ติดเชื้อแบบไม่ได้ตั้งใจ ครับ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังเรื่องการป้องกันการติดชื้อ HIV ในกรณีสัมผัสโรคหรือเสี่ยงไปแล้ว
โดยทั่วไปจะกล่าวกันมากๆอยู่สองหัวข้อคือ การถูกเข็มทิ่มเข็มตำของเจ้าหน้าที่การแพทย์ (หมอนี่แหละ โดนบ่อย)และอีกกรณีคือ การถูกละเมิดทางเพศ การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน คือ ไม่สวมถุงยางนั่นเอง จริงๆแล้วก็ยังมีหัวข้อย่อยๆอีกนะครับไม่ว่าจะเป็นการถูกกัด การเจาะผิวหนังใส่สายใส่ห่วงต่างๆ แต่วันนี้จะมาเล่าเกี่ยวกับการสัมผัสทางเพศ สำหรับบ้านเรานั้นกลุ่มเสี่ยงมากๆ #จะเป็นกลุ่มชายรักชายที่มีการร่วมเพศทางทวารหนัก ตามมาด้วยกลุ่มบริการทางเพศ แต่สองกลุ่มนี้ก็จะเป็นการมีเพศสัมพันธ์แบบสมัครใจเป็นส่วนมาก ส่วนการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สมัครใจมักจะมีความรุนแรงมากกว่าแบบสมัครใจ การบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อบุอวัยวะเพศจะมากกว่าแบบสมัครใจ โอกาสติดเชื้อจึงมากกว่า การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักนั้นก็จะมีการบาดเจ็บรุนแรงมากกว่าทางช่องคลอดครับ
จากแนวทางการตรวจและวินิจฉัยผู้ป่วยเอดส์ 2553 ได้แจกแจงความเสี่ยงและคำแนะนำการให้ยาต้านไวรัสเอาไว้ ใครสนใจไปอ่านเพิ่มเติมได้ครับ ผมจะมาสรุปคร่าวๆครับ
อย่างแรกถ้าคนที่คุณมีเพศสัมพันธ์ด้วยนั้นเป็นผู้ติดเชื้อ การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักนั้นเสี่ยงมาก แนะนำกินยาครับทั้งผู้สอดและผู้รับ และถ้าถูกข่มขืนไม่ว่าทางทวารหนักหรือทางช่องคลอด ความรุนแรงจะมากครับแนะนำกินยาครับ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์แบบหญิง-หญิงหรือ การมีเพศสัมพันธ์ทางปากที่ไม่ได้มีการหลั่ง จะไม่ได้แนะนำให้กินยาครับ
อย่างที่สอง คนที่คุณมีเพศสัมพันธ์ด้วยนั้น ไม่ทราบว่าติดเชื้อหรือไม่แต่คิดว่าคนๆนั้นเสี่ยงสูง ผู้ถูกข่มขืนก็จะอยู่ในกลุ่มนี้เสียมากครับ จะพิจารณาให้ยาในกลุ่มเสี่ยงสูง คือ การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักทั้งคนสอดและคนรับ ส่วนถ้าถูกข่มขืนแนะนำกินยาทั้งถูกข่มขืนทางทวารหนักและช่องคลอดและถูกข่มขืนทางปากในกรณีมีการหลั่งในปาก
อย่างที่สาม คล้ายๆกับกรณีที่สองแต่ว่าคนๆนั้นความเสี่ยงต่ำ ก็ไม่ได้มีข้อแนะนำต้องกินยาที่ชัดเจนนะครับ
ส่วนกรณีที่ไม่ได้กล่าวว่าแนะนำนั้น ให้พิจารณาคุยกับหมอเป็นรายๆไป และอย่าลืมการตรวจและพิจารณาให้ยาไวรัสตับอักเสบ การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ด้วยนะครับ
ส่วนปัจจุบันนี้แนะนำการใช้ยาสามตัวร่วมกันในการป้องกันโรค HIV หลังจากสัมผัสเชื้อแล้ว บางคำแนะนำก็ยังใช้ยาสองตัว ในส่วนตัวผมคิดว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ HIV แอบแฝงอยู่มากครับ
คิดว่ายังเป็นประเทศเสี่ยงสูงควรกินยาสามตัวครับ การเลือกยาอะไรนั้นมีแนวทางการเลือกใช้มาก ทั้งจากภาวะโรค ยาเดิมที่กิน โรคประจำตัว ราคายาที่ใช้ และควรติดตามการรักษากับแพทย์ต่อเนื่องครับ
ควรเข้ารับการปรึกษา ตรวจเลือด และเริ่มยาต้านไวรัสให้เร็วที่สุด จะให้ดีก็ภายใน 24-48 ชั่วโมงครับ ปัจจุบันทุกโรงพยาบาลมียาต้ายไวรัสและมีมาตรการเบื้องต้นนี้แล้วครับ ทำให้ผู้สัมผัสโรคได้เข้าถึงการรักษาได้ทุกที่ของประเทศครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น