ขอคั่นรายการด้วยความรู้สึกที่แว่บเข้ามา อาจไม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ แต่น่าจะดีต่อใจ : ภาวะกตัญญูเฉียบพลัน
ในช่วงวันหยุด ผมมักจะไม่ไปไหน ด้วยเบื่อหน่ายกับรถรามากมาย คนเยอะแยะ จึงมักจะ..อยู่เฝ้าวอร์ด ออกโอพีดี แทนน้อง ๆ เด็ก ๆ
สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นมาตั้งแต่เรียนจบคือ ลูกหลานที่ไปทำงานต่างที่ กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ปู่ย่าตายาย และพาท่านทั้งหลายมาตรวจรักษาในช่วงวันหยุด
ในตอนแรกทำงาน เรามักจะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า 'ภาวะกตัญญูเฉียบพลัน' คือ ท่านทั้งหลายเป็นโรคหรืออาการต่าง ๆ นี้มานานแล้ว บางทีก็รักษาแล้ว พอลูกหลานกลับมา ก็เป็นห่วง พามาตรวจ ท่านก็ขัดไม่ได้ (ก็ไม่มีเหตุผลอะไร จะไปขัดความหวังดีนั้น)
บอกตามตรงว่า ตอนแรกจบออกมา ก็รู้สึกว่า ทำไมเพิ่งมาล่ะ หรือ อาการก็เหมือนเดิม แต่มาตรวจวันหยุดที่คนทำงานน้อย มีแต่บุคคลากรเพื่อเหตุฉุกเฉิน รู้สึกเหมือนหลาย ๆ คนที่ถูก 'บิ้ลต์' ความรู้สึกนี้จากคำพูดภาวะกตัญญู เฉียบพลัน
แต่พอนานไป ก็เริ่มเห็นความจริงแห่งโลก พวกเขาเหล่านั้น มีวันหยุดแค่นี้ กว่าจะรวบรวมเงินทองมาได้ ก็หวังจะมาดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุด ตามที่เขาทำได้ นอกจากไม่ผิดอะไร ยังน่าภูมิใจเสียอีก
หลายครั้ง ภาวะกตัญญูเฉียบพลัน ทำให้เราเจอหลายโรคที่พึงรักษาได้ เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เอสแอลอี มะเร็งลำไส้ใหญ่ seborrheic dermatitis และทำให้คุณภาพชีวิตของคุณพ่อคุณแม่ของพวกเขาดีขึ้นจริง
คุณภาพชีวิตดีขึ้น ไม่เจ็บป่วย ลูกหลานก็ทำงานได้มีความสุขขึ้น วินวินทุกฝ่าย
ตอนนี้ผมได้แต่ยิ้ม เวลาเห็นผู้เฒ่าผู้แก่มาตรวจ บ่น ๆ ว่าไม่เป็นอะไรสักหน่อย พามาทำไม รายล้อมด้วยลูกหลานที่หยอกเย้าท่าน เอาขนมมาให้กินตอนรอตรวจ
ผมคิดว่า 'ภาวะกตัญญูเฉียบพลัน' มันดีกว่า ' ภาวะไม่ใส่ใจเรื้อรัง' นะครับ
สวัสดีปีใหม่ไทยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น