ปีที่แล้วนั้นถือว่าเป็นปีทองของยาเบาหวานกลุ่มหนึ่ง คือ SGLT2 inhibitor ยากลุ่มที่ลงท้ายด้วย -gliflozin
ยากลุ่มนี้ทั้ง empagliflozin, dapagliflozin และ canagliflozin มีประสิทธิภาพการลดกลูโคสในเลือด ยับยั้งการดูดกลับกลูโคสที่ท่อไตส่วนต้น (เฉพาะคนที่เป็นเบาหวานนะ) ลดระดับกลูโคสได้ดีพอสมควร ในคำแนะนำขององค์กรเบาหวานทั้งโลกและในไทย ให้ใช้ได้เป็นยาลำดับต่อมาจาก metformin
ข้อเด่นมากของยาตัวนี้มาจากการศึกษาที่ศึกษาถึงผลของยาต่อโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ทางองค์การอาหารและยากำหนดให้ยาเบาหวานต้องมีการศึกษาถึงความปลอดภัยของยาต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดว่าปลอดภัย ไม่ทำให้โรคหัวใจเพิ่ม แต่ยากลุ่มนี้ทำได้มากกว่าแค่ความปลอดภัย ทำได้ถึงลดอัตราการเกิดโรคหัวใจรุนแรงได้เลย ทั้งๆที่ยาหัวใจหลายตัวยังทำไม่ได้
จนมีคำกล่าวว่านี่คือ ยาโรคหัวใจที่ลดน้ำตาลได้
แต่ผลข้างเคียงสำหรับยากลุ่มนี้ที่พบก่อนหน้านี้คือ การเกิดเลือดเป็นกรด ketoacidosis โดยที่น้ำตาลไม่สูง และ เพิ่มโอกาสการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะเพศ โดยเฉพาะเชื้อรา
สำหรับยา canagliflozin มีข้อควรระวังเพิ่มเติม จากการศึกษาของตัวยา CANVAS คือ พบการถูกตัดนิ้วมากขึ้น (อย่าลืมว่านี่คือคนไข้เบาหวานนะ ที่มีโอกาสเกิดเบาหวานที่เท้า ติดเชื้อเรื้อรัง ติดเชื้อกระดูกนิ้วเท้า หรือนิ้วเท้าขาดเลือด) และก็เป็นคำเตือนในการใช้ยา หากมีแนวโน้มจะเกิดแผลหรือแนวโน้มตัดนิ้ว ให้หลีกเลี่ยงยาตัวนี้
ต่อมาเมื่อยาอนุมัติใช้ ทาง US FDA ก็ได้เก็บข้อมูลผลข้างเคียงของยา ระบบการรายงานของเขาดีมากเลยนะครับ ข้อมูลจนถึง 31 มีนาคม 2017 พบว่าเก้าล้านกว่ารายงายผลเสียจากยา มีรายงานการถูกตัดเท้าและนิ้วเท้าอันต้องสงสัยจาก SGLT2 inhibitors 66 ราย ในระดับต้องสงสัยหรือเป็นจำเลยร่วม
54 จาก 66 คน สงสัยจาก canagliflozin แต่ว่าเกือบ 40% ของรายงายนั้นคนไข้ก็มีแผลเบาหวานอยู่แล้ว อัตราของ canagliflozin คือ 3.4 ต่อ 1000
สัดส่วนการรายงาน (proportional reporting ratio) ของ canagliflozin ที่ต้องสงสัยเป็นเหตุตัดเท้า มากกว่ายาอื่นๆชัดเจน (5.53 95%CI 4.0-7.0) และมากกว่า empagliflozin และ dapagliflozin ด้วยตรงกับในการศึกษาว่ามีรายงายแต่ canagliflozin
จะใช้ยาใด ต้องรู้จักทั้งผลดีและผลเสีย ยิ่งของใหม่ที่ยังต้องรอผลยิ่งต้องระวัง
ที่มา
1. SGTL2 inhibitors and amputations in the US FDA Adverse Event Reporting System ใน the lancet diabetes and endocrinology 18 July 2017
2. CANVAS study, NEJM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น