"กรุณาฟังฟัง ฉันให้จบจบจบ แล้วจะบวกจะลบก็ตามใจ"
อยากบอกว่าเวลาอ่านข่าวก็ให้ทำแบบนี้เช่นกัน
อยากบอกว่าเวลาอ่านข่าวก็ให้ทำแบบนี้เช่นกัน
พาดหัวจาก Medscape news
"certain dental floss raise body levels of toxic chemicals"
เรียกว่าอ่านแล้วสะดุ้ง วิ่งไปดูไหมขัดฟันในบ้านเลยใช่ไหม ตามเนื้อข่าวบอกว่ามีการศึกษาทำในชาวอเมริกันพบว่าการใช้ไหมขัดฟันทำให้ระดับสาร per- and polyfluoroalkyl substances เพิ่มขึ้นในร่างกายซึ่งสารตัวนี้พบว่าเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งอัณฑะและมะเร็งที่ไต
เอาแล้วล่ะสิ คิดไปเรื่อยเลย เราใช้หรือเปล่าหว่า ใช้ยี่ห้ออะไร มันจะมีสารนี้ไหม เจ็บ ๆ หว่างขาบ่อยนี่ใช่ไหม ไหน ๆ คลำซิ หนูพริตตี้มาคลำซิ ไม่ได้แล้วต้องเลิกใช้....หยุดคิดบัดเดี๋ยวนี้ !!
เอาล่ะเมื่อเราไปอ่านจนหมดรวมทั้งที่มาที่ไปของข่าว (ข่าวสารทางวิทยาศาสตร์อาจจะต้องทำแบบนี้นะครับ มันต้องแปลภาษาวิทย์มาเป็นภาษามนุษย์ ทำให้อาจแปลพลาด) เราจะพบว่าเขาเก็บกลุ่มตัวอย่างสุภาพสตรีประมาณ 180 คนที่แข็งแรงดีมาเจาะเลือดหาเจ้าสารนี้ แล้วนำคนที่ระดับสารนี้สูงในเลือด (ซึ่งไม่ได้มีข้อมูลชัดว่าสูงเท่าไรจึงอันตรายหรือสูงแค่ไหนจึงน่ากังวลว่าจะเป็นมะเร็ง) เอามาสอบถามว่า เอ..ในบ้านคุณมีเฟอร์นิเจอร์หรือใช้สิ่งต่าง ๆเหล่านี้หรือเปล่า เพราะสิ่งต่าง ๆเหล่านี้เราพบว่ามี PFAS สูงนะ ตู้ไม้ พรม ไมโครเวฟ ไหมขัดฟัน กระทะแบบอาหารไม่ติดกระทะ แล้วเอาการคำนวณทางสถิติมาเทียบค่าความสัมพันธ์แล้วก็พบว่าคนที่มีการใช้ไหมขัดฟัน มีความสัมพันธ์ชัดเจนกับการพบสาร PFAS สูงขึ้นในเลือด
ข้อมูลจากการศึกษามันก็บอกแค่นี้เองครับ บอกว่าเออ..พบสารนี้จริงนะ มันไม่ควรมาอยู่ในคนสูงขนาดนี้ และคนที่พบสูง ๆ มีการใช้ไหมขัดฟัน ดังนั้นสารนี้น่าจะมาจากสิ่งที่ใช้กับตัวเราแบบนี้ ไม่ได้มาจากการสูดดม การกิน (ซึ่งก็ไม่แน่ เพราะไม่ได้ถาม ไปถามอาจจะเจอก็ได้)
และมีการศึกษาที่ยกมาอีกว่า เราเอาไหมขัดฟันยี่ห้อนี้นั้นไปตรวจด้วยวิธีที่เจ๋งมาก แม่นมาก แล้วก็พบว่าเจ้าไหมขัดฟันที่เอามาศึกษาพบว่ามี PFAS สูงทั้งสิ้น อะฮ้า...เจ้านี่แหละตัวการสำคัญ และบอกว่าหนึ่งในสาเหตุที่พบ PFAS ในเลือดสูงจากการศึกษาก็คือเจ้าไหมขัดฟันนี่แหละ
แต่...แต่... ไม่ได้บอกแต่อย่างใดว่าเจ้าไหมขัดฟันมันจะไปเกี่ยวข้องอะไรกับการเกิดมะเร็งไต มะเร็งอัณฑะ หรือปริมาณสเปิร์มที่ลดลง โอกาสเกิดโรคแพ้ภูมิตัวเอง ไม่มีข้อมูลตรง ๆ แบบนี้แต่อย่างใด แถมการศึกษาก็เป็นภาคตัดขวางเท่านั้น ไม่รู้ว่าเขาสัมผัสมานานแค่ไหน มีสารอื่นสัมผัสด้วยหรือไม่ ดังนั้นการจะไปแปลความมากไปกว่าคำถามการศึกษานั้นเป็นสิ่งไม่ควรทำ เขาทำแค่เจาะเลือดมาตรวจว่าสูงและพบว่ามีการใช้สารเหล่านี้ สรุปว่าสัมพันธ์กันจริง แต่ไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
และไม่สามารถโยงว่าสาร PFAS ที่เกี่ยวข้อง (แค่เกี่ยวข้องนะ) กับการเกิดมะเร็ง จะแปลผลว่าไหมขัดฟันจะเกิดมะเร็งไปด้วย แค่พบว่าไหมขัดฟันมีสารนี้และสามารถส่งสาร PFAS มาที่ตัวคนได้ (และก็ไม่รู้ว่าอยู่นานแค่ไหน สะสมหรือไม่ด้วย)
ถ้าผมเป็นเจ้าของธุรกิจไหมขัดฟันนี่ อาจจะสะเทือนเลยนะ ถ้าไปแปลผลแบบแมว ๆ แบบนั้นแล้วกระทบกับยอดจำหน่าย การแปลผลการศึกษาวิจัยจะแปลได้แค่คำถามวิจัยเท่านั้นที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนการประยุกธ์ไปใช้...เดี๋ยว ๆ ประยุกต์ไปใช้ เป็นเรื่องของข้อคิดเห็นที่ต้องพิสูจน์ในลำดับต่อไป เราในฐานะผู้เสพข่าว ต้องมีทักษะในการอ่านมากขึ้นในยุคข้อมูลข่าวสารมากมายแบบนี้
อ้อ..24 มีนาคม 2562 อย่าลืมไปเลือกตั้งนะครับ เข้าคูหา กาเบอร์ตอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น