Wood กับ อายุรศาสตร์
ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงเวลาที่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์โตขึ้นแบบก้าวกระโดด นักวิทยาศาสตร์ลือชื่อในตำนานเกิดและมีชื่อในยุคนี้ นีล โบร์, อัลเบิร์ต ไอนสไตน์, อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง และหลาย ๆ ความรู้ที่เกิดขึ้นได้เข้ามาประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์
จากการศึกษาเรื่องแสงในวิชาฟิสิกส์ ทำให้เราทราบว่ายังมี "แสง" ที่เรามองไม่เห็น คือย่านความถี่แสง ย่านความยาวคลื่นที่เหนือกว่าที่สายตามนุษย์จะเป็นได้ แบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ อัลตร้าไวโอเลต และ อินฟราเรด แต่การนำแสงดังกล่าวมาใช้ยังเป็นปัญหาเพราะยังไม่มีวิธีกรองเอาแสงที่ต้องการมาใช้
เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของนักฟิสิกส์ระดับท็อปของอเมริกา Robert Williams Wood
คุณวู้ดเกิดและโตที่อเมริกา เข้ารับการศึกษาวิชาฟิสิกส์จากฮาร์เวิร์ดและ MIT ใช่แล้ว MIT ที่โด่งดังเรื่องเทคโนโลยีนั่นแหละ หลังจากนั้นไปหาประสบการณ์การทำงานที่เยอรมัน ตอนนั้นวิชาแสงได้รับความสนใจมาก เมื่อวู้ดกลับมาที่อเมริกา เข้ามาทำงานที่จอห์น ฮอปสกินส์ ที่นี่เขาได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ขึ้นมาคือ optical filter glass
เป็นฟิลเตอร์ที่สามารถกรองแสงให้เหลือเพียงแสงอัลตราไวโลเลตหรืออินฟราเรดเท่านั้นให้ลอดออกมา ด้วยเครื่องมือนี้ทำให้วูดได้ค้นพบหลายสิ่งที่ตามนุษย์มองไม่เห็น โดยเฉพาะวัตถุที่เรืองแสงอัลตร้าไวโอเลต ยามอยู่ในที่มืด อย่างที่เราเคยเข้าไปเล่นในห้องมืดแล้วมีแสงเรืองออกจากตัว หรือเสื้อผ้า วูดใช้ถ่ายภาพรังสีอัลตร้าไวโอเลต และมีแนวคิดจะใช้เพื่อส่งจดหมายล่องหนที่ต้องใช้แสงอัลตร้าไวโลเลตในการมองเท่านั้น เพื่อใช้ในการสงคราม
แถมยังคิดหลอดไฟที่เคลือบฟิลเตอร์เพื่อผลิตแสง UV เอามาใช้ในงานต่าง ๆ ที่เราเรียกว่า หลอดแบล็กไลท์ ก็คือ หลอดไส้ หลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดแอลอีดีที่เคลือบสารฟิลเตอร์ ส่งออกมาแต่ UV ทำให้เกิดการใช้งานแสง UV กันอย่างแพร่หลาย
เราจึงเรียกแสงอัลตร้าไวโอเลตว่า Wood's Light และเรียกอุปกรณ์ส่องแสงอัลตร้าไวโอเลตนี้ว่า Wood's Lamp
Wood's Lamp นำมาใช้ทางการแพทย์หลายอย่าง เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคที่ใช้ตามนุษย์มองไม่เห็น
▪การวินิจฉัยโรคติดเชื้อราที่หนังศีรษะและเส้นผม
▪การวินิจฉัยโรคเมตาบอลิซึมของร่างกายที่ผิดปกติ Porphyria Cutaneous Tarda จะส่องเห็นสาร porphyria ที่มาสะสมที่ผิวหนัง
▪โรคของเม็ดสีที่ผิดปกติ เช่น vitiligo, melasma (บางเม็ดสีก็ไม่สามารถเห็นด้วยตามนุษย์)
▪วินิจฉัย erytherasma จากการติดเชื้อ corynbacteria ที่ผิวหนัง
▪ส่องหาสารเรืองแสงในปัสสาวะ หากสงสัยว่ากินสาร ethylene glycol ที่จะผสมสารเรืองแสงเอาไว้ในการตรวจหาพิษจากสารชนิดนี้
สีและภาพใต้แสง UV จะไม่เหมือนกับแสงขาวที่เรามองเห็นด้วยตา และคุณหมอที่ใช้แสง UV จะต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องดวงตาเวลาใช้อุปกรณ์ เพราะแสง UV ไม่เห็นด้วยตาเปล่า จึงอาจสัมผัสแสงเกินขนาดได้
เราจึงท่องสูตรการวินิจฉัยการติดเชื้อกลากที่ศีรษะ ว่าวินิจฉัยโดยการใช้ Wood's lamp examination ซึ่งก็คือการส่องเชื้อราที่ตาเปล่ามองไม่เห็นด้วยแสง UV นั่นเอง
ดังคำคมอมตะที่ว่า
"บางสิ่งมองเห็นด้วยดวงตา แต่เสน่หาจะมองเห็นด้วยดวงใจ"
คำคมจากลุงหมอ นายกสมาคมมุกเสี่ยว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น