนแรงและต้องควบคุม ต้องใช้ยาประมาณ 60 วันเลยทีเดียว (ciprofloxacin or doxycycline) และในกลุ่มที่เป็น inhalation anthrax รุนแรงหรือเกิดจากการก่อการร้ายจะต้องได้ anthrax antitoxin ด้วย
บริเวณที่ระบาดตามธรรมชาติ หรือก่อการร้ายจะมีการปูพรมระดมวัคซีน แต่วัคซีนจะผลิตมาจากสายพันธุ์ Stern (pOX1 plasmid เท่านั้น ไม่มีpOX2) วัคซีนรุ่นใหม่ๆกำลังพัฒนาต่อไป
การระบาดที่โด่งดังที่สุดคือ การระบาดจากซองจดหมายที่ประเทศอเมริกาในปี 2001 ครับ...ถ้าใครยังจำได้ การระบาดของแอนแทรกซ์ผ่านซองจดหมายที่จะส่งไปที่สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐและสื่อสารมวลชนนั้น เกิดขึ้นในช่วงเดียวกัน กับเหตุการณ์วินาศกรรมระบือโลก 9-11เครื่องบินพลีชีพถล่มกลางอเมริกา คือเดือนกันยายนถึงตุลาคม
จดหมาย ไม่ใช่แหล่งสะสมโรคตามธรรมชาติแน่นอน และจะมาบังเอิญเกิดในช่วงเวลาเดียวกัน ก็น่าคิดทีเดียว มีคนเสียชีวิต 5 คน ติดเชื้ออีก 17 ราย หลังจากนั้นก็กลายเป็นการแกล้งเอาผงแป้งใส่ซองจดหมายกันก็มี
แต่ผู้ต้องสงสัยที่จะเป็นผู้ก่อเหตุ Bruce Ivins ที่ถูก FBI จับตัวไว้นั้น เสียชีวิตปริศนาด้วยการกินยาพาราเซตามอลเกินขนาด !!! จึงยังสรุปคดีนี้ไม่ได้
เอาละพอดีกว่า ...มันจะกลายเป็นเพจ เชอร์ล็อกโฮล์มส์ ง่ายนิดเดียวไป
ไว้พรุ่งนี้เรามาทำความรู้จักอาวุธชีวภาพตัวอื่นๆบ้าง ว่าเชื้ออะไรที่จัดเป็นอาวุธชีวภาพและจัดไว้ระดับใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม