ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา นักเตะสโมสรเชลซีที่โชเซ่ มูรินโญ่ ซื้อมาร่วมทัพสมัยที่คุมเชลซีสมัยแรก ดร็อกบาเป็นนักเตะกองหน้าที่ครบเครื่อง พลัง การเข้าทำ ความกระหาย เรียกว่า 38.5 ล้านปอนด์ที่จ่ายให้โอลิมปิก มาร์กเซย์ คุ้มค่าทุกปอนด์ ดร็อกบามีชื่อเสียงจากลีกเบลเยี่ยมมากก่อน ลีกที่นักเตะแอฟริกามักเริ่มเข้ามาค้าแข้ง
....ดร็อกบาก็เป็นหนึ่งในนั้น จากเมืองที่เขาจากมา ไอเวอรี่โคสต์ (Cote d' Ivory) ประเทศชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา
ชายฝั่งตะวันตกแอฟริกา เป็นเส้นทางเดินเรือในยุคล่าอาณานิคมของยุโรป เมื่อผ่านช่องแคบยิบรอลต้าออกมา มุ่งสู่แอตแลนติก ไล่ลงมาตามขอบชายฝั่ง คลื่นลมแรงทำให้กองเรือต้องเข้ามาพักและหาสินค้าไปแลกเปลี่ยน จุดมุ่งหมายคือหมู่เกาะอีสต์อินเดีย อินโดนีเซียในปัจจุบัน
...หนึ่งในประเทศจุดนัดพัก คือ ไอเวอรี่โคสต์ ประเทศที่มีชื่อจากงาช้าง
เดิมทีนั้นสินค้าของไอเวอรี่โคสต์คือพริกไทยและทองคำ แต่เมื่อการค้าทาสเป็นที่นิยมในต้นศตวรรษที่สิบหก โดยเฉพาะการค้าทาสไปที่อเมริกา ทำให้ดินแดนชายฝั่งตะวันตกนี้กลายเป๋นดินแดนค้าทาส ไล่ตลอดชายฝั่งแอตแลนติกของแอฟริกา ประเทศไอเวอรีโคสต์ก็มีการค้าทาสเช่นกัน จนกระทั่ง
...กฎหมายควบคุมการค้าทาสเริ่มใช้ในฝั่งยุโรป และ การลักลอบขนคนทำได้ยาก
ไอเวอรี่โคสต์เริ่มส่งออก แลกเปลี่ยนงาช้าง ทรัพยากรที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตสัตว์ มีชาวยุโรปจำนวนมากมาล่าสัตว์และตั้งรกรากที่นี่ ทำการส่งออกงาช้าง จนตัวเองร่ำรวย แต่ช่วงชิงทรัพยากรไปจากแอฟริกา สินค้างาช้างถือว่าหรูหรา หายาก ราคาแพง เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาในสังคม
...และนั่นรวมถึงสังคมหนึ่งด้วย คือ สังคมผู้เล่นบิลเลียดในยุโรป
กีฬาบิลเลียด เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยอุปกรณ์ที่หายากยิ่งคือลูกบิลเลียด สมัยเดิมนั้น ทำจากไม้เนื้อแข็งที่นำมาขัดให้กลม ที่ราคาแพงและยังมีปัญหาเรื่องความเสื่อมของเนื้อไม้ คุณภาพที่แปรปรวน เมื่องาช้างเข้ามาแพร่หลายในยุโรป มีคนนำงาช้างมาทำเป็นลูกบิลเลียด งาช้างทนทาน หรูหรา งดงาม แต่แพงระยับ นั่นคือคนเข้าถึงน้อยมาก และยิ่งนานไป ก็หาวัสดุยากขึ้น
...คนที่เดือดร้อนมากคือ คนที่ทำโต๊ะบิลเลียด Phelan และ Collender ในปี 1869
เขาทั้งคู่จึงประกาศหาคนที่สามารถคิดลูกบิลเลียดที่ทำจากวัสดุอื่นนอกจากงาช้าง พร้อมตั้งเงินรางวัล 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐ พร้อมสัญญาการผลิตและสิทธิบัตร มีนักประดิษฐ์และนักเคมีมากมายมาสมัคร แต่รางวัลชนะเลิศตกเป็นของ John Wesley Hyatte นักประดิษฐ์ชาวนิวยอร์ก ใช้อำพัน รวมกับ แอลกอฮอล์และ ไนโตรเซลลูโลส อัดภายใต้แรงดันออกมาเป็นรูปกลม ถือเป็นบิลเลียดสังเคราะห์ที่ทำจากพลาสติกในยุคแรก และสิ่งค้นพบนี้ถือเป็นต้นธารการค้นพบพลาสติก
...แต่ก็ยังไม่ถึงที่สุด เมื่อลูกบอลของไฮแอตเกิดระเบิดในการแข่งขัน
ฟีแลนได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปพัฒนาพลาสติกเรซิ่นและอะครีลิก จนสามารถทำลูกบิลเลียดที่แข็งและทนทาน ไม่ระเบิด เป็นต้นกำเนิดมาตรฐานลูกบิลเลียดปัจจุบัน ส่วนไฮแอต ก็ไปพัฒนาเรซิ่นเพื่อเข้าสู่ธุรกิจฟันปลอมต่อไป
จะเห็นว่าต้นกำเนิดของพลาสติก มาจากเจตนารมย์ที่จะชดเชยของสิ้นเปลืองในธรรมชาติ แต่เมื่อเราเข้าสู่ยุคทุนนิยม เข้าสู่ยุคประชากรมหาศาล ปริมาณพลาสติกที่ใช้ไม่คุ้มค่ากับก่อปัญหา แม้ว่าการลดใช้งานจะเป็นมาตรการที่ดี แต่ของให้ระลึกว่ามาตรการที่สำคัญมีสามประการ
*** ลดการใช้ reduce ก็หาวัสดุธรรมชาติ ลดการใช้งาน ปริมาณโดยรวมมันก็ลดลง
*** ใช้ซ้ำ reuse อย่าเพิ่งทิ้ง พลาสติกมันทน ใข้ได้หลายครั้ง จะไม่ใช้กระดาษหรือผ้าก็ได้นะ แต่พลาสติกที่มีต้องใช้ให้คุ้มที่สุด
*** นำกลับมาใช้ซ้ำ recycle ใช้วัสดุที่กลับมาใช้ซ้ำได้ แยกขยะ สนับสนุนผลิตภัณฑ์รีไซเคิล ทั่งพวกเราและจากภาครัฐ
ถ้าเรามี mindset การช่วยโลก ไม่ต้องมาเถียงว่าลดถุงพลาสติกมันดีจริงไหม ทำหน้าที่ 3R ของเราให้ดีที่สุดก็พอ หรือจะปล่อยให้ลูกหลานเราอยู่กับกองขยะพลาสติกเล่า ?
รักเรา รักโลก รักลุงหมอ (พักนี้ใคร ๆ ก็ไม่รัก) ช่วยกันคนละมือนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น