กับคำถามที่ว่าทำไมเราไม่ใช้ยาใหม่ไปเทียบกับไม่ใช้ยาหรือใช้ยาหลอกเลยล่ะ ทำไมต้องออกแบบเป็น ใช้การรักษาเดิม กับใช้การรักษาเดิมบวกกับยาใหม่
ในอดีตนั้น เมื่อเรายังไม่มีการรักษาใดที่เป็นมาตรฐาน เราจะออกแบบการทดลองเทียบระหว่างยาใหม่ กับ ไม่ใช้ยาใดเลยก็ได้ เพราะว่าเรายังไม่มีข้อมูลว่ารักษาอย่างใด และการมียาหลอกเทียบจะทำให้เรารู้ว่าผลการรักษานั้น มันเกิดจากยาใหม่ ไม่ใช่เกิดโดยบังเอิญ หรือ เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ยาใหม่
เมื่อมีการศึกษาว่าโรคนี้ใช้ยานี้รักษานะ เป็นการศึกษาที่ดีและยอมรับจนออกมาเป็นข้อกำหนดการรักษาโรค ต่อไปหากมีใครคิดยาใหม่ออกมา จะไปเทียบยาใหม่กับไม่ใช่ยา ไม่ได้อีกแล้ว เพราะมันมีการรักษาแล้วไงครับ หากจะไปเทียบระหว่างการใช้ยาใหม่กับไม่ใช้ยาเลย มันจะไม่เป็นธรรมกับผู้ป่วยที่มาเข้าการศึกษา
ทุกครั้งที่มีการศึกษาแบบนี้ออกมาเราจะพบข้อเท็จจริงอันหนึ่งคือ กลุ่มควบคุมที่ใช้การรักษามาตรฐานจะมีผลการรักษาระดับหนึ่ง ส่วนยาใหม่จะดีกว่าหรือแย่กว่าหรือเสมอตัวเป็นประเด็นที่ว่ากันตามผล ข้อเท็จจริงที่ว่าคือ ก่อนที่เราจะใช้ยาใหม่ เราได้ทำตามมาตรฐานการรักษาของกลุ่มควบคุมได้หรือยัง
เช่นก่อนเรื่มศึกษาทั้งสองกลุ่มมีระดับน้ำตาลเฉลี่ยที่ 7.5% กลุ่มควบคุมใช้การรักษาเบาหวานแบบมาตรฐาน ระดับน้ำตาลเฉลี่ยหลังรักษาคือ 7.0% ส่วนกลุ่มที่ใช้ยาใหม่เพิ่มเข้าไป ระดับน้ำตาลเฉลี่ยหลังรักษาคือ 6.7% เราจะมองเห็นว่ายาใหม่ลดน้ำตาลได้เพิ่มกว่าการรักษาเดิมจริงไหม
แต่คำถามคือ เราได้ทำการรักษาของเราให้เป็นมาตรฐานแล้วหรือยัง ก่อนจะใช้ยาใหม่ ไม่ใช่ว่าการรักษามาตรฐานของเราก็ยังไม่ดี เริ่มต้นที่น้ำตาลเฉลี่ย 10% แล้วจะมาหวังผลการรักษาตามการศึกษามันย่อมไม่ได้เช่นกัน
เคลียร์ที่บ้านให้เรียบร้อยก่อนไปสรรหาสิ่งใหม่นอกบ้านนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น