มะเร็งปอด เอาแบบที่พวกเราชาวบ้านร้านตลาดน่ารู้
ถามจริงเหอะหมอ มันเกิดจากบุหรี่จริงหรือ ?
จริงครับ แม้ว่าปัจจุบันเรายังไม่ทราบกลไกการเกิดที่ชัดเจน แต่ก็เข้าใกล้ความจริงมาก บุหรี่ไม่ได้เป็นสาเหตุเพียงอย่างเดียว เรายังเจอมูลเหตุสำคัญอีกคือความผันแปร กลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่ส่งผลมากเช่นกัน แต่ตัวเลขความสัมพันธ์ของบุหรี่กับมะเร็งปอดมันก็สัมพันธ์กันมากเสียจนปฏิเสธไม่ได้ว่า บุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญระดับปัจจัยหลักที่ก่อมะเร็งปอด และถ้าเราหลีกเลี่ยง โอกาสนั้นก็ลดลงชัดเจน คนสูบบุหรี่มีโอกาสเกิดมะเร็งปอดมากกว่าคนที่ไม่สูบเกือบ 20 เท่า !!
ดังนั้นข้อกำหนดอันแรกคือ เลิกบุหรี่ อย่าเริ่มบุหรี่ พอเราควบคุมมาก ๆ และสูบบุหรี่ลดลง อัตราการเกิดมะเร็งปอดลดลงจริง ๆ นะครับ
ดังนั้นข้อกำหนดอันแรกคือ เลิกบุหรี่ อย่าเริ่มบุหรี่ พอเราควบคุมมาก ๆ และสูบบุหรี่ลดลง อัตราการเกิดมะเร็งปอดลดลงจริง ๆ นะครับ
ได้ข่าวว่ามันน่ากลัว เราจะรู้ได้ไงว่าจะเกิด ตรวจก่อนได้ไหม รู้เร็ว ๆ ?
มีความพยายามจะใช้การตรวจจับที่ไว เพื่อจะได้รักษาได้ทัน จะได้ไม่เสียชีวิตและไม่เสียค่ารักษาจนหมดตัว แต่ก่อนใช้เอกซเรย์ปอด ก็ไม่ไว ต่อมามีการศึกษาทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เลยนะ ทำในกลุ่มคนที่เสี่ยงมากด้วย คือสูบบุหรี่จัด ผลออกมาก็ตรวจจับได้มากกว่าเอกซเรย์ธรรมดาแต่มันไม่ได้ไวมากและจำเพาะมากจนสามารถช่วยการวินิจฉัยได้เร็วอย่างที่คิด ยิ่งคนเสี่ยงน้อย ๆ ไม่สูบบุหรี่นี่ใช้ไม่ได้เลย
ตอนนี้ก็ยังครับ ถ้าไม่เจอโดยบังเอิญก็เกิดอาการแล้วทั้งนั้น เรารอในอนาคตอาจจะมีครับ
ตอนนี้ก็ยังครับ ถ้าไม่เจอโดยบังเอิญก็เกิดอาการแล้วทั้งนั้น เรารอในอนาคตอาจจะมีครับ
ต้องตัดชิ้นเนื้อวินิจฉัยไหมครับ ?
ต้องใช้ชิ้นเนื้อครับ สำคัญมาก ยิ่งปัจจุบันยิ่งมีความสำคัญเพิ่มขึ้นด้วยนะ แต่ก่อนเราเอาไปดูลักษณะเซลล์ การจัดเรียงตัวเซลล์ เราแบ่งมะเร็งปอดออกเป็นสองแบบคือ เซลล์เล็ก กับ เซลล์ไม่เล็ก ...จริง ๆ ดูเหมือนกำปั้นทุบดินนะ แต่แบ่งตามการรักษาจริง ๆ แบบไหนให้เคมี ให้การผ่าตัด ให้การฉายแสง แต่เดี๋ยวนี้การตัดชิ้นเนื้อจะมีการตรวจย้อมพิเศษทางวิทยาภูมิคุ้มกัน เพื่อแยกชนิดให้ชัดเจนว่าเจ้าเซลล์ไม่เล็กเนี่ย มันคือชนิดใดกันแน่ในสามชนิด เพราะตอบสนองต่างกัน รักษาต่างกัน แล้วยังส่งไปตรวจหายีนและการกลายพันธุ์อีกเพื่อระบุชนิดยาที่จะลงไปสังหารมะเร็งให้ชัดเจนขึ้น ระดับ precision
ควรตรวจชิ้นเนื้อครับ และต้องส่งตรวจถึงระดับพันธุกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสการรักษาให้แม่นยำ
ควรตรวจชิ้นเนื้อครับ และต้องส่งตรวจถึงระดับพันธุกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสการรักษาให้แม่นยำ
ต้องผ่าตัดไหม หรือให้ยาอย่างเดียว ?
ในระยะต้น (stage I - III) การผ่าตัดยังเป็นการรักษาหลักครับ ตัดปอดออกจะทั้งกลีบหรือทั้งปอด ขึ้นกับระยะและการลุกลาม ยกเว้นแต่รายที่ผ่าไม่ได้จึงเลือกการรักษาแบบอื่น ส่วนการให้ยาเคมีบำบัดและรังสีรักษาเป็นการรักษาเสริม ส่วนมะเร็งปอดในระยะลุกลาม (stage IV) จะมีการรักษาหลากหลายมาก เพราะส่วนมากผ่าตัดไม่ได้ หรือผ่าตัดได้แต่ตัดได้ไม่หมด มีทั้งยาเคมีและเจ้ายารักษาแบบตรงเป้า ตรงชนิดพันธุกรรมนี่แหละ
ดังนั้นไม่ว่ามะเร็งปอดระยะใดก็สมควรเข้ารับการรักษาทั้งเพื่อการหายขาดหรือเพื่อการประคับประคองให้ชีวิตมีคุณภาพ
ในระยะต้น (stage I - III) การผ่าตัดยังเป็นการรักษาหลักครับ ตัดปอดออกจะทั้งกลีบหรือทั้งปอด ขึ้นกับระยะและการลุกลาม ยกเว้นแต่รายที่ผ่าไม่ได้จึงเลือกการรักษาแบบอื่น ส่วนการให้ยาเคมีบำบัดและรังสีรักษาเป็นการรักษาเสริม ส่วนมะเร็งปอดในระยะลุกลาม (stage IV) จะมีการรักษาหลากหลายมาก เพราะส่วนมากผ่าตัดไม่ได้ หรือผ่าตัดได้แต่ตัดได้ไม่หมด มีทั้งยาเคมีและเจ้ายารักษาแบบตรงเป้า ตรงชนิดพันธุกรรมนี่แหละ
ดังนั้นไม่ว่ามะเร็งปอดระยะใดก็สมควรเข้ารับการรักษาทั้งเพื่อการหายขาดหรือเพื่อการประคับประคองให้ชีวิตมีคุณภาพ
ลองยกตัวอย่างได้ไหม เอาภาษาหมอน้อย ๆ นะ
โอเค อย่างเช่นคำแนะนำของสมาคมแพทย์โรคมะเร็งสหรัฐอเมริกา (จริง ๆ ของยุโรปก็ไม่ได้ต่างกันมากมายนัก) หากเป็นมะเร็งชนิดเซลล์ไม่เล็ก non-small cell lung cancer ที่เรามักเรียกย่อว่า NSCLC ในระยะที่สี่ หากมีการกลายพันธุ์ชนิดพิเศษที่ส่งยาไปถึงจุดกลายพันธุ์ได้โดยตรง ได้แก่ EGFR gene, ALK arrengement, ROS-1 translocation เราก็จะใช้ยาที่ต่างกัน ตามลำดับ ยีนตัวแรกใช้ erlotinib,gefitinib ยีนกลายพันธุ์ตัวที่สองใช้ crizotinib, alectinib ยีนกลายพันธุ์ตัวที่สามใช้ crizotinib อันนี้เป็นตัวอย่างนะครับ
ยากลุ่มนี้ราคาแพงมาก และต้องใช้ไปนาน การใช้ยาต้องคุยกับหมอผู้รักษา ตรวจสิทธิการรักษาดี ๆ
หรือหากไม่มีการกลายพันธุ์เฉพาะแบบ (specific target mutation) ก็สามารถเลือกใช้ยามะเร็งครอบจักรวาล pembrolizumab (anti PD-L1 อันลือลั่นโนเบล) แต่ถ้าไม่มี PD-L1 ก็เลือกให้ยาเคมีบำบัด
หรือถ้าไม่มีข้อบ่งชี้ในการให้การรักษาแบบมุ่งเป้าจริง ๆ ก็ยังเลือกใช้ยาเคมีบำบัดได้ ก็จะมีผลข้างเคียงบ้างเพราะไม่มุ่งเป้าเหมือนกับยาที่ออกฤทธิ์ที่ยีนและตัวรับยีนโดยตรง ยาเคมีบำบัดที่นิยมใช้คือยากลุ่ม taxanes เช่น docetaxel และยากลุ่ม platinum-based เช่น carboplatin
ยากลุ่มนี้ราคาแพงมาก และต้องใช้ไปนาน การใช้ยาต้องคุยกับหมอผู้รักษา ตรวจสิทธิการรักษาดี ๆ
หรือหากไม่มีการกลายพันธุ์เฉพาะแบบ (specific target mutation) ก็สามารถเลือกใช้ยามะเร็งครอบจักรวาล pembrolizumab (anti PD-L1 อันลือลั่นโนเบล) แต่ถ้าไม่มี PD-L1 ก็เลือกให้ยาเคมีบำบัด
หรือถ้าไม่มีข้อบ่งชี้ในการให้การรักษาแบบมุ่งเป้าจริง ๆ ก็ยังเลือกใช้ยาเคมีบำบัดได้ ก็จะมีผลข้างเคียงบ้างเพราะไม่มุ่งเป้าเหมือนกับยาที่ออกฤทธิ์ที่ยีนและตัวรับยีนโดยตรง ยาเคมีบำบัดที่นิยมใช้คือยากลุ่ม taxanes เช่น docetaxel และยากลุ่ม platinum-based เช่น carboplatin
หลังจากการรักษาไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดหรือการให้ยา หรือการฉายแสง ก็จะต้องติดตามโอกาสการเกิดซ้ำของมะเร็งไปอีกตลอดครับ กระบวนการรักษามีหลายประการที่สามารถใช้สิทธิการรักษาพื้นฐานได้ แต่ยาอีกหลายชนิดก็ยังไม่สามารถใช้ได้ คุณหมอแต่ละที่จะเลือกใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมกับผู้ป่วยและสถานที่รักษาอย่างให้ประโยชน์สูงสุด
ดังนั้นอย่าเพิ่งถอดใจ หมดใจ เมื่อพบว่าเป็นมะเร็งปอดครับ เรายังมีการรักษาอีกหลายประการที่สามารถช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นแม้ว่าจะไม่หายขาดก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น