คุณรู้ไหม ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ..ใช่ คุณอยู่กับสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ชื่อ gut microbiota อยู่ตลอดเวลา หลายปีที่ผ่านมามีการกล่าวถึงเพื่อนตัวน้อยของเราในแบบต่างๆมากมาย วันนี้เรามารู้จักเพื่อนตัวน้อยนี้กันนะครับ
gut microbiota คือ จุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ จริงๆก็จะมีทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส ปรสิตหนอนพยาธิ อยู่ร่วมกับเราแบบต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ เดี๋ยวก็จะเล่าให้ฟังว่าต่างได้ประโยชน์อย่างไร
เราเริ่มมี gut microbiota ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว หลังจากการที่เราได้สร้างทางเดินอาหาร เราก็มีการกินและขับน้ำคร่ำตลอด แต่นั่นไม่เท่าไรครับ การสะสมของจุลินทรีย์เริ่มชัดเจนตั้งแต่ แรกคลอด ... ถ้าคลอดทางช่องคลอดนั้นแบคมีเรียก็จะเป็นกลุ่มหนึ่ง (จะเหมือนแบคทีเรียในช่องคลอดของแม่) แต่ถ้าผ่าคลอดแบคทีเรียก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง (เป็นแบคทีเรียที่ผิวหนังของแม่) แต่จากผลการศึกษาระบุว่าความแตกต่างกันในแง่ วิธีการคลอด นมที่กิน อาหารที่กิน จะแตกต่างกันจนถึงอายุ 3 ปี หลังจากนั้นก็จะไม่ค่อยต่างกันไปจนอายุมาก
จากข้อมูลการศึกษาปัจจุบันพบว่าในคนสุขภาพดี แบคทีเรียที่พบเป็น gut microbiota นั้นเป็นแบคทีเรียในกลุ่ม Firmicutes และ Bacteroidetes รองลงมาคือ Actinobacteria Verrucomicrobia จะเห็นว่าไม่ใช่แบคทีเรียที่เราคุ้นหูสักเท่าไร เพราะข้อมูลในอดีตเราใช้การเพาะเชื้อจากอุจจาระ จากสิ่งส่งตรวจในทางเดินอาหารส่วนต่างๆ แต่ปัจจุบันเราใช้การแยกด้วยสารพันธุกรรม การจัดลำดับยีน จากฐานข้อมูลอันใหญ่ของโลกสองฐานข้อมูลคือ US Human Microbiome Project (HMP) และ European Metagenomic of Human Intestinal Tract (MetaHIT) ทำให้เราทราบว่ามีมากกว่า 35000 สายพันธุ์ทีเดียว
แต่ว่าการเกิดอยู่ ดับไปของ gut microbiota ของแต่ละช่วงเวลา ของแต่ละส่วนของทางเดินอาหารก็หลากหลายกันออกไป บางเวลาตัวนั้นมาก บางเวลาตัวนี้น้อย ที่ทางเดินอาหารแต่ละบริเวณก็จะมีเจ้าที่ เจ้าถิ่นที่ต่างกัน ตามสภาพแวดล้อม ถ้าแบคทีเรียเกิดเจริญเติบโตผิดที่ก็อาจก่อโรคได้
แบคทีเรียส่วนมากจะได้อาหารจากการย่อยสลายน้ำตาลที่ไม่ดูดซึม น้ำตาลในอาหารหลายชนิดย่อยและดูดซึม หลายชนิดก็หลุดรอดมาที่ลำไส้เช่น oligosaccharides บางชนิดในผักผลไม้ ได้อาหารจากเยื่อเมือกและเซลลำไส้ที่หลุดออกมา เรียกว่าเราให้อาหารพวกเขาแล้ว มาดูสิว่าพวกเขาให้อะไรกับเราบ้าง
1. สารอาหาร ย่อยสลายน้ำตาลที่ดูดซึมไม่ได้ ออกมาเป็นสารอาหารที่น่าทึ่งหลายอย่างเช่น กรดไขมันสายสั้นที่ให้พลังงานสูง สร้างสารหลายอย่างที่ทำให้การสังเคราะห์โปรตีนในร่างกายสมบูรณ์ ถ้าขาดไปอาจเกิดการสร้างที่ไม่สมบูรณ์ก่อเกิดโรคได้ สร้างไวตามินเค แตกสารต่างๆให้ไม่เป็นอันตรายและเอาไปใช้ได้ เช่น โพลีฟีนอลในกาแฟ ช็อกโกแลต หรือย่อยสลาย ออกซาเลตที่เป็นสาเหตุหนึ่งของนิ่วไต
2. ผลต่อการทำลายยา ถ้าไม่มี gut microbiota ยาอาจถูกทำลายลดลงจนเป็นปัญหา ตัวอย่างคือยา lanoxin กับเชื้อ Eggerthella lenta
3.ป้องกันแบคทีเรียก่อโรค อย่าวที่กล่าว เชื้อพวกนี้จะประจำที่ประจำถิ่น หากมีเชื้อแปลกปลอมที่จะก่อโรค พวกเขาไม่ยอมครับก็จะกำจัดเชื้อที่จะก่อโรคเสมือนเป็นทหารด่านหน้าเช่นกัน เช่น Lactobacillus ที่สร้างกรดแลกติกมาทำให้ร่างกายกำจัดเชื้อแปลกปลอมง่ายขึ้น หรือ Bacteroides ที่คอยตรวจปริมาณเชื้อที่อาจจะก่อโรค ถ้ามีมากเกินจะส่งสัญญาณให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมากำจัดเชื้อโรค
4. ปรับแต่งระบบภูมิคุ้มกัน สามารถทำให้เซลภูมิคุ้มกัน gut associated lymphoid tissue (GALT) ทำงานเพื่อหลั่งสารมาควบคุมปริมาณเชื้อ และกำจัดเชื้อที่แปลกปลอมได้มากขึ้นด้วย
5. ช่วยทำให้รอยต่อของเซลลำไส้แข็งแรง เชื้อโรคต่างๆหรือแม้แต่ตัวเองก็เล็ดลอดเข้ากระแสเลือดไม่ได้ เช่นไปสร้างสารที่รอยต่อ desmosome แข็งแรง หรือไปกระตุ้นหลอดเลือดฝอยให้สร้างตัวได้ดีและแข็งแรง ทำให้ลำไส้และจุดต่อลำไส้แข็งแรงไปด้วย ตรงนี้สำคัญนะครับ เราเชื่อว่าการติดเชื้อรุนแรงต่างๆในร่างกายส่วนหนึ่งก๋เกิดจากรอยต่อพวกนี้ที่แย่ลงในช่วงติดเชื้อ เชื้อร้ายแรงจึงเล็ดลอดเข้ากระแสเลือดได้
เอ๊ะ..ดูรวมๆแล้วก็ดีนะ ถ้าปริมาณเหมาะสม ไม่อยู่ผิดที่ผิดทางเราก็อาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างดี แต่ทว่าก็มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้ gut microbiota แปรปรวน บางทีก็แปรปรวนเฉยๆ ไม่มีอาการ เดี๋ยวก็กลับมาปกติ หรือบางทีก็แปรปรวนมากจนร่างกายเกิดอาการ เกิดความผิดปกติ เรามาดูว่ามีอะไรจะไปรบกวนสมดุลของ gut microbiota ได้บ้าง
1. อายุ เมื่ออายุเปลี่ยน เชื้อก็เปลี่ยน สิ่งนี้จะเปลี่ยนมากในช่วงต้นของชีวิต การคลอด นมแม่ อาหาร มีส่วนมากเลย พบว่า คลอดเอง นมแม่ มีส่วนทำให้ gut microbiota ไปทางปกป้องร่างกายได้ดีกว่า แต่ในช่วงตั้งแต่ 40 ไปแล้วชนิดและปริมาณไม่เปลี่ยนมาก และมีแนวโน้มจะลดลง ติดเชื้อง่าย
2.อาหาร แน่นอน ถ้าเรากินอาหารที่มีไฟเบอร์มาก จากผัก ผลไม้ซึ่งก็จะมีน้ำตาลสำหรับ gut microbiota ด้วยอาหารอีกอย่างที่เป็นที่ศึกษากันมากว่าอาจมีผลดีต่อเจ้าตัวที่จะปกป้องร่างกาย คือ สาหร่ายทะเล การเปลี่ยนแปลงการกินอาหารในรูปแบบต่างๆก็ส่งผลต่อเจ้าเชื้อที่จะชอบอาหารต่างชนิดกัน ประเด็นอาหารนี้จึงไม่ได้แปรปรวนมากนัก ยกเว้นพวกที่กินอาหารปั่น อาหารทางการแพทย์อันนี้อาจจะมีประเด็นที่เจ้าเชื้อดีๆแบบนี้จะลดลง
3.ยาฆ่าเชื้อ แน่ๆล่ะ การใช้ยาฆ่าเชื้ออย่างพร่ำเพรื่อ ก็จะไปทำลายแบคทีเรียตัวที่ดีเช่นกัน ยิ่งการใช้ยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์กว้างมากและครอบคลุมเชื้อที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจนด้วย ที่เรียกว่าตายเรียบ ก็จะทำให้เชื้อบางอย่างเจริญเติบโตมากเกินพอดีและเป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา หรือ เชื้อ clostridium ในลำไส้ จึงมีการรักษาโดยการให้แบคทีเรียตัวดีๆที่ถูกทำลายโดยยาฆ่าเชื้อนั่นแหละ กลับเข้าไปใหม่ เรียกว่า fecal microbiota transplantation ...ครับ สกัดจากอุจจาระมนุษย์นั่นแหละ
ข้อมูลจาก review article เรื่อง gut microbiota ใน WJG 2015, 21(29) และ Physiol rev, Jul 2012,vol 90 ทำลิงค์มาให้ด้วยนะครับ
https://drive.google.com/file/d/0Bw862GrW7-8La2tSOGw2ZFMyR2c/view?usp=drivesdk
https://drive.google.com/file/d/0Bw862GrW7-8LZDIzdHJYX1Z2eUU/view?usp=drivesdk
เครดิตภาพ : sfam.org.uk
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Acute pancreatitis จากที่ตอนที่แล้ว เราได้กล่าวถึงตับอ่อนอักเสบในภาพรวม สำหรับโพสต์วันนี้ขอเล่าถึงในภาพลึกในเชิงปฏิบัติบ้างนะครับ ตามสัญญา...
-
คำถามจากทางบ้าน : น้ำอสุจิมีมดตอม แบบนี้ เป็นเบาหวานไหม อย่างแรกคนที่ถามคำถามนี้เป็นสุภาพสตรี ต้องนับถือในความช่างสังเกตสิ่งรอบตัวจริง ๆ ค...
-
ปฏิบัติการ I/O สะท้านโลก I/O ทางการแพทย์เราคือ intake -- output ปริมาณสารน้ำเข้าออกในร่างกาย ไม่ได้เกี่ยวกับปฏิบัติการข่าวสารอันเลื่องลื...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น