นมโต ที่ติดค้างกันไว้
ตอนที่ทบทวนเรื่อง gynaecomastia ก็พบว่ายาตัวหนึ่ง ทำให้มีปัญหานมโตได้คือยา statin อันนี้ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน เลยลงไปค้นเพิ่มเติม ไหน ๆ ค้นมาแล้วก็มาเล่าให้ฟังกันสักหน่อย เผื่อคุณสุภาพบุรุษจะได้มีข้อมูล ส่วนคุณสุภาพสตรีครับ การเกิดนมโตจากยา statin เกิดในผู้ชายนะครับ
มีรายงานการเกิดนมโตจาก statin ไม่มาก ส่วนใหญ่ที่รายงานมาคือ case report หมายถึงมีแค่รายงานครั้งละ 1-2 ราย เพื่อให้สังคมและวงการสาธารณสุขทราบว่า มันมีโอกาสเกิดนะ แม้จะไม่มากก็ตาม มีการศึกษาที่ใหญ่ทำที่แคนาดา ตีพิมพ์เมื่อสามปีก่อน ก็เป็นการศึกษาแบบ case - control คือรวบรวมคนที่มีอาการแล้ว มาเทียบกับคนไม่มีอาการ ในกลุ่มตัวอย่างที่นมโตหกพันกว่าคน เทียบกลุ่มควบคุมหกหมื่นกว่าคน
จะเห็นว่ารูปแบบการศึกษาทั้งหมด เป็นการรายงาน เป็นการเก็บตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว (คือการมองย้อนหลัง) ไม่ได้มีการวางแผนควบคุมตัวแปรต่าง ๆ และมีปัจจัยอื่นมารบกวนได้มากมาย ถ้าเหตุการณ์มันไม่ได้เกิดมากมายอย่างชัดเจน โอกาสที่จะบอกความเป็นเหตุเป็นผลว่า 'statin ทำให้นมโต' จะไม่มีน้ำหนัก บอกได้แค่โอกาสเกิดเท่านั้น
ครั้นจะศึกษาตั้งต้น ตั้งกรรมวิธี ควบคุมตัวแปร และเดินหน้าเก็บข้อมูล ขอบอกว่ายากมาก ต้องใช้เวลานาน ต้องใช้ทุนมหาศาล และกลุ่มตัวอย่างเยอะมาก เพราะโอกาสเกิดนมโตจาก statin เท่าที่รายงานมันน้อยมากนั่นเอง ... จินตนาการว่าเก็บข้อมูลว่ามีปัจจัยใดที่จะถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง โดยตั้งเป้าต้องมีคนถูกรางวัลที่หนึ่งสัก 100 คนก็จะพอบอกปัจจัยได้
คุณคิดว่าต้องเก็บข้อมูลเยอะแค่ไหน
ดังนั้นข้อมูลผลข้างเคียงแทรกซ้อนจากยา เราจึงยอมรับการศึกษาแบบ case report, case control ไม่จำเป็นต้องเป็นการศึกษาทดลองหรือเก็บข้อมูลไปข้างหน้า
เอาล่ะสิ่งที่พบคือ
1. Statin มีรายงานการเกิดนมโตจริง ดังนั้นหากคุณนมโตหลังจากมีการใช้ statin ให้คิดไว้ด้วยว่า นี่อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่ฟันธงว่าจาก statin แน่นอน ต้องประเมินเหตุอื่นเสมอ เพราะโอกาสเกิดมันไม่มาก
2. ไม่มีตัวเลข ความชุกหรืออุบัติการณ์การเกิดที่ชัดเจน บอกเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ อาจจะเพราะมีการศึกษาน้อย หรือรายงานเข้ามาน้อย หรืออาจจะเพราะโอกาสมันน้อยมากจริง ๆ อันนี้บอกไม่ได้
3. ยาที่มีรายงานมากที่สุด (อย่าลืมว่ามากที่สุดของข้อมูล ที่ปริมาณข้อมูลน้อยมาก ๆ) คือยา rosuvastatin รองลงมาคือ atorvastatin ดังนั้นไม่ตัดโอกาสความเป็นไปได้ที่ยา statin ตัวอื่นจะทำให้เกิด และเนิ่องจากปริมาณข้อมูลน้อยมาก จึงไม่ได้หมายความว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้ยาสองตัวนี้จะเกิด
4. ประมาณครึ่งหนึ่งของตัวเลขที่รายงานว่ายา statin อาจทำให้เกิดนมโต ครึ่งหนึ่งที่ว่า มียาอื่นร่วมด้วยเต็มไปหมด ทำให้น้ำหนักของยา srtatin ที่จะเป็นผู้ร้ายของเรื่องนมโต ก็ลดลง
5. มีเพียงสองคน ที่รายงานว่า มี statin แล้วนมโต (แต่ก็มียาอย่างอื่นด้วย) หยุด statin แล้วนมเล็กลง ... ก็ดูมีน้ำหนักเนอะ มีเหตุ พอเอาเหตุออกก็หาย แต่อย่าลืมว่ามันมียาอื่นร่วมด้วยนะ... ถ้าจะให้ชัวร์ต้องใส่ยา statin เข้าไปอีกแล้วนมโตอีก อันนี้จะชัด แต่คงไม่มีใครทำ มันก็เลยสรุปข้อมูลเพียงแค่ว่า น่าจะ อาจจะ
สรุปแล้วว่า ถ้านมโตให้สืบค้นหาเหตุ และถ้าสงสัยจากยา ก็มีข้อมูลว่า statin อาจเป็นสาเหตุ และควรคิดถึงยาอื่น ๆ ก่อนเพราะ statin พบไม่บ่อย
และหากสงสัย statin (หาเหตุอื่น ๆ อย่างรอบคอบแล้ว) จะหยุดยาไหม ก็ต้องปรึกษาหมอที่ให้ยา ว่าประโยชน์ที่คาดหวังจาก statin คืออะไร ผลข้างเคียงที่เกิด (นมโต) จาก statin มันรุนแรงและอันตรายไหม เทียบผลดีผลเสีย ร่วมตัดสินใจระหว่างหมอกับคนไข้ครับ ไม่มีถูกผิดดำขาว เพราะข้อมูลมันมีไม่มาก ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลครับ
ที่มา (ผมค้น fulltext ได้แค่ 7 อัน) แนะนำอ้างอิงหมายเลข 2 ดีโคตร ๆ
1. Clin Endocrinol (Oxf). 2018 Oct;89(4):470-473. doi: 10.1111/cen.13794. Epub 2018 Jul 15.
2. N Engl J Med. 2007 Dec 20;357(25):2636; author reply 2636-7. doi: 10.1056/NEJMc072946.
3. Eur J Clin Pharmacol. 2012 Jun;68(6):1007-11. doi: 10.1007/s00228-012-1218-5.
4. Ann Pharmacother. 2013 Jan;47(1):e6. doi: 10.1345/aph.1R491. Epub 2013 Jan 16.
5. Clin Endocrinol (Oxf). 2010 Sep;73(3):421-2. doi: 10.1111/j.1365-2265.2010.03802.x. Epub 2010 Mar 13.
6. Hellenic J Cardiol. 2019 May-Jun;60(3):194-195. doi: 10.1016/j.hjc.2018.08.003. Epub 2018 Aug 24.
7. Pharmacotherapy. 2006 Aug;26(8):1165-8. doi: 10.1592/phco.26.8.1165.
8. Presse Med. 1999 Apr 17;28(15):787.
9. Pharmacotherapy. 2008 Apr;28(4):549-51. doi: 10.1592/phco.28.4.549.
10. Transplant Proc. 2002 Sep;34(6):2227-8. doi: 10.1016/s0041-1345(02)03214-1.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น