ผันเปลี่ยนชีวิต หนุ่มออฟฟิศสุดเฮฮา
เรื่องราวนี้เป็นเพียงเรื่องสมมุติ หาก "บังเอิญ" ไปพ้องกับชื่อท่านใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ณ ออฟฟิศแห่งหนึ่งที่แสนวุ่นวายในกรุงเทพมหานคร
ตลอดสัปดาห์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในออฟฟิศแห่งนี้ อีเจี๊ยบ ชายหนุ่มพนักงานออฟฟิศหน้าตาบ้าน ๆ มาทำงานด้วยท่าทีแปลกไป เขามีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเรียกว่าจากฝ่าเท้าเป็นหลังมือเลย จากที่เคยมาทำงานสายโด่งแต่นี่เข้าออฟฟิศเป็นคนที่สองต่อจากแม่บ้าน จากที่เคยอู้งานตลอดแต่นี่ทำงานเสร็จก่อนเวลาเลิกงาน จากที่เคยแอบทำเพจขายของแต่นี่ไม่มีออนไลน์เลยตลอดเวลาทำงาน จากที่เคยเลิกงานก่อนแต่นี่แทบจะปิดประตูออฟฟิศทุกวัน จากที่เคยปากร้ายแต่นี่พูดจาสุภาพจนดอกพิกุลร่วงจากปาก เจี๊ยบกลายเป็นคนสุภาพ ทำเพื่อสังคม อ่อนน้อมถ่อมตน
เป็นที่ซุบซิบนินทาของเพื่อน ๆ ลามไปถึงครอบครัวเพื่อน ๆ ลามไปออฟฟิศข้าง ๆ ลามไปถึงประจวบคีรีขันธ์ ลามไปถึงปากีสถาน ลามไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายไปถึง " หัวล้าน" เจ้านายสุดเฮี้ยบของเจี๊ยบเลียบด่วน
บ่ายวันนั้น...
"พี่อีเจี๊ยบคะ หัวหน้าเรียกพี่เข้าห้องเย็นค่ะ ตามลำพังค่ะ หนูเอาผ้าเช็ดตัวให้ด้วยนะพี่ ถ้าทางผ้าเช็ดหน้าจะไม่พอซับน้ำตาพี่" น้องไอซ์เลขาสาวสวยมาบอก
"พี่ขอขอบพระคุณน้อง ด้วยความซาบซึ้งใจยิ่งนัก" แล้วลุกขึ้นเดิน ก้มตัวเมื่อผ่านน้องไอซ์ ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน ปกติน้องไอซ์แซวขนาดนี้ จะโดนสวนกลับมาไม่น้อยกว่าสามดอก
ในห้องทำงานของหัวล้าน
"คุณอีเจี๊ยบ คุณเป็นอะไร คุณเปลี่ยนไปมาก คุณไม่เคยเป็นคนดีขนาดนี้ คุณพูดเพราะ คุณขยัน คุณสงบเสงี่ยม จนทุกคนเขาเรียกคุณว่า-เจี๊ยบเงี่ยว-กันหมด ผมถามจริง ๆ คุณมีเรื่องอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า บอกผม ผมรับรองจะช่วยเต็มที่ ออฟฟิศนี้ดีไซน์มาเพื่อผม" เจ้านายผู้เข้มงวด ถามเข้าจุด พร้อมสะบัดนาฬิกาข้อมือสะท้อนแสงแดดเป็นประกายวิบวับ
"นายครับ มันจบ มับจบแล้ว" อีเจี๊ยบพูดเสียงสั่นเครือ (โอย พิมพ์ถึงตรงนี้ขอไปอ๊วกแพร้บ)
"จบอะไรเจี๊ยบ จบอะไร แล้วพูดเกรงใจออฟฟิศกูด้วย เดี๋ยวตำรวจจะมา" เจ้านายเริ่มเหงื่อหัวล้านออก
"ผม...ผม ผมติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ผมต้องตาย ตับผมต้องแข็ง มะเร็งจะถามหา โรคร้ายอื่นจะตามมาาา..."
เพี้ยะ...เสียงเจ้านายตบกบาลอีเจี๊ยบ
"โธ่ บักหำน้อยเอ้ย ไปฟังมาจากไหน" เจ้านายส่ายหัวพร้อมจะทึ้งผม แต่ก็ไม่มีผม ในขณะที่อีเจี๊ยบคิดในใจ บักหำน้อย นี่รู้ได้ไงฟระ
เจ้านายร่ายยาว "เจี๊ยบ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีน่ะ มันรักษาได้ เมื่อตรวจพบแล้ว หมอจะนัดตรวจซ้ำเพื่อยืนยันการติดเชื้อจริงและเรื้อรัง หลังจากนั้นจะเจาะเลือดตรวจนับปริมาณไวรัสตับอักเสบซีและระบุสายพันธุ์ทั้งหก ว่าเป็นสายพันธุ์ใด มีการตัดชิ้นเนื้อที่ตับไปตรวจการอักเสบ วัดระดับการอักเสบ หรือปัจจุบันอาจใช้การตรวจทางรังสีที่ไม่ต้องเจาะ เพื่อวัดการอักเสบการเกิดพังผืดในเนื้อตับ โดยการตรวจเอ็กซเรย์พิเศษหรืออัลตร้าซาวนด์พิเศษ เพื่อมาพิจารณาการรักษา ปัจจุบันทำได้หลายที่แล้ว อย่างน้อยในทุก ๆ ภูมิภาคก็ทำได้"
"แต่ แต่ที่ผมไปอ่านมา เขาต้องรักษาด้วยยาฉีด และยากิน ครึ่งปีบ้าง หนึ่งปีนะครับเจ้านาย และข่าวว่าผลข้างเคียงสุดจะทานทน" อีเจี๊ยบเวอร์ชั่นเรียบร้อย นั่งตัวลีบ มือกุมไข่
เพี้ยะ ... กบาลเจี๊ยบโดนสัมผัสแรง ๆ จากมือเจ้านายอีกครั้ง
"โธ่ บักหำสั้น ไปฟังมาจากไหนอีกแล้ว" เจ้านายส่ายหัว และอีเจี๊ยบคิดในใจ ...รู้อีกแล้ว เล็กก็ใช่ สั้นก็ใช่
เจ้านายร่ายยาวอีก "เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ชาวโลกเขาพัฒนายากินรักษาไวรัสที่กินง่าย ผลข้างเคียงน้อยมาก ประสิทธิภาพการกำจัดไวรัสสูงถึง 98-99% เลยนะ ยากินที่ใช้ได้ทั้งตับแข็ง ตับไม่แข็ง รักษามาแล้ว หรือยังไม่เคยรักษา แถมใช้ได้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ทั้งหกสายเลยด้วย ส่วนมากใช้ยากินคู่กันสองตัว หรือมากกว่านั้นแล้วแต่กรณี กินยาง่ายแค่วันละครั้ง มีหลายสูตร ยกตัวอย่างที่มีในไทยนะ
ledipasvir/sofosbuvir (ตัวนี้บรรจุในยาหลักแห่งชาติ 2561 รักษาได้หมดเว้นจีโนไทป์ 3)
sofosbuvir (บรรจุในยาหลักแห่งชาติ 2561 ใช้ร่วมกับยาอื่น ในการรักษาแบบแยกเม็ดยา)
daclatasvir/sofosbuvir (ครอบคลุมทุกสายพันธุ์)
velpatasvir/sofosbuvir (ครอบคลุมทุกสายพันธุ์)
elbasvir/grazoprevir (รักษาได้หมดเว้นจีโนไทป์ 2)
หรือยาสูตรเก่า peginterferon alfa ให้คู่ยา ribavarin (สองตัวนี้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2561 มักใช้ร่วมกับ sofosbuvir ในจีโนไทป์ 3)
เรียกว่ารักษาได้ดี จะได้ไม่เกิดตับแข็ง มะเร็งตับ ไม่แพร่เชื้อออกไป คุณภาพชีวิตดี ลงทุนคุ้มค่า"
อีเจี๊ยบอ้าปากหวอ นี่เจ้านายฉันหรือเนี่ย ทำไมมันเก่งยังงี้วะ คิดว่าเป็นแต่ด่าลูกน้องกับหาเมียน้อย
"แต่พนักงานออฟฟิศจน ๆ อดมื้อกินมื้อ ตาดำ ๆ แบบผมจะมีเงินไปรักษาหรือครับ ของดี ราคาก็แพง ผม...ผม เศร้าสุดจะบรรยาย..."
หมับ...เสียงอีเจี๊ยบจับมือหัวหน้าได้ทัน ก่อนจะสัมผัสกบาลของมัน นึกในใจ ไม่ได้แดรกกูหรอก
"555 รู้ทัน โธ่ บักหำมืด ความรู้ท่วมตัวเอาหัวไม่รอดอีกแล้ว" อีเจี๊ยบคิดในใจ ..รู้จริงเว้ย เล็ก สั้น ดำ
เจ้านายยิ้ม "เดี๋ยวนี้ยาหลายตัวบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ (บัญชี จ.2 ใช้เมื่อมีความจำเป็นเฉพาะ ภายใต้การกำกับเป็นพิเศษ) สิทธิบัตรต่าง ๆ สามารถรักษาได้หมดทั้งบัตรทอง ประกันสังคมและข้าราชการ ทั้งการตรวจและค่ายาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพง เรียกว่าถูกมากจะดีกว่า หรืออยากไปรักษาภาคเอกชน ราคายาก็ไม่แพงจนหมดตัว แถมเป็นการรักษาลงทุนที่คุ้มค่ามาก เพราะโอกาสหายมันสูงมาก"
อีเจี๊ยบหน้าตาสดใส ตาวาววับเป็นประกาย ความปีติอิ่มใจเกิดขึ้น
"เจ้านายครับ เมิงช่างเป็นเจ้านายที่หัวใสจริง ๆ ฉลาดมาก มิเสียทีที่หัวล้าน ฮ่า ๆ ๆ รอดแล้วกู กูได้อยู่ดูลิ้วพูนเป็นแชมป์แน่นอน อ้อ..เจ้านาย พรุ่งนี้ลาหยุดนะ จะไปโรงบาล หาหมอ ไม่ต้องโทรตามใช้ให้ไปขับรถไปไหนนะเฟ้ย ดีใจจังโว้ย พ่อจ๋าแม่จ๋า"
แล้วอีเจี๊ยบก็วิ่งออกไปด้วยความดีใจ ไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน ไปชวนเขาเสียงานเสียการ และตามมาด้วยเสียงด่าไล่หลัง และการส่ายหน้าของทุกคน ...อีเจี๊ยบได้คืนชีวิตอันปรกติของเขามาแล้ว มันวิ่งไปเก็บของและออกจากออฟฟิศไปตั้งแต่บ่ายสองโมงกง
บทส่งท้าย
หัวล้านส่ายหัว นี่เราช่วยคนหนึ่งคนให้พ้นจากโรค คืนชีวิตเดิมอันมีความสุขให้เขา แต่ต้องแลกมาด้วยความกาลกิณีกับคนทั้งแผ่นดินหรือนี่ แต่เอาเถอะ มันกลับมาเป็นคนเดิมมีความสุขเหมือนเดิมก็ดีแล้ว หายจากโรคด้วย
หัวล้านเดินออกไปจากออฟฟิศ เดินไปทางบันไดหนีไฟ ไปถึงลานจอดรถด้านล่าง หันซ้ายขวาไม่มีคนเห็น ก็ถอดหัวล้านปลอม ถอดหนวด ดึงหน้ากาก ถอดสูทตัวนอกและถุงฟองน้ำพุงปลอมออก เผยให้เห็นชายหนุ่มร่างกายสมส่วน แข็งแรง เป้าตุง หน้าตาหล่อเหลาคมคาย เขาหยิบแว่นตาขึ้นมาแล้วโยนเสื้อและอุปกรณ์ปลอมตัวลงถังขยะ พร้อมกับมีรถเก๋งคันงามมาจอดตรงหน้า หน้าต่างเลื่อนลงพร้อมเสียงหวานจากพลขับสุดสวยเซ็กซี่ ตาเยิ้ม กัดริมฝีปาก "เราจะไปกันรึยังคะบอส ไอซ์หิว...เอ่อ ...หิว...ข้าวแล้วล่ะค่ะ"
ชายหนุ่มก้าวอย่างงามสง่าขึ้นรถด้านข้างพลขับ ดึงม่านบังแดด เปิดกระจกเงาสำรวจความเรียบร้อย พร้อมออกคำสั่ง "ไปร้านเดิมนะคุณไอซ์" รถเคลื่อนตัวโดยเร็ว ภาพในกระจกเงาสั่นไหวแต่พออ่านข้อความที่สกรีนอยู่บนอกเสื้อยืดคอกลมสีขาว เป็นตัวอักษรสีน้ำเงินเข้มว่า "อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว"
ไปรับยาช่องหนึ่งโดยพร้อมเพรียงกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น