31 ธันวาคม 2563

ตั้งเป้าแล้วลุย new year resolution 2564

 ตั้งเป้าแล้วลุย

ก่อนเข้าปี 2563 ผมได้ตั้งเป้าปีใหม่ไว้หลายอย่าง ทำได้หลายอย่าง และทำไม่ได้หลายอย่าง เช่น ผมอ่านข้อสอบ ielts จบไปหลายบท, ศึกษาสงครามครูเสด, เก็บเงินเกษียณเพิ่มจากเดิมได้อีก 5%, อ่านหนังสือได้ทะลุเป้า (ค่าหนังสือก็ทะลุเป้าเช่นกัน)

ปีนี้จะมาชวนทุกคนทำ เป้าหมายปีใหม่ ปีนี้จะจัดแบบกระชับ ไม่เยอะ ทำได้จริง ผมจัด 5 ข้อ

1. ออกกำลังกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้อตลอดปี หลังตั้งใจลดน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม กล้ามเนื้อหายหมด ปีนี้จะฟิตแอนด์เฟิร์ม

2. อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ 12 เล่ม ฝึกฝนมากขึ้น เป็นนิยายครึ่งนึง nonfiction ครึ่งนึง

3. เรียนออนไลน์ในเรื่องที่ไม่ใช่วิชาแพทย์ เพิ่มความเฉียบคมและการมองรอบด้าน 5 หลักสูตร หนึ่งในนั้นต้องเป็น data management

4. นอนหลับมากขึ้น เลิกนิสัยทำงานหรืออ่านหนังสือจนแบตหมดแล้วผลอยหลับ ตั้งเวลานอนให้ชัดเจน และซื้อหมอนนุ่ม ๆ มาเป็นคู่นอน

5. ไม่ดุด่าใครตลอดปี เปลี่ยนคำดุด่ามาเป็นให้ข้อคิด ให้กำลังใจ ปรกติก็ไม่ดุด่าใครอยู่แล้ว แต่ปีนี้จะทำ 100% รวมทั้งในความคิดด้วย

เชิญชวนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มาแบ่งปันเป้าหมายปีใหม่ครับ ใครตั้งใจทำอะไร ลองเขียนมาบอกกัน ข้อสองข้อก็พอ จะได้เป็นรูปธรรม ทำได้จริง เป็นแรงขับดันที่ดีในด้านบวกตัวเองครับ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และแว่นกันแดด, ข้อความพูดว่า "อิทยากร เชียงกูล ทำไม จึงคอร อ่าน หนังสือ คลาสสิก read the books that everyone else is you can only think what everyone else thinking. Haruki Murakami"

30 ธันวาคม 2563

ตอบคำถามประจำปี 2563

 


บันทึกคำแนะนำเมื่อรับปรึกษา

 บันทึกคำแนะนำเมื่อรับปรึกษา

เด้นท์1: พี่คะ คลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบนี้ต้องทำอะไรเพิ่มไหม (PVC บ้าน ๆ มาวันละหนึ่งตัว)
ที่ปรึกษา : คลื่นไฟฟ้าแบบนี้ดูปลอดภัย แต่คลื่นหัวใจของพี่พริ้วไหวเมื่อเจอเธอ

เด้นท์1 : พี่คะ เห็นคริสตัลในเซลล์อันนี้คือเก๊าต์ใช่ไหม (คริสตัลรูปเข็ม เสียบทะลุเม็ดเลือดขาว)​
ที่ปรึกษา : ที่อยู่ในเซลล์คือยูริกคริสตัล ที่อยู่ในใจเราเมื่อไหร่จะเป็นพี่

เด้นท์ 2 : พี่คะ จะเพิ่มขนาดยาลดกรดได้ไหม คนไข้ไม่ตอบสนองเลย (สามารถเพิ่มขนาดยา PPI.ได้)​
ที่ปรึกษา : โรคกระเพาะไม่หายก็เพิ่มยา ถ้าดูแลคนตรงหน้าก็เพิ่มใจ

เด้นท์ 2 : สมรรถภาพปอดคนนี้ หนูว่าเป็นถุงลมโป่งพองแน่ค่ะ (การวินิจฉัย COPD ต้องวัดสมรรถภาพปอด)​
ที่ปรึกษา : วัดลมปอดก็จะรู้ว่าโป่งพอง หากขาดน้องตัวพี่คงปวดใจ

เด้นท์ 3 : พี่คะ เลือดเป็นกรดให้ยาไม่ดี น่าฟอกเลือดไหมคะ (ถ้ารักษาด้วยยาไม่ได้ผล ก็ฟอกเลือด)​
ที่ปรึกษา : เลือดเป็นกรดฟอกเลือดแทนไต แต่ฟอกหัวใจเท่าไรก็มีเธอ

เด้นท์ 3 : เอ่อ พี่คะ เคส ARDS นี้หนูว่าเราอาจช่วยไม่ได้ (ADRS มีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก)​
ที่ปรึกษา : ARDSต้องดูแลแบบวิกฤต ส่วนใจน้องทั้งชีวิตพี่ขอดูแล

ชีฟเด้นท์ยืนมองและหมั่นไส้อยู่นาน

ที่ปรึกษา : มีเคสอะไรอีกไหมน้อง
ชีฟเด้นท์ : ไม่มีแล้วครับ สุดยอดมากครับอาจารย์ สมฉายา "ทั้งหยอดทั้งอ่อยทั้งแซว แค่ได้แห้วกลับมาก็ดีใจ"

ราชาไร่แห้ว นายกสมาคมมุกเสี่ยว ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

อยากเห็นหน้าที่ปรึกษาคนนั้นจริง ๆ พับผ่าสิ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

28 ธันวาคม 2563

การุณยฆาต

 รีวิวหนังสือเล่มสุดท้ายของปี เป็นเล่มที่วิเศษจริง ๆ ครับ


หนังสือเรื่อง การุณยฆาต เป็นผลงานเล่มที่สองของอาจารย์ภิญโญ ศรีวีระชัย แห่งศูนย์บริรักษ์ โรงพยาบาลศิริราช เรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายของชีวิต ให้สุขสงบ ไม่ทรมาน

จากเล่มที่แล้วเป็นนิยายเพื่อแนะนำให้เราได้รู้จัก การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ว่าคืออะไร มีแนวคิดอย่างไร ถ่ายทอดมาในรูปนิยาย  พอเล่มใหม่นี้ออกมา ซื้อทันทีเลย ได้ล็อตแรก อ่านจบสด ๆ รีวิวทั้งที่น้ำตายังไม่เหือดแห้ง

มาถึงเล่มนี้ เป็นการใส่รายละเอียดในเรื่อง การระงับปวด การพูดคุยเพื่อตกลงการรักษา การทำ living will การถอดท่อช่วยหายใจ ที่มีเนื้อหาเห็นชัดจับต้องได้มากขึ้น โดยนำเสนอมาคู่กันสองรูปแบบ

นำด้วยนิยาย ต้องขอบอกเลยว่าการเขียน การเชื่อมโยง พล็อตทวิสต์ พัฒนามากกว่าเล่มแรกอย่างมาก สื่อความหมายเชิงวิชาการได้ สื่อความหมายทางอธิบายความเข้าใจด้วย

การเดินเรื่อง และบทสนทนา เรียกน้ำตาได้เลย ซาบซึ้งและกินใจมาก ผมอ่านรวดเดียวไม่จบเพราะร้องไห้และมีข้อคิดนี่แหละ

แถมเทคนิคการผูกเรื่อง วางพล็อต เรียกว่า ทับซ้อนซ่อนปม ชวนพลิกอ่านให้จบมาก ๆ แล้วยังย้อนมาอธิบายปมในตอนต้นเรื่องได้อีก ทำนองเดียวกับ ปาฏิหาริย์ร้านชำคุณนามิยะเลย  อันนี้ยกนิ้วให้ครับ ยอด..

พอจบนิยาย ก็มาสรุปเข้าเรื่องว่าในทางการแพทย์นั้นเขามีคำอธิบายอย่างไร แนวทางปฏิบัติอย่างไร  ทำให้เราเข้าใจได้ดี

เมื่ออ่านเรื่องนี้จบ นอกจากน้ำตาซึม สิ่งที่ได้คือ เราได้เคารพความตาย เผชิญหน้ากับความตายอย่างเข้าใจ และศรัทธาในตัวมนุษย์มากขึ้นครับ

หนังสือเล่มบาง 247 หน้า ราคาปก 249 บาท บวกค่าส่งเล็กน้อย รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเข้าร่วมกองทุนของศูนย์บริรักษ์ด้วยนะครับ  มีรูปแบบอีบุ๊กใน meb ด้วย

สามารถสั่งซื้อได้ที่

https://www.facebook.com/Siriraj-Palliative-Care-Center-1418213848473623/

คุ้มค่า คุ้มราคา ทุกคนควรอ่าน ไม่ว่าจะเป็นคนไข้ เป็นหมอ เป็นบุคลากรสาธารณสุข ทุกคนที่ต้องการเข้าใจ เคารพ และรู้จัก ความสงบในช่วงท้ายแห่งชีวิต




alcoholic keto acidosis ภาวะเลือดเป็นกรดรุนแรงจากการดื่มเหล้า

 A.K.A คือ also known as แปลว่า "รู้จักกันดีในอีกชื่อว่า"

เช่น ลุงหมอ A.K.A.กงยู  หรือ ลุงหมอ A.K.A. ติ๊ก เจษฎาภรณ์


แต่ในวิชาแพทย์ AKA คือ alcoholic keto acidosis ภาวะเลือดเป็นกรดรุนแรงจากการดื่มเหล้า

เรามักจะพบภาวะนี้ในผู้ที่ดื่มเหล้าต่อเนื่องกันมานานและดื่มหนักในช่วงเร็ว ๆ นี้ ผู้ป่วยจะมีอาการหอบเหนื่อย หมดแรง ปวดท้องและคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง กินอะไรไม่ได้และไม่กล้ากิน ประวัติดื่มเหล้าชัดเจน (ประวัตินี้สำคัญมาก) ตรวจร่างกายจะพบว่าหายใจหอบลึกเพราะเลือดเป็นกรด ต้องหายใจเพื่อสลายกรดออกทางลมหายใจ จะพบอาการขาดน้ำรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นชีพจรเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ปากแห้ง ปัสสาวะน้อยลง อาจมีไข้ตัวร้อนได้บ้าง  อาการช่างไม่เฉพาะเจาะจงเลย ดังนั้นประวัติดื่มแอลกอฮอล์จึงสำคัญมาก

เหตุเกิดจากแอลกอฮอล์เองนั้นมีการเผาผลาญเป็นอะซีตัลดีไฮด์และต่อไปก็จะเกิดเป็นกรด ร่วมกับ แอลกอฮอล์จะไปรบกวนการสร้างและสลายกรดไขมัน เกิด คีโตนในร่างกายสูงมากและตัวนั้นคือ beta-hydroxybutyrate ร่วมกับ ขาดน้ำและอาหารต่อเนื่อง ...ทั้งหมดทำให้ร่างกายมีกรดคีโตนสูงจนขับออกไม่ทัน เกิดอันตรายได้ (น้อง ๆ หมอให้ไปทบทวน biochemistry ของกรดไขมันว่าทำไมภาวะนี้จึงเกิดเมื่อแอลกอฮอล์ในเลือดลดลง)

ต่างจากภาวะดีค่ะ มุกนะมุก อ่านว่า ดีเคเอ (DKA : diabetic ketoacidosis) ที่เกิดจากการขาดอินซูลินที่จะไปยับยั้งการสลายกรดไขมัน การรักษาหลักคือการให้อินซูลิน ซึ่งต่างจาก AKA 

เราจะพบเลือดเป็นกรดรุนแรง เกลือแร่และอิเล็กโทรไลต์ในเลือดผิดปกติ และอาจพบน้ำตาลต่ำจากการขาดอาหาร หรืออาจพบน้ำตาลสูงก็ได้ แต่จะไม่สูงมากเหมือน DKA และไม่ได้มีปัญหาในการลดน้ำตาลและต้องใช้อินซูลินขนาดสูงเหมือน DKA 

แต่อาจพบ DKA หรือเป็นเบาหวานร่วมด้วยได้ และอาจเกิดตับอ่อนอักเสบจากการดื่มเหล้า ทำให้มีคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง เลือดเป็นกรดได้เช่นกัน ต้องอาศัยการติดตามการรักษาเพื่อแยกโรค

ประวัติเหล้า ...ทำให้แยกโรคได้มากมาย บางคนกลิ่นเหล้าคลุ้งไปหมด ยังให้ประวัติว่า ไม่ได้ดื่ม

การรักษาคือชดเชยสารน้ำให้ทันและเพียงพอ และชดเชยน้ำตาลในเลือดให้พอ (อันนี้จะต่างจาก DKA ที่มุ่งลดน้ำตาลในเลือด) ลดการสร้างและแปรปรวนของกรดไขมัน ลดอาการขาดน้ำ เลือดที่เป็นกรดจะหายเอง ถ้าร่างกายยังแข็งแรง แต่ถ้าเลือดเป็นกรดรุนแรงและต้องใช้เวลานานกว่ากรดจะหาย มีการให้สารละลาย sodium bicarbonate เพื่อแก้ไขเฉพาะหน้าเช่นกัน โดยเฉพาะในกรณี pH ในเลือดต่ำกว่า 7.2

ประเด็นสำคัญคือ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ดื่มเหล้ามานานและเกิดน้ำตาลต่ำได้บ่อย การให้สารละลายกลูโคสมาก ๆ อาจเกิดความผิดปกติจากการขาดวิตามินบีหนึ่ง จึงควรให้วิตามินบีหนึ่งก่อนให้สารละลายกลูโคสเสมอ (การดื่มเหล้านาน ๆ และขาดวิตามินบีหนึ่ง ทำให้เกิดอาการทางสมองเรียกว่า Wernicke-Korsakoff encecphalopathy)

ทดแทนเกลือแร่ที่สูญเสียไป โดยเฉพาะแมกซีเซียมและฟอสฟอรัสที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึ่มกรดไขมัน และเกลือแร่สองชนิดนี้มักจะขาดในผู้ป่วยดื่มเหล้าอีกด้วย

ระวังโรคที่พบด้วยกันเสมอคือ กระเพาะอาหารอักเสบจากเหล้า ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันจากเหล้า ตับอักเสบเฉียบพลันจากเหล้า  ภาวะเพ้อและชักเกร็งหลังถอนเหล้า ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงจัดจากเหล้า(ทำให้ตับอ่อนอักเสบอีกเช่นกัน)

และอย่าลืมการรักษาที่เป็น definitive treatment คือ การเลิกเคริ่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างเด็ดขาดและถาวรด้วยนะครับ

"ดื่มสุราเลือดเป็นกรดและมึนเมา

งั้นมาดื่มเรา เลือดจะกระเส่า และเร้าใจ"



27 ธันวาคม 2563

ผลประกาศรางวัลเพจยอดเยี่ยม ประจำปี 2563

 ผลประกาศรางวัลเพจยอดเยี่ยม ประจำปี 2563

รางวัลนี้เป็นรางวัลที่ผมคิดเอง เลือกเอง ตัดสินเอง เพื่ออยากเป็นกำลังใจให้กับแอดมินที่ทำเพจทั้งหลาย ผลิตความรู้ที่เข้าถึงได้ง่ายมาให้เราได้อ่านกัน

สำหรับปีนี้ต้องยกให้ สุดยอดเพจวิชาการทางการแพทย์ นักเรียนแพทย์เกือบทั่วประเทศน่าจะได้อ่านมาแล้ว เป็นเพจที่นำคำถามทางการแพทย์มาอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์พื้นฐานทางการแพทย์สามวิชา คือ กายวิภาค สรีรวิทยา และชีวเคมี และอธิบายได้เข้าใจ ตรงจุด ทำให้ไม่ต้องจำแต่เรียนด้วยความเข้าใจ

เป็นการเชื่อมโยงความรู้ทางคลินิกกับพรีคลินิกได้อย่างสมบูรณ์ แถมอาจารย์เจ้าของเพจ ยังมีวิธีนำเสนอความรู้ได้หลายหลาย ไม่น่าเบื่ออีกด้วย 

รางวัลปีนี้ได้แก่ เพจ Nakorn - Core Physiology and medical science

https://m.facebook.com/profile.php?id=363518240826277&ref=content_filter

แนะนำว่าน้อง ๆ นักเรียนแพทย์ทุกคนต้องติดตาม เพื่อนแพทย์ทั้งหลายควรอ่านเพื่อความเข้าใจและนำไปใช้ได้ครับ

ปล. ได้ข่าวว่าอาจารย์เจ้าของเพจเป็นศิลปินมาก เล่นดนตรีเก่ง วาดรูปสวย อารมณ์ดี แถมเป็นเกมเมอร์อีกด้วย ถ้าเจอกันใน warzone จะดักยิงสักที

รักอาจารย์เจ้าของเพจนะครับ อ้อ..ขออนุญาตแคปรูปหน้าเพจมาลงนะครับ อิอิ




ของขวัญปีใหม่ 2564

 ซื้ออะไรให้ตัวเองหรือคนที่คุณรัก โดยเฉพาะถ้าคุณจะซื้อให้แพทย์ชายที่คุณหมายตา

○ สมาชิกฟิตเนส สมัครเมมเบอร์รายปี ด้วยความจำเป็นวิชาชีพส่วนมากจะได้ออกกำลังกายตามฟิตเนสครับ ซื้อที่ใกล้ที่พักหรือที่ทำงาน สุขภาพดีขึ้น อึด ทน ฟิตปั๋ง..คุณก็คืนกำไร

○ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ถ้าคนคนนั้นของคุณดื่มกาแฟ เอานี่เลย แพทย์ชายส่วนมากไม่ค่อยมาพิถีพิถันชงกาแฟเต็มรูป ซื้อนี่แหละสะดวก ได้ใจ ดีกว่าปล่อยไปเหล่บาริสต้าครับ อย่าไปไว้ใจ

○ นาฬิกาฟิตเนส  แค่มีนับก้าว เตือนถ้านั่งนาน อย่างน้อยก็ช่วยให้สุขภาพดี เขาจะได้อยู่ดูแลคุณไปนาน ๆ ครับ ใครจะซื้อแอปเปิ้ลก็ได้ หรือแค่สายรัดอัจฉริยะก็ปลื้มแล้ว 

○ หนังสือ เป็นหนังสือแนวจิตวิทยา หนังสือเบสต์เซลเลอร์ แบบไม่อ่านไม่ได้แล้ว ห่อสวย ๆ งานคราฟต์ คิดที่คั่นและเขียนด้วยลายมือ ... รักคนอ่าน ...ประมาณนี้ครับ รับรองไปไหนไม่รอด

○ สลากออมสิน อันนี้จะดูดี ออมได้ เผื่อถูกรางวัลด้วย เป็นการลงทุนระยะสั้นที่ดีทีเดียว อย่าซื้อล็อตเตอรี่แบบผม ไม่ได้  เพราะมันไม่ถูกสักงวด

○ เพลย์สเตชั่น 5 ใครสายเกม นี่แหละสุดยอด แต่ระวังนิดนึง เพราะแพทย์ชายจะมัวแต่เล่นเกม ไม่หันมาเล่นคุณ

○ แพ็คเกจเที่ยวที่สงบ ๆ เพื่อพักผ่อนในประเทศระยะสั้น ๆ หลีกหนีความวุ่นวาย ไปทำดีท็อกซ์จิตใจ ชาร์จแบตชาร์จไฟให้คุณ

ใครมีไอเดียเพิ่มอีกครับ




ดาร์ธเวเดอร์กับ CML

 พบกับปริศนาของดาร์ท เวเดอร์ (เตือนก่อน โคตรกาว)

อย่างที่ทุกคนทราบ ไควกอน จิน และโอบีวัน เคโนบิ ได้ลงจอดฉุกเฉินที่ดาวแทททูอีน และได้พบเด็กน้อย แอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ไควกอนได้เจาะเลือดแอนาคิน แล้วพบว่าเลือดของแอนาคินมีเจไดแฟกเตอร์ในเลือด หรือที่เรียกในหนังว่า มิดิคลอเรียน อยู่สูงมาก เป็นการพยากรณ์ที่ดีในระดับโมเลกุลว่าใครน่าจะประสบความสำเร็จในการฝึกเจได (โอ.. precision medicine นั่นเอง) 

● แต่..เครื่องไม่ได้พบแค่มิดิคลอเรียนเท่านั้น เครื่องอ่านบอกว่า พบเม็ดเลือดขาวของแอนาคินผิดปกติ มีเม็ดเลือดขาวทุกระยะการเจริญ ทั้ง ๆ ที่ตัวอ่อนไม่ควรหลุดมาในกระแสเลือด แถมปริมาณก็สูง 

โอบีวัน : อาจารย์ครับ ลักษณะนี้เหมือนมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังเลย

ไควกอน : เป็นไปได้ งั้นคงต้องให้เครื่องทำการตรวจโครโมโซมเพิ่ม

● อย่างที่คิด แอนาคินไม่ได้มีแต่เจไดแฟกเตอร์ แต่แอนาคินมีโครโมโซมคู่ที่ 9 และคู่ที่ 22 เกิดมาไขว้กัน เรียกว่าการทรานโลเคชั่น (translocation) t:9,22 อันเป็นลักษณะที่พบมากในมะเร็งเม็ดเลือดขาว chronic myeloid leukemia 

โอบีวัน : ไม่ไหวหรอกครับ CML แบบนี้ ฝึกไปก็ไม่คุ้ม เดี๋ยวโรคก็กลายเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน ทิ้งเอาไว้นี่แหะ

ไควกอน : ...เคาะกะโหลกโอบีวันหนึ่งโป๊กแล้วบอกว่า : พาดาวันของข้า เจ้าช่างอ่อนต่อโลกนัก เดี๋ยวนี้มะเร็งเม็ดเลือดขาว CML มันมียารักษาที่ชะงัดถึงขั้นหายระดับโครโมโซมเชียวนะ เราเรียกยานี้ว่า tyrosine kinase inhibitor โดยยาหลักคือ imatinib แค่กินเท่านั้นก็หายได้

โอบีวัน : แล้วถ้าไม่หายล่ะครับ 

ไควกอน : ก็มียารองลงไป เป็นรุ่นสองเช่น nilotinib dasatinib หึหึ..ข้ามีเส้นสายที่จะพอหายานี้มาได้

โอบีวัน : ทำไมไม่ให้แอนาคินลงทะเบียนสิทธิการรักษาของสภาเจไดล่ะครับ 

ไควกอน :..เคาะอีกหนึ่งโป๊ก....ข้าจะเป็นคนหายามาให้เอง เราจะรักษาแอนาคินกันเองเงียบ ๆ เพราะเมื่อแอนาคินต้องใช้ยาจากเรา เราก็จะบังคับให้แอนาคินทำอะไรก็ได้ พลังระดับแอนาคิน เราสามารถก่อรัฐประหาร แต่งตั้งสว. ร่างรัฐธรรมนูญ อยู่ได้ยาว ๆ เลย

โอบีวัน : โอท่านอาจารย์ หลักแหลม ร้ายกาจ ไปได้วิธีแบบนี้มาจากไหน

● และแล้วอาจารย์และศิษย์ก็พาแอนาคินไปฝึกอัศวินเจได พร้อมทั้งให้ยา imatinib จนแอนาคินหายดี จนกระทั่งแอนาคินได้รู้ความจริง (แอนาคินคลิกดูจากกูเกิ้ลว่าตรูกินยาอะไรฟระ)

แอนาคิน : ข้าเป็นมะเร็ง ทำไมท่านไม่บอกข้า 

โอบีวัน : .ไควกอนเสียชีวิตไปแล้ว หัวใจวายขณะโดนโจมตีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาเจได...เพราะข้าคือเจ้าชีวิตเจ้า ข้าเป็นเพียงคนเดียวในเอกภพที่มียา tyrosine kinase inhibitor เจ้าต้องเป็นลูกน้องข้า ทำตามที่ข้าสั่งทุกอย่าง แม้กระทั่งยึดอำนาจสภาเจได

แอนาคิน : ไม่จริง ข้าจะไปที่เมืองไทย ที่เมืองไทยสามารถเบิกจ่ายยาในสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติได้ 

โอบีวัน : อุวะ ไม่เชื่อฟังเลย ข้าไปยึดอำนาจเมืองไทยมาแล้วนะจ๊ะ

● แล้วแอนาคินก็ต้องก้มหน้า ทำตามบัญชามืดของโอบีวัน จนกระทั่งเขาคิดแข็งข้อ มาทำม็อบต้านโอบีวีน โอบีวันจึงไม่ให้ยา อาการก็ทรุดลง เขาจึงทำการตัดมือตัดขาลูกศิษย์ ทิ้งให้ตายกลางทะเลลาวา  แต่แอนาคินไม่ถึงฆาต

ดาร์ท ซีเดียส : แอนาคิน ข้าจะพาเจ้าไปรักษา

แอนาคิน : อย่าเลย ข้าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ไม่มี imatinib ข้าไม่รอดหรอก 

ดาร์ท ซีเดียส : หึหึ เจ้าหารู้ไม่ว่า การปลูกถ่ายไขกระดูก allogeneic hetatopoietic stemcell trasplantation ก็รักษาได้ ยิ่งในกรณีไม่มียา imatinib ก็เป็นทางเลือกที่ดี

แอนาคิน : ท่านทำได้รึ

ดาร์ท ซีเดียส : ได้สิ แถมต่อแขนขาให้ใหม่ ใส่ชิปประมวลผล AMD Ryzen 9 ให้ด้วย แล้วเดี๋ยวตาม salikahappymen มาต่อไอ้นั่นให้ อะไหล่ใหม่ 8 นิ้ว พลังม้าศึก

● ท่านเข้าใจหรือยังว่าทำไม ดาร์ท เวเดอร์จึงแค้นโอบีวัน เคโนบิ และจงรักภักดีกับสาลิกา เอ้ย..ดาร์ธ ซีเดียสนัก

สวัสดี ไปกินยาก่อนนะ




ออกกำลังกาย เพิ่มวิตามินดี

 สิ่งหนึ่งที่พวกเราอาจละเลย

จากการศึกษาในประเทศเรา พบว่าเราขาดวิตามินดีกันเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่เราเป็นเมืองแดดจัด

คำแนะนำการออกกำลังกายกลางแจ้ง ให้ร่างกายสัมผัสแสงแดด จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพและเพิ่มวิตามินดี

โดยเฉพาะสุภาพสตรี ควรออกกำลังกายกลางแจ้งเพิ่มวิตามินดีตั้งแต่ไม่เข้าวัยหมดประจำเดือน จะช่วยลดโอกาสการเกิดกระดูกพรุนได้

ถ้าไม่อย่างนั้น....ก็รับประทานวิตามินดี ตามรูป วันละเม็ด ใครจะเบิ้ลสองเม็ด ก็รักตายเลย

ตึ่งโป๊ะ




26 ธันวาคม 2563

โควิด19 ที่ไม่มีอาการโอกาสติดน้อยมาก

 เรื่องของการตรวจการติดเชื้อโควิด19 นับว่าวารสารนี้น่าสนใจยิ่ง และได้รวบรวมงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาไว้ในที่เดียว ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมนโยบายการตรวจโควิดจึงออกมาเป็นแบบนี้

บทบรรณาธิการนี้ได้รวบรวมและวิเคราะห์การตรวจหาโควิดแบบตรวจทุกคนทุกรายว่ามันคุ้มค่าหรือสมเหตุสมผลหรือไม่ โดยมีงานวิจัยใหญ่จากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน การตรวจทุกรายในกลุ่มคนจำนวนหนึ่งในแคนาดา และการวิเคราะห์รวมผลการศึกษาการแพร่กระจายเชื้อในผู้ป่วยระยะต่าง ๆ 

ธรรมชาติของโรคที่พบหลังจากที่ศึกษามาหนึ่งปีคือ ผู้ติดเชื้อประมาณ 80% ไม่มีอาการ ที่มีอาการตั้งแต่ไม่มากจนถึงมากมีประมาณ 19% ส่วนที่อาการวิกฤตมีแค่ 1% (ข้อมูลตรงนี้ยังมีข้อสังเกตจากหลายการศึกษา) และอย่างที่เรารู้กัน กลุ่มที่มีอาการรุนแรงจนถึงวิกฤตคือ ผู้สูงวัย ผู้ที่น้ำหนักเกินในขั้นโรคอ้วน คนที่มีโรคประจำตัวหลายโรคที่ควบคุมไม่ได้  ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อที่แตกต่างกัน


** นั่นหมายความว่า การที่จะระบุความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อ ขึ้นกับว่ามีอาการ ไม่มีอาการ กำลังจะมีอาการ เป็นสำคัญ ไม่อย่างนั้นแยกไม่ได้และเกิดการศึกษาแบบนี้ไม่ได้เช่นกัน การซักประวัติอาการ การติดต่อกับผู้ติดเชื้อ การเดินทางเข้าแดนระบาดโรคจึงสำคัญมาก ***


สิ่งที่พบคือ อัตราการแพร่กระจายเชื้อในกลุ่มคนที่ไม่มีอาการแต่ตรวจพบเชื้อ ต่ำกว่ากลุ่มที่มีอาการอย่างชัดเจน ตัวเลขค่อนข้างกว้างว่าน้อยกว่า 3 เท่าจนถึง 25 เท่าตัว แต่ที่คนกลุ่มนี้คือคนกลุ่มใหญ่ที่แพร่กระจายเชื้อเพราะเขาไม่มีอาการและไม่ถูกกักตัว ดังนั้นมาตรการ ล้างมือ-เว้นระยะห่าง-หน้ากากอนามัย จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อลงได้มากหากทำทุกคน 


การทดสอบทุกคนทุกราย ส่วนมากจะพบผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ซึ่งโอกาสติดต่อไปหาผู้อื่นไม่มาก และสามารถใช้วิธีการ ล้างมือ-เว้นระยะห่าง-สวมหน้ากาก ในการป้องกันได้เหมือนกัน เรียกว่าถึงไม่ตรวจก็ต้องใข้วิธีนี้เช่นกัน และยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะบอกว่าการตรวจทุกคนทุกรายแบบปูพรมจะลดการแพร่กระจายเชื้อและระบาดได้มากขึ้น (ส่วนมากในการศึกษาบอกว่าทำตามมาตรการป้องกันแค่ 60%) และยิ่งในสถานการณ์ที่ทรัพยากรไม่มากพอ เราอาจต้องสงวนวิธีตรวจยืนยันเพื่อรายที่สงสัยเท่านั้น การศึกษาเรื่องนี้ที่ใหญ่ที่สุด อยู่ที่อู่ฮั่น ว่าผู้ติดเชื้อไม่มีอาการแทบไม่แพร่เชื้อ แต่ที่นั่นเขาป้องกันโรคเคร่งครัดมาก โมเดลนี้เราน่าจะหยิบมาใช้มากสุด คือป้องกันเคร่งครัดทุกราย และคัดกรองสอบสวนโรคหาคนที่จำเป็นต้องตรวจมายืนยันและป้องกันการแพร่กระจายวงกว้างต่อไป

เรากำลังรอการศึกษาขนาดใหญ่เรื่องการระบาดและรูปแบบการแพร่กระจายไวรัสโควิด ที่จะมาตอบโจทย์ว่าควรปูพรมทุกรายไหม ด้วยการคัดกรองแบบใด ยืนยันแบบใด มีผลได้ผลเสียอย่างไร คุ้มค่าไหม  เพื่อจะออกแบบการควบคุมโรคในเชิงนโยบายในชุมชน ให้อยู่ได้แม้จะมีการระบาดในวงกว้าง ในชื่อว่า "Operation Moonshot" คาดว่าจะแล้วเสร็จราวกลางปี 2021 

อ่านฟรีและมีลิงค์ไปการศึกษาฉบับเต็มอีกหลายฉบับ (ส่วนมากฟรี)Pollock Allyson M, Lancaster James. Asymptomatic transmission of covid-19 BMJ 2020; 371 :m4851

https://www.bmj.com/content/371/bmj.m4851




25 ธันวาคม 2563

การป้องกันติดเชื้อเอชไอวี กรณีถุงยางหลุด

 โจทย์ : เพิ่งมีอะไรกับคนนี้ครั้งแรกครับ คบกันมาสามเดือน แต่ก็ไม่รู้ก่อนหน้านี้เขามีใครมาก่อนไหม ตัวผมเองเคยตรวจเอชไอวีตอนเข้างานเมื่อปีที่แล้ว ผลลบ และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาเป็นปี จนมาเมื่อคืนนี่แหละ แล้วตอนนั้น ถุงยางหลุดน่ะครับหมอ กลุ้มใจมากเลย

ในกรณีแบบนี้เมื่อไม่รู้สถานะคู่นอน ให้คิดว่าคู่นอนติดเชื้อเอชไอวีไว้ก่อน และเกือบทั้งหมดจะไม่ได้พาคู่นอนมาซักประวัติหรือตรวจพร้อมกัน และตามตัวมายากมากเสียด้วย

และถ้าทราบว่าถุงยางหลุดแล้วหยุดกิจกรรม ความเสี่ยงติดเชื้อก็ไม่มากนัก แต่ส่วนใหญ่ทำต่อโดยไม่สวมถุงยาง นั่นคือเสี่ยงเท่าไม่สวมนั่นเอง

ความเสี่ยงของชายคือ 4/10,000 ความเสี่ยงของหญิงคือ 8/10,000 (vaginal route)

คำแนะนำในกรณีนี้คือ รับประทานยาต้านไวรัส ให้ครบกำหนดหนึ่งเดือน ให้สูตรยามาตรฐาน 3 ชนิด คือ TDF/FTC และอีกหนึ่งชนิดคือ ripivirine หรือ protease inhibitor หรือ raltegravir, dolutegravir

หรือถ้าไม่มีจริง ๆ ใช้ TDF/FTC/EFV สูตรรักษายอดนิยมได้เช่นกัน พยายามเลือกใช้ยาที่ผลแทรกซ้อนต่ำ เพิ่มโอกาสใช้ยาและไม่เลิกก่อนเวลา ต้องกินสะดวกด้วย ยาบางตัวแค่กินเช้าเย็นก็ลืมและพลาดง่าย

โดยมาพบหมอและประเมินอาการให้เร็วที่สุด มาภายใน 24 ชั่วโมงได้จะดีมาก และพาคู่กรณีมาด้วยจะดีที่สุด หากรักษาหรือป้องกันล่าช้าออกไปเท่าไร ประสิทธิภาพก็จะลดลงไปเท่านั้น และไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุครับ

กินยาครบ 1 เดือนให้กลับมาตรวจติดตาม HIV ผลข้างเคียงจากยา และโรคอื่น ๆ ที่อาจพบมากขึ้น และติดตามอาการอีกครั้งที่สามเดือนครับ รวมทั้งตรวจเลือดยืนยันโรคติดเชื้ออื่น ๆ ที่จะพบร่วมกันได้ทั้งไวรัสตับอักเสบบีและซี ซิฟิลิส

ที่สำคัญหากผู้ที่มารับการปรึกษาป้องกันเป็นสตรี อย่าลืมประเมินโอกาสการตั้งครรภ์ด้วย เพราะการใช้ยาต่าง ๆ และการตรวจติดตามจะต่างกันเล็กน้อย

Thai HIV 2560
IAS guideline 2020

ในภาพอาจจะมี ข้อความพูดว่า "หนูติ หรี คะ??"

ยาหรือฮอร์โมนเพื่อปรับเปลี่ยนเพศสภาพ

 สิ่งที่แพทย์ที่จะปฏิบัติงานในทศวรรษหน้าต้องทราบคือเรื่อง Transgender

หลายวันก่อนผมได้รับปรึกษาผู้ป่วยติดเชื้อช็อกจากโรงพยาบาลหนึ่ง สิ่งที่ทำคือการทบทวนประวัติและสิ่งที่ตรวจพบมาก่อน และตรวจพบเงาผิดปกติที่ปอดทั้งสองข้างในภาพเอ็กซเรย์ปอด แต่นั่นไม่ใช่เงาผิดปกติ นั้นคือเงาปกติของเต้านมเทียม ทำให้ต้องกลับไปทบทวนเรื่องประวัติการเปลี่ยนเพศสภาพของผู้ป่วยทั้งหมด

ปัจจุบันเราอาจจะพบเพศสภาพของผู้ป่วยที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิด ทั้งได้รับการดูแลตลอดจากคุณหมอและหลายครั้งก็มีการใช้ยาหรือสารเคมีต่าง ๆ โดยไม่ได้รับการควบคุมดูแลที่เพียงพอ ผมไปค้นรีวิวมาอันหนึ่ง เขียนดีและฟรีด้วย จึงนำมาแปะให้ดูกันด้านล่าง

ผู้ป่วยรายนี้เดิมเกิดเป็นเพศชาย และมาเปลี่ยนเพศสภาพหลังจากผ่านวัยรุ่นไปแล้ว นั่นหมายถึงกายวิภาคและสรีรวิทยาของร่างกายเดิม ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงตามฮอร์โมนเพศที่เรียกว่า Secondary sex characteristic มาเรียบร้อยแล้ว ในวิชาอายุรศาสตร์ เราจะมีหัวข้อเรื่องอิทธิพลของฮอร์โมนเพศที่เกินหรือผลจากการขาดฮอร์โมนเพศ ทั้งก่อนวัยรุ่นและหลังวัยรุ่น ว่าส่งผลกระทบอย่างไร แต่นั่นคือผลต่อเพศสภาพเดิม

หากผู้นั้นใช้ยาหรือฮอร์โมนเพื่อปรับเปลี่ยนเพศสภาพ อาจจะไม่ได้มีผลตรง ๆ แบบที่เราคิด เพราะสรีรวิทยาและตัวรับฮอร์โมนที่ไม่ได้สร้างเฉพาะแบบมาตั้งแต่แรก ผมขอยกตัวอย่างในกรณีการใช้ยาเพื่อสร้างความเป็นหญิงมากขึ้น

ใช้ฮอร์โมนเพศหญิง มีทั้งแบบแผ่นแปะ แบบฉีดและแบบกิน ส่วนมากจะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนสังเคราะห์ แต่ว่าจะต้องใช้ขนาดสูงกว่าการทดแทนฮอร์โมนในเพศหญิงปกติ ทำให้โอกาสเกิดผลข้างเคียงสูงขึ้น เช่น การเกิดลิ่มเลือดดำอุดตันในตำแหน่งต่าง ๆ น้ำหนักเพิ่ม ความดันโลหิตสูงขึ้น เพิ่มโอกาสการเกิดนิ่วถุงน้ำดี เพิ่มระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ตับอักเสบ

การใช้ยาเพื่อลดผลฮอร์โมนเพศชาย จะใช้ร่วมกับฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อลดการใช้ยาแต่ละอย่างในขนาดสูง นอกจากจะส่งผลให้ลักษณะเพศชายลดลง เช่น การแข็งตัวอวัยวะเพศลดลง ความต้องการทางเพศลดลง การสร้างสเปิร์มลดลง การกระจายตัวของเส้นผมเส้นขนเปลี่ยนแปลงไป ยากลุ่มนี้เช่น

ยาลดความดัน spironolactone อาจพบผลข้างเคียงโปตัสเซียมในเลือดสูง โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับยาลดความดันกลุ่ม ACEI หรือ ARB

ยารักษาต่อมลูกหมากกลุ่ม 5-alpha reductase inhibitor นิยมมากเพราะผลข้างเคียงต่ำ

ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ Cyproterone ยาตัวนี้มีโอกาสเกิดตับอักเสบรุนแรงได้

แต่ไม่ได้หมายความว่าการใช้ยาจะลดลักษณะเพศชายลงได้หมด เพราะส่วนใหญ่ต้องใช้ยาขนาดสูงจึงมีข้อจำกัดด้านผลข้างเคียง และบางครั้งผู้ที่เปลี่ยนเพศสภาพไปยังต้องการความสุขทางเพศจากการแข้งตัวอวัยวะเพศหรือความต้องการทางเพศ ก็จะไม่สามารถใช้ยาในขนาดสูงเกินไปได้

โดยมาตรฐานการเปลี่ยนเพศสภาพโดยการใช้ฮอร์โมนร่วมด้วยนี้ จะต้องวัดระดับฮอร์โมนหรือติดตามผลที่จะเกิดใกล้ชิด มีการเฝ้าระวังการเกิดลิ่มเลือดดำอุดตัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เฝ้าระวังมะเร็งเต้านมและมะเร็งลูกหมากเสมอ รวมทั้งการดูแลเรื่องกระดูกพรุนที่เหมาะสมด้วยการให้แคลเซียมและวิตามินดี

รีวิวนี้อธิบายเรื่องการแปลงเพศสภาพแบบต่าง ๆ และผลที่จะเกิดทั้งจากหญิงเป็นชายและจากชายเป็นหญิงได้ดีครับ ที่สำคัญคือ มันฟรี

https://transcare.ucsf.edu/guidelines

และฝากถึงผู้ที่เปลี่ยนเพศสภาพควรมีประวัติเรื่องนี้หรือสมุดประจำตัวการรักษาพกไว้ด้วยนะครับ และควรแจ้งแพทย์ผู้รักษาเสมอ เพื่อการดูแลที่เหมาะสมที่สุดครับ

ด้วยความปรารถนาดีจาก ..เจ๊ซูซี่

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

24 ธันวาคม 2563

Felty syndrome

 คริสตมาส ก็ต้องคิดถึงซานต้า

คิดถึงซานต้า ก็ต้องคิดถึง Felty เพราะเรามีคำย่อจำอาการของ Felty syndrome ว่า SANTA

S.. splenomegaly ม้ามโต

A.. anemia ซีด อาจซีดจากตัวโรค ซีดจากการอักเสบมานาน

N.. neutropenia เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำ โดยทั่วไปคือต่ำกว่า 500 ตัวต่้อเลือดหนึ่งซีซี

T.. thrombocypenia เกล็ดเลือดต่ำ อาจเกิดจากตัวโรคเอง หรือเป็นผลที่ตามมาจากม้ามโต

A.. arthritis ความหมายคือต้องวินิจฉัยข้ออักเสบรูมาตอยด์

อาจไม่ครบทุกข้อ แต่ที่สำคัญและคลาสสิกคือ ม้ามโต เม็ดเลือดขาวนิวโตรฟิลล์ต่ำ และเป็นข้ออักเสบรูมาตอยด์

Felty syndrome ยังไม่พบสาเหตุที่ชัดเจนครับ มีหลักฐานว่าสัมพันธ์กับยีน HLA-DR4 และเกิดจากการทำลายร่างกายของเซลล์ภูมิคุ้มกันตัวเองเช่นกัน โดยต้องแยกโรคอื่น ผลจากยาอื่นให้หมดก่อน

ความสำคัญอยู่ที่เม็ดเลือดขาวต่ำ สามารถเกิดการติดเชื้อรุนแรงได้

การรักษาก็คือรักษารูมาตอยด์ให้ดี ระวังเรื่องการติดเชื้อ หากเกิดอันตรายจากม้ามโตมากก็อาจพิจารณาตัดม้ามได้ อย่าลืมวัคซีนปอดอักเสบด้วยครับ

รักนะ จากซานต้าชราหน้าหนุ่ม ใจถึง พึ่งได้ สายเปย์

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

23 ธันวาคม 2563

ชาคิล อัลฟรายดี สายลับ CIA

 2 พฤษภาคม 2554 มีชายคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต

ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน 11 กันยายน 2544 มีเครื่องบินพาณิชย์ 4 ลำถูกปล้นและบังคับให้พุ่งดิ่งเข้าโจมตีสัญลักษณ์แห่งโลกตะวันตกสามจุดในสหรัฐอเมริกา หนึ่งคืออาคารกระทรวงกลาโหมสหรัฐ สองคือแค้มป์พักส่วนตัวของประธานาธิบดีสหรัฐ และสถานที่ที่สาม เป็นจุดที่ทั่วโลกตะลึง อาคารแฝดกลางมหานครนิวยอร์ก ตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์

อเมริกาตื่นตัวเต็มที่กับการถูกล้วงคองูเห่ากลางประเทศ มีการปรับระบบความปลอดภัยสูงสุด จัดองค์กรเพื่อความปลอดภัยและมาตุภูมิ เสริมกำลังทหาร เปลี่ยนโฉมหน้าการรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินตลอดกาล สหรัฐอเมริกาส่งหน่วยงานออกไปทั่วโลกพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดเพื่อตามล่าผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนั้น อุซามะ บิน ลาดิน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์อันทรงพลังยิ่งในโลกมืด

แต่กรงเล็บและสายตาพญาอินทรี ไม่สามารถค้นหาบิน ลาดิน ได้เลย ไร้ซึ่งร่อยรอย เหมือนหายไปอีกโลก สหรัฐอเมริกาคำรามทั่วโลก ประกาศสงครามกับทุกคนที่สนับสนุนอัลกออิดะห์ หนึ่งในนั้นคือรัฐบาลอิรัก และถูกสหรัฐโจมตีทางทหารอย่างย่อยยับ แต่ก็ปราศจากเงาของบิน ลาดิน ซีไอเอเริ่มท้อใจ จนกระทั่ง

คุณหมอชาคิล อัลฟรายดี คุณหมอชาวปากีสถาน ทำงานอยู่ในเมือง Abbottabad ห่างจากกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของปากีสถานไปทางเหนือเพียง 120 กิโลเมตร แต่ก็เป็นเมืองที่ยังไม่เจริญมากนัก ปัญหาสาธารณสุขยังมากมาย คุณหมอทำงานที่เมืองนี้ในสายงานการรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อ การค้นหาผู้ป่วย และให้การรักษาเบื้องต้น และคุณหมอมีความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โรคที่ยังพบมากและประชาชนไม่ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง การตรวจและศึกษาโรคไวรัสตับอักเสบบีนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการ ...ตรวจเลือด

ซีไอเอ เริ่มมีระแคะระคายมาบ้างว่าบิน ลาดิน พาครอบครัวมาหลบหนีอยู่ที่ Abbottabad แห่งนี้ แต่ขาดหลักฐานที่จะระบุตัวบุคคลที่เพียงพอ อดีตผู้ก่อการร้ายเบอร์หนึ่งของโลกยังคงเขี้ยวเล็บในการแฝงตัว ซีไอเอต้องการหลักฐานมัดตัวที่จะไปเสนอท่านประธานาธิบดี เพื่อจะเปิดปฏิบัติการล่าสังหาร จึงหันมายื่นข้อเสนอกับคุณหมออัลฟรายดี

ซีไอเอจะให้เงินทุน มีการวิจัย มีวัคซีน ให้คุณหมออัลฟรายดีเพื่อปฏิบัติการบังหน้าลักลอบเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของชาวเมือง ที่จะมารับการเจาะเลือดศึกษาวิจัยและรับวัคซีนฟรีจากหมออัลฟรายดี ที่ตอนนี้ซ่อนวัตถุประสงค์แห่งสายลับเอาไว้ ซีไอเอมีตัวอย่างดีเอ็นเอของเครือญาติบิน ลาดินไว้เปรียบเทียบเรียบร้อย และงานวิจัยจะต้องมีหลักฐานเรื่องที่อยู่ เครือญาติที่มี รวมทั้งเก็บตัวอย่างเลือดที่ส่วนหนึ่งนำมาวิเคราะห์ตามโครงการวิจัย แต่อีกส่วนหนึ่งถูกลักลอบไปวิเคราะห์ดีเอ็นเอ จนกระทั่งซีไอเอ ได้พบหลักฐานทางพันธุกรรมของครอบครัวหนึ่งในเมือง ที่มีรหัสพันธุกรรมเข้าได้กับสายครอบครัวบิน ลาดิน และมีเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้นในเมือง

ข้อมูลถูกวิเคราะห์จากหน่วยงานจารกรรมสายลับชั้นเลิศของโลก และส่งสายลับมาสืบ ยืนยันบ้านหลังนี้และวันหนึ่งทีมสายลับก็ได้พบชายคนหนึ่งที่มีอัตลักษณ์ตรงกันกับผู้ก่อการร้ายที่เป็นคนนำการถล่มอเมริกาวันนั้น บิน ลาดิน ปฏิบัติการสังหารจึงได้รับการอนุมัติ หน่วยล่าสังหารโจมตีอย่างเฉียบพลัน และบิน ลาดิน ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตจากการเข้าโจมตีของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 2 พฤษภาคม โดยที่รัฐบาลปากีสถานยังไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย

หลังจากวันนั้นคุณหมออัลฟรายดี ได้รับการเชิดชูจากทางซีไอเอและโลกตะวันตกว่าเป็นฮีโร่ผู้ช่วยหยุดสงครามการก่อการร้าย แต่ไม่ใช่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวคุณหมอที่ประเทศปากีสถาน

หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์คุณหมอถูกรัฐบาลปากีสถานจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องให้ความร่วมมือกับซีไอเอ และถูกตัดสินจำคุก แม้รัฐบาลอเมริกาจะออกมากดดันรัฐบาลปากีสถานเรื่องให้ปล่อยตัวคุณหมอ แต่ไม่ได้ผลคุณหมอถูกจำคุกและดำเนินคดีต่อโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ “ทางแจ้ง” ที่ปรากฏมากนักจากซีไอเอ นับว่าเป็นเรื่องเศร้าของคุณหมอ แต่สิ่งที่ตามมาอย่างที่สองกลับโหดร้ายกว่านี้มากคือ ศรัทธาที่หายไปของประชากรปากีสถาน

เมื่อปฏิบัติการได้รับการเปิดเผยและเรื่องราวของคุณหมออัลฟรายดีกับกลยุทธของซีไอเอที่เล่นกับความเชื่อมั่นทางสาธารณสุขของประชาชน ทำให้ประชาชนปากีสถานหลายคนรู้สึกตั้งข้อสงสัยกับโครงการการช่วยเหลือจากชาติตะวันตก ถึงขั้นไม่ยอมรับวัคซีน (ที่ไม่ได้มีผลประโยชน์แอบแฝง) ทำให้เกิดการระบาดของโรคหัดในอีกหลายปีต่อมา รวมถึงอัตราการป่วยจากโรคไวรัสตับอักเสบบีที่เพิ่มขึ้น ที่เกิดขึ้นพร้อมกับความหวาดระแวงการถูกล้วงข้อมูล คุณภาพของยาและวัคซีนที่ได้รับการสนับสนุนมาเพื่อวัตถุประสงค์แอบแฝงของชาติตะวันตก

รายงานข่าวสุดท้ายที่ค้นพบบอกว่าคุณหมอได้รับการปล่อยตัวโดยการเจรจาช่วยเหลือจากทางสหรัฐอเมริกาโดยการแลกตัวนักโทษ แต่ก็มีรายงานว่าคุณหมออัลฟรายดียังคงถูกขังแยกออกจากคนอื่นในที่จองจำแห่งหนึ่งในปากีสถาน

จนมาถึงวันนี้ 9 ปีที่สังหารผู้นำอัลกออิดะห์ไปแล้ว ความขัดแย้งยังปรากฏอยู่ทั่วโลก หรือผู้ร้ายจะไม่ใช่...ผู้ถูกสังหาร

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน และสถานที่กลางแจ้ง

วัคซีนโควิด19

 ภาพของคุณหมอแอนโธนี่ ฟาวซี่ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการศึกษาโควิดของโลกนี้ และกำหนดนโยบายต่อสู้โรคของอเมริกา ได้รับวัคซีนโควิด19

ความเป็นจริงที่เกิดคือวัคซีนทุกตัวมีผลการศึกษาในระยะสั้นทั้งสิ้น ไม่ว่าประสิทธิภาพหรือความปลอดภัย และยังเป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้แบบฉุกเฉิน ทั้งที่การศึกษายังไม่ครบถ้วน

แต่ในสถานการณ์สงครามแบบนี้ การตัดสินใจต้องฉับพลัน ทำเพื่อระงับการระบาดวงกว้างเป็นหลัก ลดปริมาณผู้ติดเชื้อโดยรวม เพื่อให้การบริหารทรัพยากรไม่ล้มเหลว ก็จำเป็นต้องทำ และติดตามผลรวมทั้งศึกษาต่อไป

ยังไม่มีคำตอบที่ดีทั้งนั้นว่า วัคซีนตัวไหนดี หรืออนาคตการระบาดจะเป็นอย่างไร

สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือ ทำในสิ่งที่ตัวเราทำได้ ให้ดีที่สุด

เลิกโทษใคร ไม่มีใครอยากติดอยากเป็น ไม่ว่าคนไทย คนต่างชาติ รัฐบาล ประชาชน

หันมาดูแลตัวเอง ถ้าทุกคนร่วมใจกัน ภาพรวมมันจะดีเอง ล้างมือบ่อย ๆ ใช้เจลบ่อย ๆ ไม่ลูบหน้าตาโดยยังไม่ล้างมือ ป้องกันเวลาไอจาม สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการรวมตัวปริมาณมากที่มีการตะโกนหรือร้องเพลงดัง ๆ

ตั้งสติให้ดี อย่าเชื่อข่าวลือ ตอนนี้ข่าวสารจากทาง ศบค. น่าจะเป็นแหล่งรวมข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์จากวอร์รูมหลายฝ่ายมาแล้ว อาจไม่ตรงใจทุกคน แต่ก็เป็นข้อแนะนำและข้อเท็จจริงในภาพรวม

ไม่ว่าเราจะได้วัคซีนมาช้าหรือเร็ว ถ้าเราร่วมมือกัน ประชาชน รัฐบาล แรงงานเพื่อนบ้าน การระบาดรอบใหม่นี้น่าจะควบคุมได้เร็ววัน

https://www.facebook.com/43331696829/posts/10158695904576830/

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และภาพระยะใกล้

22 ธันวาคม 2563

เรียกให้ถูก SARS-CoV2 COVID-19

 เรียกให้ถูก

เชื้อไวรัสชื่อ SARS-CoV2 : severe acute respiratory syndrome coronavirus 2

โรคชื่อ COVID-19 : COrona VIrus Disease 2019

แชมป์พรีเมียร์ลีกชื่อ : Liverpool Football Club

ในรูปคือปลากะพงนึ่งมะนาว ปลาทะเลทำสุก ล้างมือก่อนกินหลังกิน ปลอดโควิด แต่อาจจะติดใจ

ฝันดีเด้อ

ในภาพอาจจะมี อาหาร

ไปนอก 6

 บันทึกการเดินทางไปประชุมวิชาการต่างประเทศ อะไรมันจะโม้ขนาดนี้ เขียนมาห้าหกตอน ยังไม่จบอีก

เมื่อถึงโรงแรมที่พักและเช็คอินเรียบร้อย สิ่งแรกที่แนะนำให้ทำเลยคือ พักผ่อนครับ ถ้าเราเหนื่อยล้า เจ็ตแล็ก การลงทุนเดินทางมาไกลของเราจะหมดค่าทันที ประชุมวิชาการในประเทศว่าต้องสดชื่นแล้ว การมาต่างประเทศยิ่งต้องอาศัยพลังงานและความสดชื่นมากกว่าหลายเท่าตัว

**ย้ำอีกครั้ง อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกเสมอ และเป็นเวลาท้องถิ่นนะครับ**

ก่อนจะนอน อีกหน่อยนะ ตรวจดูก่อนว่าทางโรงแรมมีอาหารเช้าให้ไหม ถ้าเป็นโรงแรมระดับจัดประชุมมักมีอาหารเช้าให้ และที่ผมพักไอบิสก็เพราะรวมราคาอาหารเช้ามาด้วยเสมอ แต่ถ้าไปพักโรงแรมที่ไม่มีอาหารเช้า ผมแนะนำซื้ออาหารสำเร็จจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาเตรียมไว้ครับ แซนด์วิชอันโต นมกล่อง ซีเรียลอัดแท่ง เวลาตอนเช้าฉุกละหุกมันจะไม่ทันเอาครับ เรื่องอาหารเช้าแบบด่วนนี้ผมใช้บ่อยมากเวลาประชุมราชวิทยาลัยที่มักจะมีชั่วโมงเช้าเสมอ แต่ว่าเวลาไปต่างประเทศมันมักจะตื่นเอง อาจจะเพราะกังวลว่าจะไปไม่ทัน และนิยมไปที่ห้องอาหารตั้งแต่แรก เป็นคนแรก ๆ เพราะผมชอบตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้า แต่อย่าออกไปวิ่งข้างนอกนะครับ อันตรายเกินไป ให้ใช้บริการห้องออกกำลังกายในโรงแรมแทน การได้ออกกำลังกายตอนเช้า สำหรับผมมันทำให้ตื่นตัว แจ่มใส ฟังวิชาการสนุกกว่างัวเงีย ๆ ตื่นมาฟังครับ

ถ้าใครประชุมในที่เดียวกับที่พักก็สบายครับ เอ้อระเหยจิบกาแฟได้ แต่ถ้าใครประชุมห่างออกไป ต้องเผื่อเวลาเดินทางให้ดีครับ และต้องเผื่อเวลาสำคัญด้วยคือ เวลาหลงทาง เทคนิคที่ผมใช้คือ คืนก่อนเดินทางจะใช้ google streetview ดูภาพคร่าว ๆ ครับ และใช้ google map ร่วมด้วยเสมอ แม้เราจะมีแผนและแผนที่จากโลนลี่พลาเน็ตมาแล้วก็ตามที

เรามาพูดถึงเรื่องการเดินทางขากลับกันก่อนนะครับ รายละเอียดในส่วนการประชุมขอไปที่ตอนต่อไปแล้วกัน

ขากลับนี่มีสิ่งที่ต้องเน้นย้ำเลยคือ "ของงอก" และ "ตกเครื่อง" เพราะที่นี่คือต่างแดนครับ และหมอบ้าน ๆ เมืองไทยมาเอ๋ออยู่ที่นี่ ถ้าไม่เตรียมตัวคงยาก เราว่ากันด้วยเรื่องของงอกก่อน

ของงอกที่ต้องระวังจากงานประชุมคือ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ จากบริษัทที่มาออกร้านหรือแจกเรามาครับ เพราะของบางอย่างถูกกฎหมายที่นี่ แต่อาจจะห้ามนำเข้าประเทศเราครับ หรืออาจต้องเสียเวลามาสำแดงกับตรวจคนเข้าเมืองตอนกลับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างยา สารเคมี อุปกรณ์หลายชนิด ทางที่ดีก็ตรวจสอบก่อนขึ้นเครื่องว่าสามารถพกกลับบ้านเราได้ไหมครับ ดังนั้นหากใครจะพกกลับมาต้องเผื่อเวลาสักเล็กน้อย ตรวจสอบตรงนี้

ส่วนตัวผมแล้วจะไปและกลับแบบนินจา คือ ไร้ร่องรอยและไม่เอาอะไรกลับมาครับ อ้อ..แล้วอย่าลืมเรื่องขนกลับด้วย เราตั้งโจทย์มาประชุมวิชาการ ไม่ได้พกกระเป๋ามามากนัก เดี๋ยวจะต้องซื้อกระเป๋าเพิ่มหรือต้องซื้อค่าธรรมเนียมขนของเกินน้ำหนักอีก ผมเคยหวุดหวิดจะเกินหนึ่งครั้งตอนไปขนหนังสือกลับไทย ใครมาเปิดกระเป๋าจะต้องสงสัยว่าเอาไปขายอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องตกเครื่อง อันนี้น่าซีเรียสมาก ต้องวางแผนขากลับเลยนะครับ จะออกจากโรงแรมกี่โมง ด้วยวิธีอะไร ไปรถไฟก็ต้องตรวจสอบเส้นทางและเวลาให้ดีครับ เผื่อเวลาหลงอีกสักหน่อย หากจะใช้แท็กซี่ ก็ต้องมั่นใจว่ามีเรียกได้ในเวลาที่ต้องการครับ ส่วนตัวผมจะขอคำแนะนำจากโรงแรมที่พักว่าจะเรียกอย่างไร จองอย่างไร และโดยมากโรงแรมจะใจดีจองให้โดยไม่คิดเงินค่าจอง แต่ค่าโดยสารอาจจะแพงขึ้นสักหน่อย แท็กซี่โรงแรมนี่สุดยอดมากนะครับ บอกว่านะกลับสายการบินใด ก็พาไปเทอมินอลที่ถูกต้องเลย

แต่ส่วนมากผมจะวางแผนไว้เลยครับ ว่าจะกลับด้วยรถไฟ หรือรถชัตเทิ่ลบัสเที่ยวกี่โมง และจะอ้างอิงเวลาคร่าว ๆ จากการเดินทางขามา แต่ส่วนมากจะใช้รถไฟด่วนสนามบินครับเพราะกำหนดเวลาได้มากกว่า ยิ่งที่ฮ่องกงนะครับสุดยอด เอากระเป๋าไปเช็คอินและโหลดที่สถานีรถไฟ...อะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้ ..ไปล่วงหน้า เราก็นั่งรถไฟสวย ๆ หล่อ ๆ เข้าสนามบินได้เลยครับ แต่ไม่รู้หลักการนี้จะใช้กับแอร์พอร์ตลิ้งค์บ้านเราได้มากเพียงใด

การจัดเตรียมของเป็นสิ่งสำคัญ เราอยู่สุวรรณภูมิเราพูดกับเจ้าหน้าที่การท่าฯ ได้ง่ายกว่า หากเราอยู่ต่างประเทศเราจะกลัวและอาจทำอะไรอันเป็นที่สงสัยได้ ของที่ต้องห้ามขึ้นเครื่อง ของที่ต้องบรรทุกใต้เครื่อง จัดการไปเลยครับ แล้วเอาเวลาสบาย ๆ ไปเดินเล่นในร้านปลอดภาษี ดีกว่าไปโดนเรียกตรวจครับ เรื่องสิ่งของนี้ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์สถานทูตของประเทศนั้น ๆ และเหมือนเดิมโลนลี่พลาเน็ตช่วยคุณได้เสมอ

*** และต่อไปนี้คือทริกพิเศษเมื่อคุณมาประชุมวิชาการต่างประเทศ ... ที่ต่างจากการเดินทางมาเที่ยว ผมแนะนำให้คุณเอาสมุดบันทึกที่จด เอาหัวเรื่องที่ฟังมาอ่านทบทวนหรือเปิดหาจุดที่ยังต้องอ่านเพิ่ม ในเวลาที่ต้องรอขึ้นเครื่องบินนี่แหละครับ จะหาเปเปอร์เพิ่ม จะตามไปอ่านที่อ้างอิง มีไวไฟฟรีสนามบินนั่นเอง เป็นการจบการประชุมแบบเสร็จสมบูรณ์ ไม่คั่งค้างก่อนกลับไทย และหากยังไม่เสร็จ ยังมีเวลาบนเครื่องบินอีกครับ ผมอยากบอกว่าบทความในเพจนี้หลายชิ้น เกิดขึ้นบนเครื่องบิน หลังจากฟังและอ่านเพิ่มแล้ว โดยเฉพาะไกด์ไลน์ต่าง ๆ ..อ่านล่วงหน้าตอนขึ้นเครื่องขามา ฟังและจดอย่างตั้งใจ อ่านทบทวนและที่สงสัยตอนขากลับ เรียกว่าจบกระบวนการในการเดินทางครั้งเดียว .***

ต่อไปว่าด้วยเรื่องเมื่อเข้าประชุมนะครับ

ในภาพอาจจะมี 1 คน

Critical Illness Related Corcicosteroid Insufficiency

 delta ตัวอักษรกรีก ที่มีความหมายถึงความแตกต่าง หรืออัตราการเปลี่ยนแปลง แทนด้วยรูปสามเหลี่ยม ส่วนเดลต้าตัวเล็กมักจะใช้แทนตัวแปรชื่อมุมในเรขาคณิต

เช่น ผลต่างประตูได้เสียระหว่างแมนยูกับลีดส์ เท่ากับ 4 (6 ประตูต่อ 2)

เราใช้ค่าการเปลี่ยนแปลงมาทำการทดสอบและวินิจฉัยทางการแพทย์มากมาย โดยเฉพาะกับสาขาวิชาต่อมไร้ท่อ เพื่อดูว่าเมื่อให้ฮอร์โมนทดสอบเข้าไป ฮอร์โมนเป้าหมายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใด ค่าเดลต้าที่เกิดขึ้นเอามาวินิจฉัยโรคได้

ภาวะ Critical Illness Related Corcicosteroid Insufficiency (CIRCI)​คือ ภาวะที่ฮอร์โมน steroid จากต่อมหมวกไตไม่เพียงพอกับการต่อสู้ของร่างกายในภาวะป่วยรุนแรง ในภาวะปรกติฮอร์โมนนี้อาจจะพอ แต่พอป่วยหนักเข้าไอซียู ร่างกายต้องการฮอร์โมนนี้มาก แต่สร้างไม่ได้ มันจึงดูเสมือนว่า "ขาด" ฮอร์โมน

ESICM guidelines 2017 ได้แนะนำการวินิจฉัยภาวะนี้ว่า เมื่อสงสัยให้ตรวจ cortisol ในเลือดไว้เป็นพื้นฐาน แล้วใช้ฮอร์โมน ACTH ที่จะไปกระตุ้นการสร้าง steroid ที่ต่อมหมวกไต โดยใช้ ACTH ขนาด 250 ไมโครกรัม ฉีดเข้าทางหลอดเลือด แล้ววัดค่า cortisol อีกครั้งเมื่อผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หาก cortisol เพิ่มจากเดิมไม่เกิน 9 ไมโครกรัมต่อเดซิลิตร ก็วินิจฉัย CIRCI ได้ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า delta cortisol น้อยกว่า 9

(ส่วน ACTH.stimulation ในภาวะปรกติจะทำอีกแบบและใช้อีกค่านะครับ)

นี่แหละคือเดลต้า

ที่เกริ่นมาทั้งหมด ก็อยากแซะแบบให้ความรู้ว่า

"เดลต้าเท่ากับ 4 คือเด็ด
แต่เดลต้าเท่ากับ 7 คือแชมป์"

ในภาพอาจจะมี ผู้คนกำลังยืน และแถบ

21 ธันวาคม 2563

ปูนึ่ง

 ปูนึ่ง

เมื่อล้างสะอาด นึ่งจนสุกต่อเนื่อง 10-20 นาที กำจัดเชื้อโรคได้เกิน 98% ครับ รวมทั้งอีตาโควิดจอมยุ่งด้วย

อุณหภูมินึ่งที่ 200-212 ฟาเรนไฮต์หรือ ประมาณ 100 องศาเซลเซียส

คุณสามารถกินปูที่ล้างสะอาดและปรุงสุกได้อย่างปลอดภัยครับ

ขอให้นอนหลับสบาย

จาก ลุงหมอ แฟนเก่า wonder woman

ในภาพอาจจะมี อาหาร

ไปนอก 5

 มาต่อเรื่องบันทึกการเดินทางไปประชุมวิชาการต่างประเทศ หลังจากเราเตรียมตัวพร้อมแล้ว

เรื่องของการเดินทางไปกลับ

เรื่องที่สำคัญมากของการเดินทางไปขึ้นเครื่องบินของผม จริงๆ ผมคิดว่าของคนไทยทุกคน คือระบบขนส่งๆไปสนามบินมันไม่ต่อเนื่องเลย จากสถานีขนส่งนครราชสีมา ผมต้องเลือกเที่ยวรถที่หากไปถึงหมอชิตแล้วจะยังมีรถเดินทางต่อไปยังสุวรรณภูมิ หรือต้องเดินทางหลายต่อมากกว่าจะไปที่แอร์พอร์ตลิ้งค์ หรือป้ายรถเมล์แถว ๆ รังสิตที่จะมีรถไปสนามบิน และต้องเล็งเวลาให้เที่ยวรถต้องลงตัวพอดีกัน ต้องจอง โอกาสผิดพลาดมันสูงมากครับ วิธีที่สะดวกจริง ๆกลับเป็นแท็กซี่ครับ ต้องเดินทางหลายต่อ หอบหิ้วกระเป๋า แข่งกับเวลา มันไม่สนุกเลยครับ

...และเป็นจุดที่ผมลุ้นที่สุด มากกว่าการเดินทางในต่างประเทศอีกนะ เมื่อไหร่การเดินทางไปสนามบินและสถานีขนส่งสาธารณะของไทยเราจะสะดวกเสียที ทั้ง ๆ ทีเราโปรโมทการท่องเที่ยวมาก และเชื่อผม ถ้าคุณเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะในประเทศไทยได้ คุณเดินทางได้ทุกที่แหละครับ

ด้วยความวุ่นวายในการเดินทางนี่เอง ผมแนะนำการเก็บกระเป๋า แนะนำให้เก็บกระเป๋าที่จะลงใต้เครื่องบินที่เอาให้แน่นหนา ไม่ต้องมาเปิดอีก ทบทวนว่าอย่ามีของต้องห้าม โดยเฉพาะเพาเวอร์แบ้งค์ครับ

การมาแกร่วที่สนามบินถือเป็นเรื่องที่คุณต้องยอมรับได้ ในไทยต้องเจอกับความไม่แน่นอนของการจราจรและรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์ ต่างประเทศคุณจะลุ้นว่าตัวเองจะหลงหรือขึ้นรถไฟถูกขบวน ถูกทิศหรือเปล่าอีกด้วย ดังนั้นไปตั้งแต่เนิ่น ๆ ครับ โดยเฉพาะขากลับประเทศไทย ผมเคยถูกเชิญไปค้นตัวสองครั้งครับ แต่ก็ผ่านด้วยดีนะ ผมคิดว่าเพราะผมพกบัตรประชาชนและบัตรเครดิตไว้ในกระเป๋าเสื้อ ไม่ได้วางบนกระบะตรวจของครับ (คือตั้งใจจะซื้อของกินในสนามบินก่อนเครื่องขึ้น) ตำรวจที่มาตรวจก็โคตรสวยครับ 555 ก็ยินดีให้ค้นครับ

เมื่อคุณต้องมาแกร่วที่สนามบินและคุณกำลังจะไปประชุม วิธีฆ่าเวลาที่เหมาะที่สุดคือ ให้อ่านพรีวิวเรื่องที่จะไปประชุมครับ เราได้ตารางมาล่วงหน้าอยู่แล้ว ให้เราทบทวนเรื่องที่จะไปฟังให้มีพื้นฐานความเข้าใจ หรือจะอ่านเรื่องใหม่ที่จะไปฟังให้เข้าใจก่อน ...**ตรงนี้สำคัญครับ** เพราะเราไปฟังภาษาต่างประเทศ โอกาสที่เราจะไม่เข้าใจหรือเบื่อนั้นสูงมาก และเมื่อเบื่อหรือเบลอ คุณจะเสียเวลาและเงินในการเดินทางมาทันทีครับ (นี่ไง ทำไมการประชุมวิชาการออนไลน์ถึงมาแรงมาก)

ใช้ไวไฟสนามบิน มีที่ชาร์จไฟ อ่านไปกินไปหรือใครจะจดบันทึกก็ได้ แต่อย่าลืมไปให้ถูกประตูทางออกและทันเวลานะครับ และถ้าใครจะนอนก็ตั้งเวลาปลุกให้ดี ผมก็ใช้เวลาที่รอเครื่องบินขึ้น เวลาที่อยู่บนเครื่องบินนี่แหละ ทบทวนเกือบครบเลย อ่านและดาวน์โหลดเอกสารมาอ่านต่อ ต่อไปถ้าใครเจอผู้ชายชรา ๆ หุ่นดี ๆ หน้าหนุ่ม ๆ นั่งอ่านหนังสือและทำบันทึกย่ออย่างจริงจังใกล้ ๆ ประตูทางออก และเปิดไฟอ่านหนังสือบนเครื่องบิน พร้อมจออีบุ๊ก สมุดและดินสอ จดยิก ๆ นั่นแหละผมเอง

พักเดียวเครื่องก็ลงแล้วนะครับ

อย่าลืมสิ่งสำคัญที่สุด คือ ปรับนาฬิกาของคุณให้เป็นเวลาท้องถิ่น เรื่องนี้ผมเคยตายน้ำตื้นมาแล้วครับ ที่ฮ่องกงนี่เอง แต่ไม่ได้เรื่องร้ายแรงอะไร แค่กะเวลาดูละครผิดไปเท่านั้น ฮ่า ๆ ๆ

จริง ๆ แล้วการยื่นเรื่องเข้าเมืองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการมาท่องเที่ยวเลยครับ แต่ถ้าคุณเขียนเอกสารเข้าเมืองว่ามาประชุมวิชาการก็จะต้องมีเอกสารรับรองอย่างที่ผมอธิบายไปในตอนแรกครับ โดยทั่วไปประเทศที่เขารับรองเขาจะออกเอกสารรับรองมาสองฉบับ ฉบับภาษาอังกฤษ ส่วนอีกฉบับเป็นภาษาท้องถิ่นที่เขาใช้กันครับ เราก็ยื่นเอกสารและรอตรวจเข้าเมือง รับกระเป๋า ตอนนี้ใครอยากแลกเงินก็ทำได้เลยครับ ออกไปแลกข้างนอก ก็จะลำบากสักหน่อยเนื่องจากกำแพงภาษา อาจจะภาษาของเรานี่เองแหละที่อ่อนแอ

ถ้าใครมีเวลากระชั้นชิด (ผมเคยลงเครื่องบินแล้วนั่งรถไฟเข้าห้องประชุมมาแล้ว) ให้ใช้ระบบขนส่งที่เราเตรียมตัวและจัดการมาแล้วจะดีกว่าครับ ตารางเวลาที่แน่นอนจะทำให้เราจัดสรรเวลาได้มาก และหนทางที่สะดวกที่สุดคือรถไฟเข้าเมืองครับ ส่วนถ้าใครยังพอมีเวลาหรือประชุมพรุ่งนี้ ผมแนะนำรถบัสเข้าเมือง จะได้เห็นสภาพบ้านเมืองของเขาไปด้วย ถือโอกาสเที่ยวเปิดหูเปิดตาไปพร้อมกัน อย่าเอาเวลาประชุมไปเที่ยวครับ เสียดาย อุตส่าห์ลงทุน เตรียมตัวมาทั้งที แต่ถ้าใครจะเที่ยวก็เผื่อเวลาเพิ่มเอาครับ

ถ้าเป็นไปได้ เอาเอกสารการเดินทาง เงิน และตั๋วโดยสารเอาไว้ติดตัวครับ มันต้องใช้บ่อย ใส่ในกระเป๋าใหญ่ต้องปิดเปิดจะหายได้ง่าย อีกอย่างก็ต้องระวังมิจฉาชีพครับ ผมระวังที่สุดตอนไปยุโรป เพราะลักษณะภายนอกของเราต่างจากเขามาก เป็นเป้าโจมตีได้ง่ายสุด ๆ

เอาล่ะพอมาถึงโรงแรมที่พัก จะทำอะไรดี ติดตามตอนต่อไปครับ

ในภาพอาจจะมี ท้องฟ้า, ต้นไม้, ต้นพืช, สถานที่กลางแจ้ง และธรรมชาติ

บทความที่ได้รับความนิยม