ยา tolvaptan เป็นยาที่ลดผลของฮอร์โมน Vasopressin (ADH) ที่ตัวรับฮอร์โมนที่ท่อไตส่งผลให้ ไตมีการดูดกลับน้ำลดลง ใช้ในการรักษาภาวะน้ำในหลอดเลือดเกินเช่น โรคหัวใจล้มเหลว หรือใช้ในการรักษาผลจากฮอร์โมน ADH มากเกินไปจนโซเดียมในเลือดต่ำ (SIADH)
นอกจากนี้ยา tolvaptan ยังมีการศึกษาเพื่อนำมาใช้ในโรคซีสต์ที่ไตชนิด polycystic kidney disease ชนิดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม (Autosomal Dominant Polycystic Kidney Disease : ADPKD) ได้อีกด้วย โรคนี้พบไม่บ่อย แต่สามารถวินิจฉัยได้ง่ายจากการพบซีสต์มากมายที่ไตจากการทำอัลตร้าซาวนด์หรือซีที ความสำคัญคือ
- ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้สามารถทำนายคนในเครือญาติ และตรวจหายีนได้
- อาจมีซีสต์ที่อื่น เช่น กะเปาะเลือดแดงในสมอง หลอดเลือดแดงหรือลิ้นหัวใจโป่งออก นั่นคือต้องตรวจหาความเสียหายอื่น
- ทำให้ไตเสื่อมเรื้อรังได้ ต้องเข้ารับการรักษาชลอความเสื่อมของไต
มีการใช้ยาตัวนี้เพื่อมาชะลอความเสื่อมของไตอยู่บ้าง ในการศึกษาเพื่อศึกษาผลของยาในการลดปริมาตรของไต (total kidney volume) ในผู้ป่วยที่การทำงานของไตยังดีอยู่ ชื่อว่าการศึกษา TEMPO 3:4 พบว่าการให้ยาสามารถชะลอการเพิ่มขนาดของไตลงได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก (ขนาดของไตที่เพิ่มสัมพันธ์กับการทำงานของไตที่แย่ลงในโรคนี้)
และมีการศึกษาผลของยาในการชะลอความเสื่อมของไต ในผู้ป่วย ADPKD ที่มีไตเสื่อมระยะ 3-4-5 แล้ว พบว่าการให้ยาช่วยชลอการลดลงของ GFR (GFR ยิ่งน้อย การทำงานของไตยิ่งแย่)ได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก ชื่อการศึกษา REPRAISE
เชื่อว่ายา Tolvaptan มีผลต่อการส่งสัญญาณภายในเซลล์ผ่าน cyclic AMP จึงชลอโรคได้ ทำให้มีที่ใช้ยาพอสมควรในผู้ป่วยที่เป็น ADPKD โดยการใช้ยาจะให้ยาสองเวลาต่างขนาดกัน เช่น 45 มิลลิกรัมเช้าและ 15 มิลลิกรัมตอนเย็น หรือสัดส่วน 60/30 หรือ 90/30 ขึ้นกับการปรับยาในแต่ละคน โดยต้องระวังผลข้างเคียงสำคัญคือค่าการทำงานของตับสูงขึ้น จากการศึกษา REPRAISE ก็พบการทำงานของตับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ลดลงหลังหยุดยา และต้องติดตามระดับโซเดียมในเลือดไม่ให้สูงเกิน ระวังอาการขาดน้ำจากปัสสาวะออกมากด้วย
ในแนวทางการรักษาของจีนระบุ "อาจจะ" ใช้ยาตัวนี้เพื่อลดการเพิ่มขนาดของไตในผู้ป่วยที่ยังไตเสื่อมไม่มากนัก ในแนวทางของอเมริกาและยุโรป ก็แนะนำเป็นตัวเลือกได้ แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าด้วย
ก็เรียกว่าเป็นข้อมูลสนุก ๆ เพราะโรคนี้พบไม่บ่อยมากนัก การรักษายังมีน้อย และที่สำคัญคือยานี้ราตาสูงพอสมควร การกินยาระยะยาวจะมีค่าใข้จ่ายเยอะทีเดียวครับ (เม็ดละหลายร้อยบาท)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น