ทำความรู้จักวัคซีนสปุตนิก วัคซีนโควิดจากรัสเซีย
หลังจากที่เพจเราได้นำเสนอวัคซีนจากไฟเซอร์ โมเดอนา แอสตร้าซีเนก้า โดยทั้งหมดเป็นงานวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน โดยเป้าหมายหลักคือ ลดการติดเชื้อแบบมีอาการ หรือลดความรุนแรงนั่นเอง ทุกอันประสิทธิภาพดีหมด ปลอดภัย และผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ WHO, CDC, FDA
เรามาอ่านสรุปวัคซีนสปุตนิกแบบคร่าว ๆ ไม่ลงลึกเพราะทุกคนมีพื้นฐานความเข้าใจจากเรื่องที่กล่าวมาแล้วครับ
1. วัคซีนนี้เป็น adenovirus vector แล้วใส่พันธุกรรมเชื้อโควิด ให้เข้าไปสร้างภูมิคุ้มกันเสมือนการติดเชื้อจริง กระตุ้นได้ในทุกแบบของภูมิคุ้มกัน โดยฉีดสองครั้งห่างกัน 21 วัน โดยเข็มแรกและเข็มสองจะมีองค์ประกอบต่างกันเล็กน้อย
2. การศึกษานี้ทำในรัสเซียอย่างเดียว ภายใต้การควบคุมที่ดี การวัดผลทั้งอาการติดเชื้อ ตรวจหาเชื้อด้วย pcr วัดระดับภูมิคุ้มกัน ติดตามผลด้วยระบบ big data บุคคลและระบบสาธารณสุข และ telemedicine ที่แข็งแรงและทรงประสิทธิภาพของรัสเซีย
3. ทำในคนสุขภาพดี ไม่ติดเชื้อมาก่อน ตรวจไม่พบเชื้อ อายุเกิน 18 ไม่มีโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ และถ้าก่อนฉีดเข็มสองเกิดมีอาการหรือตรวจพบเชื้อก็จะแยกย่อยประเมินผลอีกด้วย
4. ** ต้องการวัดผลหลัก (primary outcome) คือ "การติดเชื้อทั้งมีอาการและไม่มีอาการ โดยยืนยันจากผล PCR ที่ระยะเวลาก่อนฉีดยาเข็มสอง" นี่คือจุดที่แตกต่างจากวัคซีนที่ผ่านมา ** โดยเป้าคือ ป้องกันได้อย่างน้อย 50%
5. ได้คน 21,977 ราย เป็นเอเชีย 1.5% วัดผลครั้งแรกหลังจากตัวเลขผู้ป่วยสูงพอวิจัยได้คือ
1. กลุ่มรับวัคซีนติดเชื้อ 16 รายจาก 14964 ราย (0 1%)
2. กลุ่มรับยาหลอก (เหมือนวัคซีนทุกอย่างเว้นไม่มีสารพันธุกรรมโควิด)ติดเชื้อ 62รายจาก 4902 คิดเป็น 1.3%
3. เขาไม่ได้สุ่ม 1:1 นะครับ แต่สุ่ม 3:1 เพราะต้องการดูผลที่เร็วขึ้น (มี error ที่พอรับได้) อันนี้ก็ต่างจากวัคซีนอื่น
4. สรุปประสิทธิภาพรวม ในการป้องกันการติดเชื้อทั้งมีอาการและไม่มีอาการคือ 91.6%
6. ส่วนประสิทธิภาพการป้องกันหลังเข็มแรกที่เวลาใด ๆ คือ 73% ส่วนประสิทธิภาพหลังฉีดสองเข็มที่ 91.1% ไม่ว่าจะเพศหรือกลุ่มอายุใด ก็ได้ผลพอกัน และสามารถปกป้องอาการรุนแรงได้ดีอีกด้วย ไม่พบการติดเชื้อรุนแรงหลังเข็มแรกเลย โดยกลุ่มยาหลอกพบถึง 20 คน
7. ภูมิคุ้มกันในทุกระบบขึ้นสูงหมด โดยเฉพาะหลังเข็มสอง ไม่ว่าหลังฉีดจะติดเชื้อหรือไม่ ระดับภูมิคุ้มกันก็ขึ้นสูงเหมือนกัน ทุกกลุ่มอายุ
8. ความปลอดภัยถือว่าดี เกิดผลข้างเคียงเท่าๆกันในกลุ่มวัคซีนและยาหลอก 0.3% เกือบทั้งหมดเป็นปฏิกิริยาเฉพาะที่ หรือ อ่อนเพลีย ปวดหัว ไข้ต่ำ หายเองได้ทั้งหมด โดยพบผู้เสียชีวิตหลังฉีด 4 ราย ทั้งหมดเสียชีวิตโดยไม่ได้มีเหตุจากวัคซีน
9. อย่าลืมว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นการรายงานเบื้องต้น สามารถใช้รับรองได้เพราะจำนวนคนที่วัคซีนปกป้องได้นั้นถึงระดับที่ต้องการแล้ว ยังคงต้องรอผลอีกหลายอย่างในการวิเคราะห์สุดท้าย รวมทั้งความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ยังไม่สิ้นสุดการศึกษาครับ
10. ข้อดีและข้อจำกัดในตัวเดียวกันคือ ระบบข้อมูลที่เคร่งครัดและแม่นยำมากตามสไตล์รัสเซีย อาจทำให้ผลการใช้งานจริง อาจไม่ได้ตัวเลขหรือประสิทธิภาพอย่างที่ศึกษา และมีความหลากหลายในกลุ่มประชากรน้อยเกินไป ถ้าจะนำมาใช้ที่อื่น อาจต้องมาทบทวนบริบทแต่ละที่ด้วย (ปูตินสไตล์...มีเนื้อหาเรื่อง big data กับ telemedicine ที่ต้องการโชว์ชาวโลก เกือบครึ่งของการวิจัย 😂😂)
ใครสนใจไปหาอ่านได้จาก Lancet ฉบับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่เพิ่งผ่านมานี้ครับ
🙏🙏🙏
ตอบลบ