ตอนนี้เกือบทุกจังหวัดมีคำสั่งงดรวมตัว ปิดสถานที่ท่องเที่ยว ปิดห้างบางส่วน อยู่บ้าน งดเดินทาง เป็นสิ่งที่เราต้องปรับตัวและเปลี่ยนวิถีชีวิตในช่วงเวลาหนึ่ง ในระยะสั้นอาจไม่ลำบาก แต่ในระยะยาวคงจะมีผลกระทบบ้าง
การปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้อง นอกจากจะไม่ช่วยลดการแพร่กระจาย อาจทำให้สุขภาพโดยรวมแย่ลงอีกด้วย เรามาทบทวนมาตรการสำหรับคนที่ไม่ติดเชื้อ ไม่เสี่ยงติดโรค แต่ต้องลดกิจกรรมลง ว่าทำอย่างไรกันดี
1. อาหารการกิน ซื้อหรือสั่งจากนอกบ้าน ประกอบอาหารเอง ที่เน้นย้ำคือ ช่วงนี้ไม่ได้ออกแรงทำงาน กิจกรรมลดลง เราต้องอย่ากินเยอะ อาจจะต้องลดปริมาณลงด้วยซ้ำ ถ้ายังกินเท่าเดิม น้ำหนักจะขึ้นได้ง่าย และยิ่งดูทีวีและกินขนมไปด้วย จะเกิดโรคอ้วน อันตรายกว่าโควิดหลายเท่านัก
2. การจัดการอากาศในบ้าน โรคโควิดไม่แพร่กระจายทางอากาศนะครับ (ยกเว้นจากหัตถการบางอย่างทางการแพทย์) ควรเปิดบ้านให้โล่งโปร่ง อากาศถ่ายเท จะมีผลดีต่อสุขภาพ บางคนปิดบ้านมิดชิด เปิดแอร์อากาศวนอยู่ด้านใน ขยะเปียกทั้งหลายสะสม ทำให้อนามัยแย่ลงไปอีกครับ
3. การออกกำลังกาย แม้ว่าการไปออกกำลังกายตามโรงยิม ฟิตเนส หรือสวนสาธารณะจะดูไม่เหมาะสม แต่ไม่ได้ห้ามการออกกำลังกายกลางแจ้ง อย่างที่กล่าวไปว่าเชื้อมันไม่ได้กระจายทางอากาศ เดินสวนกันไปมาก็ไม่ติดเชื้อนะครับ อย่าไปไอจามรดกันก็แล้วกัน สามารถออกกำลังกายกลางแจ้งในสวนหน้าบ้าน ถนนหน้าบ้าน วิ่งในหมู่บ้าน ขี่จักรยาน กระโดดเชือก หรือใครจะออกในบ้านก็ตามใจ เลือกสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่าน ไม่ชุมนุมก็แล้วกัน
4. แถมเรื่องการออกกำลังกาย เวลาออกกำลังกายเราต้องใช้ออกซิเจนมากกว่าปรกติ ไม่แนะนำให้สวมหน้ากากหลายชั้นนะครับ โอเคใครอยากสวมหน้ากากออกกำลังกายก็ไม่ว่า หน้ากากผ้า หน้ากากเขียว มันกั้นลมได้ระดับหนึ่ง ไม่มากหรอก แต่ถ้าทนไม่ไหวก็ถอดนะครับ เวลาออกกำลังกายเราไม่ได้ไปไอจามรดใคร ไม่ได้เล่นมวยปล้ำที่จะต้องชิดตัวกัน เดิน วิ่ง ถอดหน้ากากได้ครับ
5. แม้หลายคนจะไม่อยากใช้มือสัมผัสกันตามตรงเช่นรับของ รับเงิน หลายคนใช้สื่อกลางเช่นใส่ตะกร้า ชักรอก แต่ถ้ามันไม่สะดวกขนาดนั้นเราก็รับตรง แล้วล้างมือได้ครับ ล้างก่อนและรับของก็ได้ จะใช้สบู่หรือเจลก็ได้ เชื้อไม่ได้ติดกันทาง contact ไม่ใช่โรคหิดหรือกลากนะครับ และโดยมาตรฐานเวลานี้เราควรล้างมือบ่อย ๆ อยู่แล้วครับ หลังสัมผัสสิ่งต้องสงสัย หรือเมื่อมือสกปรก ก่อนหลังกินอาหาร เข้าบ้าน ทำให้ติดเป็นนิสัย
6. คุยกับเพื่อนบ้านได้ครับ เว้นระยะห่างตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย คุยเสร็จก็ล้างมือล้างไม้เสียด้วย ไม่เครียดและสื่อสารกันได้ดี
7. ขยะในบ้าน จัดการดี ๆ นะครับ ช่วงนี้ขยะจะเยอะเพราะสั่งอาหาร ทำอาหาร มีขยะจะมีสิ่งตามมา หนู แมลงวัน แมลงสาบ โรคที่ตามมาอีกเพียบ ท้องเสีย ไทฟอยด์ ภูมิแพ้ เผลอ ๆ เจองูเงี้ยวเขี้ยวขออีกต่างหาก ขยะเปียกก็ฝังกลบเสีย แยกขยะด้วยนะครับ
8. ติดตามข่าวจากศูนย์อำนวยการโรค และจากสื่อที่เชื่อได้ การติดตามข่าวที่มากเกินไป และข่าวปลอม ข่าวเล่าลือ นอกจากทำให้ปฏิบัติตัวไม่ถูก อาจทำให้เกิดโรคหรือผิดข้อกฎหมายได้ครับ จะมีแถลงการณ์ทางการทุกวัน วันละหนึ่งครั้ง และติดตามข่าวท้องถิ่น เพราะแต่ละพื้นที่จะมีการจัดการต่างกัน และอย่าตึงเครียดเกินไป พักผ่อน สันทนาการส่วนตัวด้วยนะครับ
9. หาข้อมูลการช่วยเหลือภาครัฐ เช่น การยืดการจ่ายภาษี การรับเงินชดเชย การสร้างกระแสเงินสด สิทธิการรักษาพยาบาล การชะลอหนี้ จัดการผ่านทางอินเตอร์เน็ต ชะลอความเดือดร้อนและมีสติ คิดการณ์ล่วงหน้า จะได้ไม่เครียดเกินเมื่อเจอวิกฤต
10. อันนี้ผมขอนิดนึง อยากให้ช่วยอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้า ที่เขาต้องปรับตัวจากซื้อในร้านหรือนั่งที่ร้าน มาขายแบบรับกลับหรือออนไลน์กันด้วย หากจำเป็นต้องซื้อ ผมไม่ปฏิเสธซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อนะครับ ตอนนี้เขาก็เดือดร้อน และเขาก็ช่วยกระจายสินค้าได้ดี แต่ผู้ประกอบการรายย่อยก็ต้องการกำลังจากท่านเช่นกัน แบ่งให้กันและกันบ้าง เขาจะได้อยู่ได้ เพราะเขาอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ไปด้วยนะครับ
รักและเป็นห่วง...จาก กงยูเมืองไทย ลุงหมอง่ายนิดเดียว
เขียนดีมากเลยครับ
ตอบลบ