มีข่าวว่าชายคนหนึ่งกินยา sildenafil เกินขนาดทำให้เกิดการมองเห็นที่ผิดปกติ
ยา sildenafil หรือที่นิยมเรียกชื่อทางการค้าว่า ไวอะกร้า นั้น ปัจจุบันใช้เป็นยาช่วยเพิ่มการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ในคนที่มีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวพอจะมีความสุขทางเพศ และใช้เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตในปอดสูง ขนาดที่ใช้คือ 25-50 มิลลิกรัมต่อครั้ง แต่อาจใช้สูงกว่านี้ในการรักษาความดันโลหิตปอดครับ ข้อควรระวังอันหนึ่งคืออันตรกิริยาระหว่างยา โดยเฉพาะกับกลุ่มยาไนเตรตจะเกิดความดันโลหิตต่ำลงจนเกิดอันตรายได้
ผลข้างเคียงที่เกิดกับการมองเห็น เกิดที่จอรับภาพโดยตรง เพราะยาสามารถข้ามไปยับยั้ง PDE-6 ได้ด้วย (ตัวยาเป็น PDE-5) ทำให้การมองเห็นสีผิดปกติ เป็นผลข้างเคียงชั่วคราวที่อาจเกิดได้แม้ในยาขยาดต่ำ ๆ ซึ่งเกิดน้อยมากไม่เกิน 3% ในการใช้ยาขนาดปรกติ แต่ถ้าหากใช้ยาขนาดสูงก็จะมีโอกาสเกิดมากขึ้น โดยเฉพาะหากเกิน 600 มิลลิกรัมจะเกิดเกือบทุกราย
สิ่งที่เกิดในข่าวคือ ชายอายุ 31 ปีคนนี้ (ไม่รู้ว่าใช้ตามข้อบ่งชี้หรือไม่ อายุไม่มากไม่น่าเสื่อม) ใช้ยา sildenafil แบบน้ำนะครับ เอามาผสมสัดส่วนเอาเองด้วย เรียกว่าเป็นการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมเลย ซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตในขนาดความเข้มข้น 50 มิลลิกรัมต่อซีซี และกินเข้าไปมากทีเดียว ทำให้เกิดการทำลายเซลล์รับภาพที่จอประสาทตา เกิด photopsia คือเห็นแสงแปลบปลาบ และ erythropsia คือการมองเห็นสีแดงมากกว่าปรกติครับ ได้รับการยืนยันจากการศึกษาและรักษาเรียบร้อยแล้ว แต่ผ่านมาหนึ่งปี อาการยังไม่หายไป
ดังนั้นการใช้ยา sildenafil หรือ viagra ในขนาดปกติตามที่แนะนำ ตรวจสอบปฏิกิริยาระหว่างยาก่อนใช้ จะทำให้ใช้ยาอย่างปลอดภัยและมีความสุขทางเพศเหมือนเดิมครับ ส่วนท่านใดที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตในปอดสูงคุณหมอจะตรวจสอบให้อยู่แล้วครับ
จากที่มาแหล่งข่าว...
Retinal Cases and Brief Reports: October 2018 - Volume 12 - Issue - p S33–S40
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น