19 พฤษภาคม 2560

บนเครื่องบิน

บนเครื่องบินจากซีเรียมุ่งหน้าสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

   ชายคนหนึ่งนั่งอยู่แถวที่นั่งสุดท้าย รู้สึกตื่นเต้น ใจสั่น เหนื่อย เขาวางแผนมาแรมเดือนเพื่อจะปล้นเครื่องบินลำนี้ เขายกมือคลำที่อกเสื้อ วัตถุนั้นเป็นปืนและระเบิดชนิดพิเศษที่ผ่านเครื่องตรวจมาได้ เขาเริ่มหายใจหอบ เสียงวี้ด  ชายคนนั้นนึกในใจว่า ทำไมต้องมากำเริบตอนตื่นเต้นทุกที  แต่ไม่เป็นไร แค่พ่นยาก็หายแล้ว ชายคนนั้นมองนาฬิกา ใกล้จะถึงเวลาตามกำหนด เขาหยิบยาพ่นขึ้นมาพ่นสองครั้ง
..
..เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของหมอหนุ่มชาวไทยคนหนึ่งตลอด เขาสังเกตว่า ชายคนนั้นเหนื่อยและต้องพ่นยา...

  ผู้ก่อการร้ายรายนั้นลุกขึ้น เดินไปด้านหน้าของเครื่องบิน เตรียมจะปฏิบัติการ แต่แล้วก็ทรุดตัวลงนั่ง หอบและพ่นยาซ้ำ เขาตื่นเต้นเกินไปเลยหอบซ้ำ เป็นจังหวะเดียวกับแอร์โฮสเตสเข้ามาเห็น และเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ก่อการร้ายรายนั้นทำกลักยาพ่นตกหลังจากพ่นยา ยาพ่นกลิ้งไปทางแอร์โฮสเตสคนนั้น เขาออกเสียงว่า..คะ..คุณ ช่วย...ยะ หยิบ.. ด้วยความเหนื่อย เขายังพูดไม่จบ แอร์โฮสเตสคนนั้นตกใจและตะโกนบอกว่า มีใครเป็นหมอบ้างไหม ทั้งภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ภาษาพาร์เซล
  เร็วเท่าความคิด หมอหนุ่มรายนั้นก้าวพรวดไปถึงตัวชายก่อการร้ายและแอร์โฮสเตส ประกาศตัวบอกว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อ ณเดชน์ เป็นแพทย์จากเมืองไทยครับ  ตอนนี้ผมพร้อมและมั่นใจว่าจะช่วยชายคนนี้ได้ สังเกตมาสักพักแล้ว ตอนนี้น่าจะหายใจล้มเหลว คุณช่วยประกาศตามหาผู้ช่วยและขอชุดฉุกเฉินด้วยครับ"
  "ได้ค่ะ ดิฉันชื่อมิวค่ะ รอสักครู่นะคะ"

 "คุณๆ ช่วยผมพาชายคนนี้มานอนบนทางเดินหน่อยสิ" หมอหนุ่มบอกชายคนหนึ่งหน้าตาคุ้นๆขอบตาดำๆ สวมหมวกหมีแพนด้า "เราคงช่วยเขาในท่านั่งไม่ได้ จำเป็นต้องนอนลง" คุณหมอณเดชน์บอก ชายหมวกแพนด้าคนนั้นลุกมาช่วยด้วยความยินดี พอขยับตัวมาเสร็จ คุณแอร์โอสเตสมิว ก็พาทีมมาอีกสองคน
  "นี่น้องญาญ่าค่ะ แอร์โอสเตสของเราที่อบรมเรื่องนี้มา น่าจะช่วยคุณหมอได้ กล่องอุปกรณ์มาแล้วด้วย ส่วนนี่คุณพยาบาลค่ะ เธอนั่งมาพอดี ชื่อคุณน้ำหวานค่ะ ดิฉันจะไปแจ้งกัปตันนะคะ"

    "คุณน้ำหวาน คุณช่วยเปิดเส้นนะครับ น้ำเกลือนอร์มัลขวดนั้นก็ได้ ส่วนน้องญาญ่า ผมรบกวนหยิบหน้ากากช่วยหายใจและเตรียมท่อช่วยหายใจด้วยนะครับ" คุณหมอหนุ่มออกคำสั่งเฉียบขาด พร้อมทั้งมองตาคุณน้ำหวานอย่างเข้าใจ รู้ใจ   คุณหมอสวมถุงมือ คลำชีพจรตรวจทรวงอก ฟังปอดด้วยหูฟังที่มีอยู่ในกล่องฉุกเฉิน ฟังจนทั่วทรวงอก...คุณหมอทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที
   "คุณน้ำหวาน คุณเตรียมยาไดอาซีแปม เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจ" (ยาไดอาซีแปม เป็นยานอนหลับ และคลายกล้ามเนื้อ)

  ในขณะที่ญาญ่าบีบแบ็กช่วยหายใจผ่านหน้ากากที่ครอบปากเพื่อช่วยหายใจนั้น สังเกตเห็นตาของชายคนนั้นดูตื่นกลัว ส่ายไปมาอย่างหวาดระแวง ญาญ่าจึงบอกให้เขาใจเย็น หายใจตามที่เธอบีบ (แบ็ก..อุปกรณ์บีบลมเข้าปอด)
..
"หมอคะ ไดอาซีแปม 10 มิลลิกรัมฉีดเรียบร้อยแล้วค่ะ" จังหวะเดียวกับที่คุณหมอเตรียมท่อช่วยหายใจเรียบร้อย และถามว่า "น้องญาญ่า บนนี้มีเครื่องช่วยหายใจไหม ออกซิเจนล่ะครับ"  คุณญาญ่าตอบว่าไม่มี แต่เธอและลูกเรือคนอื่นๆช่วยบีบถุงช่วยอัดลมเข้าปอดและช่วยชีวิตได้ ออกซิเจนพอมีในระบบ เอามาใช้ได้
  เมื่อชายคนนั้นสลบไปด้วยฤทธิ์ยาไดอาซีแปม คุณหมอก็ทำการใส่ท่อช่วยหายใจอย่างรวดเร็ว และช่วยหายใจอย่างต่อเนื่อง

คุณน้ำหวานหันมาถามญาญ่า เรามีเครื่องพ่นยาไหม ญาญ่าตอบว่าไม่มี มีแต่ชุดสูดพ่นยา ญาญ่าบอกว่าสถานการณ์แบบนี้คงต้องขอให้กัปตันลงจอดฉุกเฉิน หน่วยงานภาคพื้นของเราจะประสานงานต่อให้
..
..เสียงดังจากด้านหลัง ขอทางหน่อยครับ ขอทางครับ "คุณหมอคุณพยาบาล ผมติดต่อหน่วยงานภาคพื้นแล้ว ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างครับ"
..
..คุณหมอหนุ่มและคุณน้ำหวานเงยหน้ามอง และตกตะลึง
..
"สวัสดีครับ ผม กัปตันแจ็ค..

ติดตามตอนต่อไปนะครับ กับปริศนาที่ซ่อนอยู่บนเครื่องบินลำนี้ แต่ว่าก่อนจะถึงตอนจบ พรุ่งนี้เราจะมาเล่าถึงแนวทางการช่วยเหลือเหตุการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์บนเครื่องบินกันก่อน

ตอนที่สอง

ความเดิมตอนที่แล้ว ชายผู้ก่อการได้ได้พยายามปล้นเครื่องบิน แต่ว่าโรคหอบหืดกำเริบเฉียบพลัน เดชะบุญที่มีหมอ พยาบาล ลูกเรือที่ได้รับการอบรมอย่างดี พร้อมเที่ยวบินที่มีอุปกรณ์ครบครัน ช่วยเหลือไว้ได้ทัน และกัปตันได้รับรายงานจึงมาดูเหตุการณ์

"สวัสดีครับ ผมกัปตัน แจ็ค สแปรโรว์ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง"
"คนเจ็บอาการแย่มากครับ ผมช่วยชีวิตและแก้ไขเบื้องต้นแล้ว คิดว่าถ้าเราลงจอดและส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาลจะดีกว่าครับ"
"คนเจ็บหนักขนาดนั้นเลยหรือครับ" .. กัปตันทำท่าครุ่นคิด หันไปปรึกษาญาญ่า "คุณญาญ่า ผมคิดว่าเราจะลงจอด คุณช่วยติดต่อภาคพื้นด้วย อย่างไรต้องรบกวนคุณหมอและคุณน้ำหวาน ช่วยเขาจนกว่าเราจะลงจอดนะครับ"  แล้วก็สั่งให้คุณมิวอยู่ช่วยจัดการเรื่องราวต่างๆ กับคุณหมอและพยาบาล
..
..คุณหมอณเดชน์และคุณพยาบาลน้ำหวาน ช่วยคนเจ็บอย่างเคร่งเครียด โดยมีชายหนุ่มใส่หมวกหมีแพนด้าคอยจัดที่ทางและอำนวยความสะดวก อยู่ด้านข้าง

ที่ห้องนักบิน .. กัปตันสแปรโรว์เครียดมาก เหงื่อออกทั้งตัว จนนักบินผู้ช่วยทักว่า "กัปตันไหวหรือไม่ครับ"  แต่ทันใดนั้น สีหน้ากัปตันก็ดีขึ้นเหมือนนึกอะไรออกบางอย่าง แล้วบอกนักบินผู้ช่วยว่า "คุณเจี๊ยบ ผมจะขอไดเวิร์ท (ขอลงชั่วคราว) ที่สนามบินกาตาร์ และจะลงไปกับผู้ป่วยรายนี้ด้วยตัวเอง คุณช่วยบินกลับไปถึงเมืองไทยได้ไหม"  นักบินเจี๊ยบตกใจ ไม่คิดว่ากัปตันจะตัดสินใจแบบนี้ ปกติกัปตันจะไม่ไปไหน แต่ก็คิดว่ากัปตันคงไม่พร้อมบินต่อ จึงตอบตกลง "ได้ครับ แล้วผมจะแจ้งหอบังคับการกับทางสายการบิน"  กัปตันบอกสีหน้าเคร่งเครียดว่าไม่ต้องเดี๋ยวเขาจัดการเอง

หลังจากเครื่องลงจอด และได้ลำเลียงผู้ป่วยที่เป็นผู้ก่อการร้ายลงไป กัปตันสแปรโรว์ได้ตามไปด้วย คุณเจี๊ยบนักบินผู้ช่วย ได้ทราบว่าชายที่ใส่หมวกแพนด้าก็เป็นนักบินรบมาก่อน เขาอาสาที่จะมาช่วย ทั้งหมดได้เดินทางต่อไปยังประเทศไทย
..
คุณมิวเชิญคุณหมอณเดชน์และคุณน้ำหวาน ไปนั่งที่ชั้นธุรกิจ และกำชับให้ญาญ่าดูแลอย่างดี
อีก 60 นาทีจะถึงสุวรรณภูมิ คุณน้ำหวานเอ่ยว่า "โชคดีจังนะคะ ที่คุณหมออยู่บนเครื่องด้วย คุณหมอนิ่งมาก อย่างกับเตรียมตัวมาก่อน" น้ำหวานยิ้มน่ารัก ตาหวาน สายตาชื่นชม
..
คุณหมอณเดชน์กล่าวว่า บางทีอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือโชคชะตาฟ้าลิขิตก็ได้  คุณหมอยกแก้วน้ำส้มชนแก้วกับน้ำหวาน นึกแค้นในใจ .... ทำไมตรูไม่กล้าขอเบอร์ว้า..แห้วมาหลายรอบแล้ว

ญาญ่าเข้ามาเสิร์ฟอาหารว่างและขัดจังหวะคุณน้ำหวาน  "คุณหมอเหมือนทราบแนวทางการช่วยชีวิตบนเครื่องเลยนะคะ เครื่องไม้เครื่องมือ การจัดการ การขอความช่วยเหลือ ร้องขอกัปตันให้ลงจอด ราวกับมืออาชีพ"

คุณหมอหนุ่มกล่าวว่า "ประเทศไทยมีเพจวิชาการเรื่องนี้ครับ บังเอิญผมได้อ่านก่อนขึ้นเครื่องนี่เอง ไม่คิดฝันว่าจะได้เจอของจริง"
คุณหมอหนุ่มก็ชื่นชม "คุณญาญ่าก็คล่องแคล่วนะครับ ช่วยเหลืออย่างมืออาชีพเช่นกัน"
ญาญ่าหน้าแดง ... กล่าวว่า เป็นมาตรฐานของสายการบินที่ต้องมีการอบรม และทราบทรัพยากรของเครื่อง รวมทั้งการแก้ไขปัญหา การติดต่อภาคพื้น เธอก็เพิ่งผ่านการอบรมมา
..
..ครับ เอาเป็นว่า หมอหนุ่ม พยาบาลน้ำหวาน แอร์ญาญ่า ส่งสายตาให้กัน คอยกันท่ากันและกัน จนถึงสุวรรณภูมิ หมอหนุ่มอดได้เบอร์โทร เบอร์ไลน์ ทั้งน้ำหวานและญาญ่าเพราะป๊อด !! ...ได้แต่จับไอโฟนไว้แน่นนนนน

ที่ประตูทางออก คุณพยาบาลน้ำหวานยืนรออยู่ คุณหมอณเดชน์ใจตุ้มๆต่อมๆ และคุณน้ำหวานก็เดินเข้ามถามว่า เธอสงสัยตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว "คุณหมอว่า หน้าตาคนไข้ กับ หน้าตากัปตันเหมือนกันมากไหมคะ " หมอหนุ่มตอบว่า ...ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ แหมเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินบุพเพสันนิวาสจริงๆ  หมอคิดในใจ ...ตรูนี่โคตรเสี่ยวเลย..
  "อีกข้อนะคะหมอ..ทำไมหมอถึงรีบใส่ท่อล่ะคะ ดิฉันดูตา ดูท่าทาง น่าจะไหว เราอาจไม่ต้องเสียเวลา"

คุณหมอยิ้มมีเลศนัย.."มันเป็นเทคนิคส่วนตัวครับ" แล้วเดินจากไปอย่างเท่ๆ แล้วหันมามองด้านหลัง คาดหวังจะเห็นคุณน้ำหวานรอส่งยิ้มให้ ...เปล่าเลย คุณน้ำหวานหันไปเลือกซื้อรองเท้าและกระเป๋าอย่างสนุกสนาน   เฮ้อ..ไม่เป็นไร...คุณหมอณเดชน์ทำใจได้ เดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ และกดหมายเลข 13 ตัว

...ที่กาตาร์ ในห้องผู้ป่วยโรงพยาบาลกาตาร์ กัปตันสแปรโรว์พี่ชายของชายผู้ก่อการร้ายบอกว่า "ไหนแกว่าโรคแกควบคุมได้แล้วไง แล้วนี่ดันมากำเริบวันที่ปฏิบัติการพอดี แล้วจะทำไง นี่ดีนะที่ฉันลงมาด้วยจนได้ ไม่งั้นความแตกแน่ๆ คงต้องหนีตำรวจสักพัก"
  ชายผู้น้องก็หม่นหมองไม่แพ้กัน "พี่ จริงๆมันก็ไม่ได้แย่นะพี่ แต่ฉันไม่คิดว่าจะมีหมออยู่บนเครื่อง ฉันพ่นยากำลังจะหายอยู่แล้วแต่จู่ๆหมอก็เข้ามาประชิดตัว ตกใจแทบแย่ตอนหมอคลำอกแล้วไปพบปืนเข้า แต่หมอคงไม่รู้ว่ามันเป็นปืนแบบพิเศษ  ฉันกำลังจะบอกว่าแอร์โฮสเตสคนที่มาช่วยว่า..ยังไหว แต่หมอก็ฉีดยานอนหลับให้เลย โชคร้ายจริงๆนะพี่"

...ที่ สุวรรณภูมิ สายจากคุณหมอณเดชน์ต่อตรงไปยัง แลงก์ลีย์ เวอร์จิเนีย สำนักงานใหญ่ซีไอเอ ...จัดการเรียบร้อยครับ การข่าวแม่นยำมาก ผมจัดการอย่างแนบเนียนที่สุด มันกำลังจะปล้นเครื่องบิน ปืนพิเศษที่มันพกเป็นแบบ MM44 อานุภาพร้ายแรง ตอนแรกที่คลำพบผมก็สงสัยว่า มันเอาขึ้นเครื่องมาได้อย่างไร ท่าทางจะมีหนอนบ่อนไส้แน่ๆ แต่พอเห็นหน้ากัปตันเท่านั้น..ชัดเลย.. เรื่องราวพอดี มันสองคนร่วมกันปล้นเครื่องลำนี้แน่นอน ตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลในกาตาร์ เครื่องติดตามตัวที่ผมใส่เข้าปอดมัน ตอนที่ใส่ท่อหายใจ บ่งชี้ตำแหน่งชัดเจนครับ จบการรายงานครับ...กริ๊ก

  ถ้าใครจะสังเกตว่ามีหมอหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่ไม่ได้ออกมา คนที่ออกมากลับเป็นชายชราหน้าหนุ่ม ใส่แว่นขอบสีทอง แจ็คเก็ตสีดำ เผยให้เห็นเสื้อยืดสีขาวด้านใน มีลายสกรีนสีน้ำเงิน  ...อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม