วันนี้ได้มาเรียนรู้ในศาสตร์วิชาสำคัญอีกวิชาหนึ่ง
โดยปรกติสาขางานที่ผมทำงานคือ การกู้ชีวิต การดูแลภาวะวิกฤตให้อยู่รอดให้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมขาดไปนานเลยนะคือ รักษารอดแล้วอย่างไรต่อ หรือ ถ้าการพยากรณ์โรคไม่ดีล่ะ จะทำอย่างไร
บางครั้งการตั้งเป้าเพื่อให้หาย "cure" จากโรคอาจไม่ใช่คำตอบ
ในบางโรคหรือบางระยะของโรคที่ไม่สามารถหายได้ หรือการพยากรณ์โรคแย่มาก การรักษาด้วยวิธีมาตรฐานให้หายจึงไม่สามารถใช้ได้ จำเป็นต้องใช้การรักษาแบบประคับประคอง (palliative treatment) เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่เหลือที่ดี ไม่เจ็บปวด จิตใจไม่ห่อเหี่ยว พร้อมรับมือกับอันตรายหรือความตายที่จะเกิด และแน่นอนไม่ใข่แค่คนไข้อย่างเดียว
ทีมแพทย์ พยาบาล นักกายภาพ นักสังคมสงเคราะห์ ผู้ดูแลผู้ป่วย ญาติและลูกหลาน ต้องมีความเข้าใจและร่วมรักษาไปในทิศทางเดียวกัน จะทำให้ผู้ป่วยและญาติไม่ทุกข์ทรมาน แต่การรักษาแบบนี้เป็นเรื่องราวที่หมอและพยาบาลอาจจะไม่เคยเรียนมาเลย เพราะมุ่งรักษาให้หายเป็นหลักตั้งแต่เข้าเรียนจนจบ
เราจะปรับมุมมองอย่างไร เราจะมีวิธีคิดแบบใด ให้ทีมและคนไข้เข้าใจไปด้วยกัน
หนังสือเล่มนี้ได้เขียนขึ้นมาโดยการยกตัวอย่างสถานการณ์ต่าง ๆ ของโรคและสิ่งแวดล้อมที่ทุกคนต้องประสบ และเมื่อเข้าสู่ระยะท้ายจะจัดการอย่างไร มีตัวละครที่ยกมาเป็นแพทย์ประจำบ้านสาขามรณเวชกรรม พยาบาลประจำหน่วย (ชอบมาก ชื่อ ปราพิกา ฉายา ปาปริก้า) อาจารย์ประจำหน่วย ที่มาช่วยสอนแพทย์ประจำบ้านปีหนึ่งที่เพิ่งมาเรียนในสาขา paliative care นี้ ให้เป็นผู้ที่เข้าใจในวิถีการประคับประคอง เรียกว่า เราก็เรียนไปด้วยกันกับคุณหมอโอบนที ตัวเอกของเรื่อง
ฉากละครผ่านการพูด การเสียดสีจากหมอแผนกอื่น การถูกว่ากล่าวจากญาติ การต่อสู้กับความรู้สึกตัวเอง การจัดการกับอาการป่วยของผู้ป่วย เราจะได้เรียนรู้ไปทีละบท และจบบทจะมีสรุปมาเป็นเนื้อหาวิชาการด้วย เป็นการเรียนแบบยกตัวอย่างและสรุปให้เข้าใจ
แน่นอนว่าฉากละครจะมีเรื่องลึกลับ เหนือธรรมชาติเล็กน้อยเพราะทำงานกับความรู้สึกและความตาย ผู้เขียนย่อมอยากให้เข้าใจในมุมมองอื่น ๆ ที่ต้องยกตัวอย่างเชิงนามธรรมให้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ได้น่ากลัว ตุ้งแช่นะครับ แต่เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นใจและช่วยให้เราเข้าใจการรับมือความตายดีขึ้นครับ ขอบอกว่าตอนจบเรื่องมีเซอร์ไพรส์หักมุมอีกต่างหาก
หนังสือเรื่อง "มรณเวชกรรม" โดยศูนย์บริรักษ์ ศิริราช รวบรวมเรื่องราวจากบุคลากรต่าง ๆ ที่ช่วยกันร้อยเรียงเรื่องเล่าให้เราฟัง รวบรวมโดยบรรณาธิการคนเก่ง นพ.ภิญโญ ศรีวีระชัย หนังสือขนาดเอห้า 178 หน้า กระดาษสีซีเปีย สบายตา ราคา 189 บาท โดยที่รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะใช้เพื่อการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายของศูนย์บริรักษ์ ศิริราช เรียกว่าได้อ่านของดี ได้พักทบทวนจิตใจ และได้ส่งเงินช่วยผู้ป่วยด้วยครับ
ท่านสามารถติดต่อสั่งซื้อหนังสือได้ที่หน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจ Siriraj Palliative Care Center ครับ และติดตามเรื่องราวของการแพทย์ประคับประคองจากเพจนี้ได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น