เมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำ !!
คุณ ๆ เคยมีอาการหิว หวิว กริ้ว ช่วงใกล้เที่ยงไหม น้ำตาลในตัวคุณเริ่มต่ำ สัญชาตญานในการอยู่รอดเริ่มเรียกร้อง คุณเริ่มกระสับกระส่ายมองหาอาหาร มองหาเพื่อนกินอาหาร เล็งร้านอาหาร รีบไปร้านอาหาร และคิดอะไรไม่ออกเพราะอยากกินอาหาร มันจะไปจบที่กะเพราไก่ไข่ดาวราดข้าวแน่นอน
ร่างกายคนเรามีปฏิกิริยาเพื่อการอยู่รอด สามารถผลิตน้ำตาลออกมาในช่วงที่อาหารที่เรากินเข้าไปใช้หมดแล้ว เหมือนเงินเดือนคุณตอนนี้ ถ้าคุณวางแผนดีมีสำรอง ก็เอาเงินมาซื้อข้าว เปรียบเหมือนร่างกายที่แข็งแรงดีไม่มีโรค ถึงแม้น้ำตาลในเลือดหมด เงินหมด ร่างกายจะใช้ระบบที่เรียกว่า counter-regulatory system มาแก้ไข หลั่งฮอร์โมนและระบบประสาททำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
ข้อแรก .. อาการทางระบบประสาท เมื่อน้ำตาลต่ำ สมองจะเริ่มรวน ครับสมองเรากินน้ำตาล ไม่ได้กินข่าวไร้สาระทางโซเชียล เริ่มมีอาการเบลอ ๆ ซึม ๆ บางคนรุนแรงเริ่มสับสน กระสับกระส่าย คนที่ต่ำมาก ๆ เร็ว ๆ อาจจะชักหรือหมดสติได้เลย
ข้อสอง .. ร่างกายยอมไหม ไม่ยอม สมองจึงสั่งระบบประสาทซิมพาเธติกให้ทำงานเพิ่ม ไปกระตุ้นการสร้างน้ำตาลที่เนื้อเยื่อไขมันและกล้ามเนื้อ ก็ดูดีนะ แต่ระบบประสาทนี้มันทำให้ ใจสั่น เหงื่อแตก มือสั่นน่ะสิ
ข้อสาม .. ระบบประสาทซิมพาเธติกไปออกคำสั่งให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมน อะดรีนาลีน ไปเพิ่มการสร้างน้ำตาลที่ตับ ไต กล้ามเนื้อ คุ้น ๆ ไหม อะดรีนาลีนคือฮอร์โมนแห่งการกระตุ้น ก็ยิ่งใจสั่น เหงื่อแตก ตาลาย (ม่านตาขยาย)
อาการทั้งหมดนี้รียกว่า neuroglycopenic symptoms (อย่าลืมนะ อ่านว่า ซิ้มถ่อม)
ถ้าร่างกายเราแข็งแรงดี มันก็จะทำหน้าที่พอแค่ให้เราไปหาข้าวกินได้เมื่อมีอาหาร ระบบทั้งหลายนี้ก็หยุดทำงาน อินซูลินมาทำหน้าที่แทน แต่ถ้าเราป่วยหนัก ตับวาย ไตวาย หรือได้รับยาที่ทำให้น้ำตาลต่ำ เช่น ยาฉีดอินซูลิน ยากินเบาหวานชนิด gli.... ต่าง ๆ จะทำให้อาการเหล่านี้รุนแรงมาก เพราะมันมีอินซูลินมาดึงน้ำตาลในเลือดให้ต่ำลงตลอดเวลา ถ้าเติมอาหารไม่ทัน ไม่สมดุลจะแย่เลย
คนไข้ที่ฉีดอินซูลินจึงควรมีเครื่องตรวจน้ำตาลทุกคน
คนไข้ที่ฉีดอินซูลินจึงควรมีเครื่องตรวจน้ำตาลทุกคน
แต่อาการเหล่านี้ก็ไม่ได้เกิดจากน้ำตาลต่ำเท่านั้น อะไรที่มากระตุ้นระบบประสาทก็สามารถทำให้เกิดได้เช่นกัน เช่น เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต มันดันหลั่งอะดรีนาลีนมากเกินไปนี่สิ หรือเวลากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ระบบประสาทถูกกระตุ้นมากก็มีอาการแบบนี้ ดังนั้นเราต้องพิสูจน์ว่าเกิดจากน้ำตาลต่ำจริง ทำอย่างไร ?? ..เจาะเลือดไง
เราจะเจาะเลือดปลายนิ้วก่อน ถ้าน้ำตาลต่ำและมีอาการข้างต้นก็ใช่แน่ ในตำราบอกแบบนี้ แต่เกณฑ์ที่ใช้วินิจฉัย ต้องใช้การตรวจเลือดจากหลอดเลือดดำนะครับ ตัวเลขที่ 54,55,60 ประมาณนี้
ด้วยความที่ส่วนมากเราจะไม่รอใช่ไหม หิวก็กินและจัดไป อาการหายไป น้ำตาลในเลือดเพิ่ม ก็วินิจฉัยไม่ได้สักที ประวัติอาการข้างต้นและกินอาหารแล้วดีขึ้นก็มีความสำคัญ !!!
ด้วยความที่ส่วนมากเราจะไม่รอใช่ไหม หิวก็กินและจัดไป อาการหายไป น้ำตาลในเลือดเพิ่ม ก็วินิจฉัยไม่ได้สักที ประวัติอาการข้างต้นและกินอาหารแล้วดีขึ้นก็มีความสำคัญ !!!
กินอาหารแล้วดีขึ้น .. ข้อนี้สำคัญนะ เพราะถ้าเราใส่น้ำตาลเข้าไปในตัวไม่ว่าจะกินหรือฉีดแล้วไม่ดีขึ้น ก็ไม่คิดถึงอาการน้ำตาลต่ำ หรืออาจมีน้ำตาลต่ำร่วมกับสาเหตุอื่น เพราะเกณฑ์ที่ใช้วินิจฉัยคือ เมื่อเพิ่มน้ำตาลจนเข้าสู่ระดับปรกติแล้วอาการต้องดีขึ้น จะใช้วิธีกินหรือฉีดก็ได้อาการต้องดีขึ้นพร้อมกับระดับน้ำตาลต้องสูงขึ้น
เรานับสามสิ่งข้างต้น หนึ่ง..อาการของน้ำตาลต่ำ สอง..ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ สาม..เมื่อแก้ไขจนระดับน้ำตาลปรกติแล้วอาการดีขึ้น เราเรียกสามข้อนี้ว่า Whipple's triad ใช้ในการวินิจฉัยอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ จะจากสาเหตุใดก็ตาม ในคนเป็นเบาหวานส่วนมากเกิดจากยา ในคนที่ไม่เป็นเบาหวานอาจต้องระวังหลายสาเหตุ หนึ่งในนั่นคือ ก้อนเนื้องอกที่หลั่งอินซูลิน (insulinoma ที่ตับอ่อน เหมือนเราฉีดอินซูลินมาก ๆ เข้าตัวนั่นแหละ แต่นี่คือก้อนมันหลั่งอินซูลินโดยไม่สนใจระดับน้ำตาลในเลือดเลย)
คุณหมอผ่าตัด Allen Oldfather Whipple ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน พบว่าคนไข้ที่มีอาการน้ำตาลต่ำแบบนี้ (ปี 1935 สมัยนั้นไม่มีอินซูลินฉีด) มีก้อนที่ตับอ่อน เมื่อตัดตับอ่อนแล้วอาการหายไป คุณหมอได้สร้างเกณฑ์การวินิจฉัย Whipple's triad และเรียกการผ่าตัดที่คุณหมอทำว่า Whipple's operation
คุณหมอผ่าตัด Allen Oldfather Whipple ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน พบว่าคนไข้ที่มีอาการน้ำตาลต่ำแบบนี้ (ปี 1935 สมัยนั้นไม่มีอินซูลินฉีด) มีก้อนที่ตับอ่อน เมื่อตัดตับอ่อนแล้วอาการหายไป คุณหมอได้สร้างเกณฑ์การวินิจฉัย Whipple's triad และเรียกการผ่าตัดที่คุณหมอทำว่า Whipple's operation
เอาล่ะ..คงหิวข้าวแล้วสินะ กะเพราไก่ไข่ดาวราดข้าวสวยร้อน ๆ เหยาะน้ำปลาพริกหอม ๆ ควันฉุย ๆ กำลังรอทุกคนอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น