10 กันยายน 2563

ไขปริศนา นางสีดาลุยไฟ

 ไขปริศนา นางสีดาลุยไฟ

ความเดิมตามท้องเรื่อง : หลังจากที่พระรามจัดทัพเรือทัพบกทัพอากาศ ขับเรือดำน้ำไปตะลุยมหานครลงกา ด้วยแสนยานุภาพของกองทัพพระรามที่จัดสรรงบประมาณเกือบหมดประเทศให้กับการทหาร ทำให้ได้รับชัยชนะในศึกนี้อย่างง่ายดาย

ปัญหามันอยู่ที่ว่า เงื่อนไขสงครามคือ นางสีดานั้นได้ไปพักอยู่ในเมืองลงกามานาน แม้ทศกัณฐ์จะลงทุนซื้อคอนโดหรู มีเครื่องอำนวยความสะดวกสารพัด พร้อมมีเวรยามเฝ้าตลอด กล้องวงจรปิดก็มี แต่ก็มิวายที่พระรามจะเกิดข้อสงสัย ว่านางไปกิ๊กกั๊กกับทศกัณฐ์บ้างหรือไม่ ก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์กันด้วยวิธีลุยไฟ ประมาณว่าหากนางสามารถเดินผ่านกองไฟระยะทางสิบห้าเมตรได้ ก็เป็นอันยืนยันความบริสุทธิ์

พระรามได้อัญเชิญเทวดาหน้าแดงหน้าดำ เพราะใจถลำติดล็อตเตอรี่ .. ไม่ใช่ล่ะ ได้อัญเชิญเทวดาและพระอินทร์มาเป็นสักขีพยาน สร้างเวทีใหญ่โต ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ

เรื่องมันก็เกิดตรงนี้แหละครับ หากนางสีดาลุยไฟไม่ผ่าน เรื่องมันก็ไปต่อไม่ได้ สงครามที่ผ่านมาก็จะดูโหดร้ายสำหรับผู้แพ้ เปรียบดั่งอเมริกากล่าวหาอิรักว่ามีนิวเคลียร์ แต่หาเจอนิวเคลียร์ไม่ พระอินทร์ในฐานะประธานในพิธีและกรรมการตัดสิน พระอินทร์ก็ไม่รอท่า ให้นายทหารคนสนิทถือจดหมายลับไปปรึกษาสุดยอดที่ปรึกษาของพระอินทร์ นักสืบชะล้อ ฮวง

เมื่อถึงวันตัดสิน พระรามยิงศรเพลิงโลกันตร์พลิกฟ้าสะท้านปฐพี ไปที่ลานเพลิง แล้วนางสีดาก็ถอดชาแนลคู่งามที่ถอยมาจากดิวตี้ฟรี แล้วเดินสบาย ๆ เฉิดฉายแถมเชิดใส่พระรามหนึ่งที บอกเป็นนัย ๆ ว่า หนูยังสดค่ะพี่
..

ย้อนกลับไปหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น ชะล้อ ฮวง ได้เตี๊ยมกับพระอินทร์ว่า
"ตกลงท่านจำกายวิภาคของทางเดินประสาทในสันหลังได้ใช่ไหม ที่ข้าสอนเมื่อวานน่ะ"
"จำได้ซี สมัยตอนข้าเป็นมนุษย์ ข้าได้เรียนวิชาประสาทกายวิภาคมาบ้าง" พระอินทร์ยืดอกตอบ

"เมื่อสักครู่ ข้าเห็นพระรามตรวจสอบระบบประสาทของนางสีดาด้วย เขาใช้ไม้จิ้มฟันปลายแหลม ทดสอบความรู้สึกเจ็บ ที่เรียกว่า pinprick test เพื่อตรวจสอบความเจ็บที่ผ่านอวัยวะรับสัมผัส ผ่านมาทางเส้นประสาท ขึ้นมาที่ปมประสาทไขสันหลัง ส่งเข้าตัวรับเซลล์รับสัมผัส แล้วเข้าสู่ไขสันหลัง" ชะล้อฮวง รายงาน


"ทำไมเราไม่ตัดเส้นประสาททุกเส้นที่รับสัมผัสเลยล่ะ" พระอินทร์ถาม

"ไม่ได้สิท่าน เพราะเส้นประสาทมันมีทั้งรับสัมผัสและส่งกระแสประสาทควบคุมกล้ามเนื้อ ถ้าตัดหมดถึงจะรับสัมผัสไม่ได้ก็เดินไม่ได้ หรือเราจะตัดไขสันหลังก็ไม่ได้ เพราะจะเหมือนวางยาสลบไขสันหลัง ไม่รู้สึกและขยับไม่ได้ พระรามจะจับไต๋ได้"

"แล้วเราจะทำอย่างไร" พระอินทร์ถามอีก

"เมื่อสักครู่ที่ข้าอธิบายว่าการรับสัมผัสเจ็บ มันมาตามเส้นประสาท แล้วแยกจากประสาทสั่งการ ไปส่งให้เซลล์ที่ชื่อ dorsal root ganglion แล้วส่งทางเดินประสาทพุ่งไปเป็นทางด่วนตรงไปสมอง นี่แหละ เราจะไปบล็อกทางเดินตรงนี้ ที่เรียกว่า spinothalamic tract" ชะล้อ ฮวง พ่นไม่หยุด

"เดี๋ยวสิ ต้องบล็อกทั้งเส้นเลยรึ ทุกระดับสันหลัง มนต์ข้าไม่พอหรอก" พระอินทร์แย้ง

"ไม่ต้องหรอกท่าน เวลาทางเดินประสาทมันเดินทางจากเท้าขึ้นไปสมองส่วนทาลามัส มันรวบเส้นประสาทจากล่างขึ้นบนไว้ด้วยกัน เวลาเสียหาย มันจึงบอกระดับได้ที่เรียกว่า sensory level อย่างนี้มเราตัดกระแสประสาทที่รับความรู้สึกที่เท้า บริเวณไขสันหลังส่วนเอว สักข้อที่ 4 เท่านี้ก็ชาไปทั้งหมด แต่ต้องตัด spinothalamic tract สองข้างนะ เพราะมันไขว้กันที่ระดับไขสันหลัง ก่อนส่งไปสมอง" ชะล้อ ฮวงเผยกล

"ข้าจำได้ว่าประสาทส่วนรับอุณหภูมิก็มาทางนี้ด้วย แต่ประสาทรับความความรู้สึกแบบเบา ๆ หรือรับรู้ตำแหน่งจะไปอีกทาง ที่เรียกว่า dorsal column pathway"

"ใช่แล้วท่าน ท่านใช้คาถาบล็อกตรงนี้ ชาดิกเลย ไม่ร้อนด้วย แต่ยังเดินได้ รับรองพระรามเชื่อสนิท" ชะล้อ ฮวงเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย

หลังจบพิธี สักขีพยานทุกคนโห่ร้องด้วยความดีใจ สื่อมวลชนทุกแขนงดีใจที่เรื่องราวดำเนินต่อไปได้เพราะจะได้เกาะติดข่าวพระรามและนางสีดา สร้างข่าวต่อไป จัดอีเว้นท์ขายข่าวได้อีก ซึ่งพระอินทร์ที่ถือลิขสิทธิ์สัมปทานช่องโทรทัศน์ก็จะได้กำไรเน้น ๆ พระอินทร์หันมาทางชะล้อ ฮวง ก็พบว่าเขาไม่อยู่เสียแล้ว และคราวนี้ไม่ได้ทิ้งที่อยู่ติดต่อไว้ด้วย

ข่าวลือว่าเขาแอบไปหาข่าว และทำงานสายลับเงียบ ๆ อยู่แถวพัทยา ในช่วงงานประชุมวิชาการอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยปีนี้...
....

บางครั้งอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ก็มาจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ สวัสดีความกาว

ในภาพอาจจะมี 1 คน, อยู่บนเวที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม