01 พฤษภาคม 2560

ที่มาถุงยาง

กษัตริย์มิโนส กษัตริย์ผู้ครองเมืองครีต ผู้เป็นบุตรของซูส ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สำคัญมากชิ้นหนึ่ง

กษัตริย์มิโนส ผู้ยิ่งใหญ่แห่งครีต ถูกสาปให้น้ำอสุจิของท่านมีแต่สัตว์ที่มีพิษร้ายแมงป่อง งูพิษ ดังนั้นคู่นอนของกษัตริย์มิโนสก็จะอันตราย ถึงขั้นเสียชีวิตทุกทีไป ท่านก็นึกเป็นห่วงเมียท่าน pasiphae ว่าคงจะมีอันเป็นไปแน่ๆ ลูกหลานก็จะไม่มี (อ้าว...แล้วที่ถูกงูกัด แมงป่องกัดไปตั้งหลายคนนี่มันคืออะไร)
ท่าน prokris ราชบัณฑิต เลยคิดวิถีได้ อย่ากระนั้นเลยเพื่อกษัตริย์มิโนส จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมาน จึงได้คิดประดิษฐ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย กระเพาะปัสสาวะแพะ (แพะ..มันรับบาปตลอดเลยนิ) เอามาครอบปลายลูกศรของมิโนส แน่นอนมิโนสก็สามารถยิงธนูได้ตามปกติ แต่พิษของธนูที่กระฉอกออกมา หาได้ระคายเคืองเบื้องลึกแห่งอิสตรีไม่ ด้วยการปกป้องของกระเพาะปัสสาวะแพะนั่นเอง ท่านมิโนสกับภรรยาจึงรักกันได้ รักกันดี

รักกันไป รักกันมา เฮ้ย..pasiphae ตั้งท้อง !!! ชักจะยังไงแถมลูกคลอดมาเป็นลูกครึ่งอีก ท่านผู้ชมคงนึกว่า จะไปแปลกอะไร บางวันแพะมันอาจหมด หรือ แมงป่องงูพิษมันก็หยุดไปช็อปปิ้งตามประสามันบ้าง มิโนสก็ครึ่งเทพ เมียก็เป็นคน ลูกจะเป็นลูกครึ่งไม่เห็นแปลก

แต่..ครึ่งคน ครึ่งวัว..นะครับ คือ ด.ช.มิโนทอร์ Minotaur ที่รู้จักกันดีนั่นเอง

เอาละจบๆ ตำนานเท่านี้ก่อน นายวัวเขาจะมาส่งแก๊สกันตอนไหน ก็แล้วแค่เขาล่ะนะครับ อาเป็นว่ากษัตริย์มิโนสก็คงเป็นคนแรกที่มีการบันทึกการใช้ถุงยางอนามัย ประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาล
ในโลกของจริงถุงยางอนามัยเริ่มมีการใช้ในปี 1494 เพื่อป้องกันการระบาดของซิฟิลิส จริงๆก่อนหน้านี้มีการใช้บ้างในสมัยโรมัน แต่เป็นแค่การใช้ครอบแค่หัวลูกศร ไม่ได้คลุมถึงก้านลูกศร เพราะคนโรมันกลัวติดโรค...ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าโรคอะไร ใช้ผ้าลินินคลุม หรือใช้ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะของสัตว์...แพะ วัว
วัตถุประสงค์ของการคุมกำเนิดใช้น้อยนะครับ เพราะยุคนั้น คนไม่มาก ต้องการแรงงาน ไม่คุมกำเนิดหรือแม้มีการคุมก็จะเป็นหน้าที่ของอิสตรี ยุคนั้นสิทธิสตรียังไม่เกิด .. ยุคนี้เลยเอาคืนใช่ไหม กวางน้อย

ยุคแรกๆใช้ลำไส้แกะ ไส้แพะ โดยพ่อค้าเนื้อนี่แหละจำหน่ายถุงยาง หลังจากนั้นในยุคศตวรรษที่สิบห้าที่มีการป้องกันซิฟิลิส ใช้พันรอบปลายลูกศรด้วยลำไส้สัตว์แล้วมัดด้วยริบบิ้น (อ่านแล้วนึกภาพไม่ออกเหมือนกัน) แต่ว่าไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะราคาแพงแถมยังเสีย "ฟิลลิ่ง" ด้วย

จนมาถึงจุดโด่งดังจริงๆของถุงยางในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่หนึ่งแห่งอังกฤษ ป่วยเป็นซิฟิลิสเช่นกัน ในขณะทำสงครามกลางเมืองอังกฤษ สงครามที่มีจุดกำเนิดจากการที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่หนึ่ง ไปแต่งงานกับเจ้าหญิงเฮนเรียตต้า มาเรีย แห่งฝรั่งเศส ซึ่งรัฐบาลไม่ค่อยพอใจกับการตัดสินใจนี้ของทางราชสำนัก
สิ่งที่ไม่รู้จะเรียกบังเอิญหรือไม่ คือเจ้าซิฟิลิสนี่ สมัยก่อนมันมีชื่อว่า De Morbo Gallico "the French disease"

ตอนนั้นซิฟิลิสระบาดหนักในกองทัพอังกฤษ ไม่รู้ว่าติดกันมากมายอย่างไร (เนอะๆ ในกองทัพก็มีแต่ผู้ชาย) เสียไพร่พลไปมากมาย จนสงครามกลางเมืองยุติ พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองขึ้นครองบัลบังก์ พบปัญหาที่มากกว่าซิฟิลิสคือ ลูกท่านมาก ลูกผิดกฎหมายด้วย ท่านจึงสั่งให้หมอทหารคนหนึ่งในกองทัพ คิดวิธีทั้งป้องกันโรคและคุมกำเนิดไปพร้อมๆกัน

คุณหมอเลยได้ไปออกแบบถุงยางให้ง่ายและพร้อมใช้ ทำจากไส้แกะ เป็นที่นิยมแพร่หลายมาก คนได้ชื่อว่า condoms ตามผู้ค้นพบ พันเอกนายแพทย์ คอนด้อมส์ นั่นเอง

หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคผ้าลินิน ยุคยาง ยุคลาเท็กซ์ และยุคโพลียูรีเทน ที่มีการพัฒนาถุงยางมากขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ในการป้องกันโรคที่ทรงพลังมากในประวัติศาสตร์มนุษย์ แถมยังคุมกำเนิดได้ดีมากด้วย ปัจจุบันราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ยิ่งในยุคสงครามโลก และ สงครามโรค ถุงยางได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มภาคภูมิ (ภาคภูมิ = หมอแล็บแพนด้า) ในสายตาของผม ถุงยางถือเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมหน้าโลกในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาเลยนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม