18 ตุลาคม 2561

amoxicillin

ยาปฏิชีวนะที่ถูกซื้อหากันมาใช้มากที่สุด Amoxicillin

ยา amoxicillin เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียกลุ่มยาเพนิซิลิน ออกฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ฆ่าได้เฉพาะแบคทีเรียที่มีผนังเซลล์เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่ยาครอบจักรวาลเป็นอะไรก็จะกินได้  ยานี้สร้างต่อมาจากเพนิซิลินแบบฉีด โดยการเติมหมู่อะมิโน เป็นการแปลงสภาพทางเคมี โดยหวังผลให้เพนิซิลินนั้นกินได้

  ผลจากการเติมหมู่อะมิโน ทำให้เกิดยาที่ทนกรดในกระเพาะอาหารที่ชื่อว่า อะมิโนเพนิซิลิน มีตัวยา amplicillin และ amoxicillin ผลที่ได้เพิ่มคือมันเพิ่มการทำลายเชื้อแบคทีเรียกรัมลบได้มากขึ้น เดิมทีเพนิซิลินฆ่าได้แต่เชื้อแบคทีเรียกรัมบวกเท่านั้น  โดยยา amoxicillin แปลงต่อมาจาก amplicillin ทำให้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดีมาก ตกค้างในทางเดินอาหารน้อย ก็ไม่ค่อยทำให้เกิดท้องเสีย
  แถมเมื่อกินเข้าไปก็ดูดซึมเร็วมาก กระจายตัวไปในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ดีมาก อยู่ในกระแสเลือดน้อย และขับออกทางไต ดังนั้นถ้าการทำงานของไตบกพร่องจะต้องปรับยาด้วย

  เป้าหมายหลักในการกำจัดเชื้อคือเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก เชื้อที่ก่อโรคติดเชื้อในลำคอ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจก่อนทำฟัน  ซึ่งยังไวต่อยา penicillin ทุกอย่าง แต่การติดเชื้อแบคทีเรียกรัมลบเช่นการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะจะมีการดื้อยาสูงขึ้นจึงไม่นิยมใช้รักษา

  ขนาดยาที่ใช้ในผู้ใหญ่คือ ขนาด 500 มิลลิกรัมวันละสามครั้ง ที่ต้องกินแบบนี้เพราะการทำงานของมันจะต้องให้ระดับยาในเลือดสูงกว่าระดับยาที่สามารถฆ่าเชื้อได้ตลอดจนกว่าโรคจะหาย ดังนั้นการกินยาไม่สม่ำเสมอจะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงมาก เพิ่มโอกาสที่จะมีเชื้อดื้อยาแทรกขึ้นมาได้
  คำแนะนำมาตรฐานยังแนะนำให้ใช้ยา penicillin หรือ amoxicillin ในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทอนซิลและลำคอจากเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยคือ streptococcus group A (ในกรณีติดเชื้ออื่น ๆ เช่น ไอกรน คอตีบหรือ หนองใน เป็นอีกกรณี)  ยังไม่แนะนำการใช้ amoxicillin/clavuronic acid หรือยาที่ออกฤทธิ์กว้างกว่านี้

   และที่สำคัญคือ การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนนั้นร้อยละเก้าสิบเป็นการติดเชื้อไวรัสซึ่งการใช้อะม็อกซี่ซิลิน ไม่ได้ไปช่วยอะไรเลย ไม่สามารถรักษาไม่สามารถป้องกัน แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับกลับกัน คือ เราจะเชื่อว่าต้องใช้ยา amoxicillin เราจึงจะหาย

  ขอให้สงวนการใช้ยา amoxicillin ไว้กับการติดเชื้อแบคทีเรียจริง ๆนะครับ และหากเป็นจริงควรกินยาให้ถูกขนาดและครบถ้วน (2012 IDSA recommendation คือ 10 วัน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม