"อ่อนเพลีย ไปนอนให้โปรตีนมา"
นี่คือประวัติสำคัญของผู้ป่วยรายหนึ่งที่มีอาการอักเสบที่หลอดเลือดดำส่วนพิ้นผิว ตามมาด้วยการติดเชื้อซ้ำซ้อน และผลการเพาะเชื้อขึ้นเชื้อดื้อยา MRSA
บางครั้งความเชื่อที่ผิดผสมกับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เกิดผลเสียได้มาก ในหลายที่ของประเทศไทยยังมีการให้สารโปรตีนนอกโรงพยาบาล (จากคำเล่าประวัติของคนไข้) ส่วนมากที่ได้คือ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กินอะไรไม่ค่อยได้ เมื่อไปให้โปรตีนสักถุง รู้สึกมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาทันที ... ผมอยากจะบอกว่าติดเชื้อรุนแรงปางตายแบบนี้มันก็มี
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างที่หนึ่ง ... การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำคือของดี
กฎของทางเดินอาหารและโภชนาการข้อแรก ใช้ทางเดินอาหารเสมอหากยังใช้ได้ ร่างกายสิ่งมีชีวิตออกแบบและวิวัฒนาการมาหลายร้อยล้านปีว่า ทางเดินอาหารคือสุดยอดเครื่องมือที่ใช้ย่อยและดูดซึม มีทั้งกลไกการย่อยอันน่าทึ่ง การดูดซึมที่แทบไม่เหลือขยะ การปรับการดูดซึมตามความต้องการร่างกาย การขับของที่ไม่ต้องการทิ้ง ทางการแพทย์เราจึงมีหลักการง่าย ๆ ว่า หากทางเดินอาหารยังใช้ได้ให้ใช้ก่อน หมายถึงว่า...
ทางเดินอาหารไม่อุดตัน ไม่มีรอยฉีกขาด อักเสบจนเคลื่อนที่ไม่ได้หรือเคลื่อนที่เร็วจนไม่ทันดูดซึม หรือจุดดูดซึมบกพร่องจากโรคเช่น โรคพยาธิบางชนิด โรคภูมิคุ้มกันตัวเองทำลายผิวลำไส้
ถ้าไม่มีภาวะที่ห้ามใช้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ให้ใช้กระเพาะและลำไส้ ไม่ว่าจะกินอาหารปรกติ กินอาหารการแพทย์ ใส่สายให้อาหาร เจาะใส่สายทางกระเพาะหรือลำไส้ ต้องใช้สิ่งเหล่านี้ก่อน มีประโยชน์มากกว่า ไม่มีโทษ เราจะให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำเมื่อมีข้อบ่งชี้ที่ไม่สามารถใช้ทางเดินอาหารได้เพียงพอเท่านั้น
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างที่สอง ... การให้โปรตีน
โปรตีนที่มักจะให้ทางการแพทย์ แบ่งเป็นอาหารหรือยา อาหารก็ตรงไปตรงมา คือ กรดอะมิโน อัลบูมิน ที่ผสมแบบปลอดเชื้อเพื่อให้ตามข้อบ่งชี้ใช้ทางเดินอาหารได้ไม่เพียงพอ สารอาหารทางหลอดเลือดมีหลายอย่าง ทั้งแบบสารอาหารเดี่ยวและสารอาหารรวม แต่ไม่ว่าจะเป็นสารอาหารแบบใด จะมีความเข้มข้นและออสโมลาริตี้สูง โอกาสที่หลอดเลือดดำที่ใต้ผิวหนังจะทนไม่ไหว จะเกิดการอักเสบ มีมากมาย หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ต้องดูแลจุดแทงหลอดเลือดอย่างดี ต้องเปลี่ยนจุด หรือให้หลอดเลือดดำส่วนกลาง
หรือแบบที่เป็นใช้ยา
- อัลบูมินเพื่อให้เพิ่มสารน้ำในหลอดเลือด ในการหวังผลพยุงระบบไหลเวียนในกรณีที่น้ำเกลือมาตรฐานใช้ไม่ได้ผล และต้องระวังว่าการทำงานของไตจะแย่ลง
- โปรตีนชนิดพลาสมา สารการแข็งตัวของเลือดต่าง ๆ ที่ใช้เพราะต้องการหยุดเลือดหรือวัตถุประสงค์เฉพาะ
- อิมมูโนโกลบูลิน ใช้เพื่อรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- เซรุ่ม เพื่อนำเข้าโปรตีนเฉพาะแบบไปรักษาอาการหลายชนิด
- แอนติบอดี ใช้รักษาโรค
- อัลบูมินเพื่อให้เพิ่มสารน้ำในหลอดเลือด ในการหวังผลพยุงระบบไหลเวียนในกรณีที่น้ำเกลือมาตรฐานใช้ไม่ได้ผล และต้องระวังว่าการทำงานของไตจะแย่ลง
- โปรตีนชนิดพลาสมา สารการแข็งตัวของเลือดต่าง ๆ ที่ใช้เพราะต้องการหยุดเลือดหรือวัตถุประสงค์เฉพาะ
- อิมมูโนโกลบูลิน ใช้เพื่อรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- เซรุ่ม เพื่อนำเข้าโปรตีนเฉพาะแบบไปรักษาอาการหลายชนิด
- แอนติบอดี ใช้รักษาโรค
จะสังเกตว่าการให้โปรตีนไม่ว่าในสภาพใด จะมีข้อบ่งชี้จำเพาะ ต้องเฝ้าระวังสูง ไม่ได้ใช้เพื่อแก้อ่อนเพลียแต่อย่างใด
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนประการสุดท้าย ... ให้แล้วดีขึ้นทันที
การให้สารอาหารหรือยาจะต้องมีขนาดที่ถูก เวลาที่ถูก และใช้เวลานานเพียงใดกว่าจะตอบสนองหรือใช้ยาซ้ำหรือไม่ หากหวังผลให้เป็นอาหารกว่าจะเพิ่มระดับในเลือดให้เพียงพอ จนการเมตาบอลิซึมในร่างกายดี จะต้องให้อย่างต่อเนื่องจนถึงระดับคงที่ไม่ต่ำกว่า 5-7 วัน หรือถ้าให้เป็นยาต้องมีขนาดที่ใช้ชัดเจน และต้องให้ในโรงพยาบาลเกือบทั้งสิ้น
ดังนั้น การไปนอนให้โปรตีนทางหลอดเลือดสักขวด มันจึงไม่ได้เกิดผลทางคลินิกที่ดีขึ้นมากมายแต่ประการใด ที่ดีขึ้นมากเป็นเพราะตาเราเห็น จิตรับรู้ และพึงพอใจ เท่านั้นครับ ดีไม่ดีเกิดอันตรายหลอดเลือดอักเสบจะทุกข์ร้อนมากกว่าเดิมครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น