บอกเล่าเฉย ๆ
ไม่นานมานี้ ผมได้รับจดหมายส่งตัวผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลห่างไกลแห่งหนึ่ง
น้องหมอ (จะเรียกว่าน้องก็กระดากปากเหลือเกิน เพราะเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมห่างกันมาก) เขียนในจดหมายส่งตัวตอนหนึ่งว่า
trachea in midline
decrease breath sound left lower lung
decrease vocal resonance left lung
dullness on percussion lower half of left lung
น้องสรุปว่า น่าจะมี left pleural effusion ก่อนที่จะเขียนการสืบค้น และจึงได้ทำเอ็กซเรย์ ทั้งท่ายืนและตะแคง พบ left pleural effusion ตามที่คิดไว้จริง และได้ส่งมาเนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวบางอย่างที่เป็นข้อจำกัดการสืบค้นที่โรงพยาบาลขนาดเล็ก
อ่านแล้วก็ธรรมดาใช่ไหม ประวัติและตรวจร่างกายสงสัยโรคปอด เอ็กซเรย์ปอดพบความผิดปกติ แต่ลำดับการเขียนที่น้องเขาเขียนมา จากประวัติสงสัยอะไร ตรวจร่างกายได้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อมายืนยันหรือเห็นแย้งจากประวัตินั้น รวมถึงได้ข้อมูลใหม่ ๆ อะไรให้คิดถึงโรคอื่นเพิ่ม
แล้วจึงส่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันสิ่งที่ได้จากประวัติและการตรวจร่างกาย น้องเขาส่งฟิล์มทั้งท่ายืนและท่าตะแคง ตัวเลขเวลาของการถ่ายฟิล์มเป็นเวลาเดียวกัน แสดงว่าน่าจะคิดถึงน้ำในเยื่อหุ้มปอดไว้แต่แรก และส่งการตรวจที่สามารถยืนยันหรือเห็นแย้งได้แต่แรก แสดงว่าคิดไว้ก่อนจะส่งแน่นอน
นี่คือลำดับและวิธีคิดตามแบบของการวินิจฉัยทางการแพทย์ครับ ไม่ว่าจะหมอจบใหม่ หรือหมอรุ่นใกล้เกษียณอย่างผมก็ตามที
เทคโนโลยีและการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ใช้เพื่อช่วยการวินิจฉัยทางคลินิกจากประวัติและตรวจร่างกายเสมอนะครับ
ผู้ป่วยหลายคนอาจจะไม่พึงพอใจที่ทำไมไม่ตรวจพิเศษแบบนี้นู้นนั้น ก็ต้องบอกว่า วิธีการวินิจฉัยมันไม่ได้เริ่มจากการตรวจพิเศษนั่นเอง หากจำเป็นและช่วยในการวินิจฉัยและรักษาจึงส่งตรวจเพิ่มเติมครับ
อยากเขียนจดหมายกลับไปเหลือเกิน... น้องสนใจเรียนอายุรศาสตร์ไหมครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น