ข้อมูลนี้ได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยเรียบร้อย
ผู้ป่วยเป็นหมอชรา มีงานอดิเรกเป็นแอดมินเพจทางการแพทย์กิ๊กก๊อกเพจหนึ่ง ร่างกายแข็งแรงดีมาก ฟิตปั๋ง เตะปี๊บดังถึงทะเลทรายซาฮาร่า ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมอาหารอย่างดี หลายปีก่อนตรวจพบไขมัน LDL ประมาณ 200 นิด ๆ จึงตัดสินใจใช้ยาลดไขมันความแรงปานกลาง เพื่อปรับลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อนึ่ง ผู้ป่วยมีประวัติครอบครัวโรคไขมันในเลือดสูง
เนื่องจาก LDL เกิน 190 จึงไม่ต้องเข้าสูตรคำนวณ แต่ถ้าไม่เกิน 190 แนะนำให้ใช้สูตรคำนวณ thai CV risk calculator ว่ามีความเสี่ยงพอจะใช้ยาหรือไม่
หลังจากรับประทานยาทุกวัน วันละหนึ่งเม็ด ร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย (ทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เพิ่มความสม่ำเสมอให้มากขึ้น) ลดไขมันอิ่มตัวในอาหาร เป็นการรักษาป้องกันก่อนเกิดโรค (primary prevention)
ผลตรวจ LDL จาก 200 นิด ๆ (ผู้ป่วยบอกว่าจำค่าที่แน่นอนไม่ได้ ตอนนั้นลืมใส่แว่นสายตายาว) ตอนนี้เหลือ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ลดได้ประมาณ 50% เรียกได้ว่าใช้ยาและปฏิบัติตัวถึงเป้าหมาย แต่ถ้าลดได้มากกว่านี้ก็ดี
ผู้ป่วยไม่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อันเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้ยานี้ ยกเว้นหลังออกกำลังกายหนัก ก็จะแก้ไขด้วยการไปนวดสปา ..อ่าห์
ผู้ป่วยตรวจคัดกรองเบาหวาน เคยมีการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานยาสเตติน อาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานเล็กน้อย 2-5% ก็พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดขณะงดอาหาร อยู่ที่ 99 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ไม่เข้าข่ายเบาหวานหรือความบกพร่องการใช้น้ำตาล
คุณหมอที่รักษาแนะนำว่า ควรใช้ยาไปตลอดเพื่อปรับลดความเสี่ยง ผู้ป่วยก็คิดทบทวนผลดีผลเสียจากการใช้ยา ตัดสินใจใช้ยาไปตลอด เพราะประโยชน์ที่ได้มากมายและโอกาสเกิดผลเสียไม่มาก
ผู้ป่วยไม่มีอุปสรรคด้านราคายา เพราะปัจจุบันยาราคาไม่แพง และสิทธิการรักษาครอบคลุมในทุกประเภทอีกด้วย ผู้ป่วยจึงยิ้มได้ มีเงินเหลือไปซื้อของจำเป็นในชีวิตอีกมาก
ขณะนี้ผู้ป่วยสุขสบายดี สภาพจิตใจแจ่มใส มีความสุขกับการรีวิวหนังสือ และดูทีวีช่องแฟชั่นทีวีทุกคืน
จบการรายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น