ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ พิธา …
…วาสเตตินกับการป้องกันโรคหลอดเลือดในผู้ป่วย HIV
การศึกษานี้ชื่อว่า REPRIEVE ทำการศึกษาทดลองผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้รับการรักษาแล้วได้ยาต้านไวรัสแล้ว ควบคุมได้ดีทีเดียว (ไม่เห็นว่าใช้ยาอะไร แต่ศึกษาหลังปี 2019 น่าจะเป็น integrase inhibitor-based กันเป็นส่วนมาก) โดยเลือกผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดระดับต่ำถึงปานกลาง ระดับ LDL เฉลี่ยที่ 108 mg/dL จำนวน 7769 ราย อายุประมาณ 50 ปี มาแบ่งครึ่ง ๆ กิน pitavastatin 4 มิลลิกรัมต่อวัน (ของบ้านเราเม็ดละ 2 มิลลิกรัม กิน 0.5-1 เม็ดเอง) เทียบกับยาหลอก ติดตามไป 5 ปี
วัดผลรวมการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด (MACE outcome) พบว่ากลุ่มกินยาพิธาเกิดโรค 4.81 ต่อพันรายปี กลุ่มกินยาหลอกเกิดโรค 7.32 ต่อพันรายปี คิดบวกลบแล้วกลุ่มกินยาพิธา ลดโอกาสเกิดโรคได้มากกว่ายาหลอก 35% และมีนัยสำคัญทางสถิติ แถมเป็นจริงในทุก ๆ ผลย่อยที่เอามารวมกันด้วย ระดับไขมันก็ลดลงจนได้เป้าอยู่ที่ประมาณ 100 ผลข้างเคียงรุนแรงไม่มี ส่วนการปวดกล้ามเนื้อพบมากกว่าชัดเจนในกลุ่มได้ยาพิธา และพบโอกาสเบาหวานมากขึ้นในกลุ่มได้ยาพิธา ..แต่ตรงนี้ได้คำอธิบายเดิมมาใช้ คือ ผลเสียไม่รุนแรงแต่ประโยชน์มากกว่าโทษแบบไม่เห็นฝุ่น
ก็สรุปว่าการใช้ยา pitavastatin ลดโรคหัวใจในผู้ป่วยเอชไอวีที่กินยาต้านจนอาการดี แต่ว่า ทำในผู้ป่วยที่เสี่ยงไม่มากและ LDL ไม่สูงนัก ก็ไม่รู้ว่าเสี่ยงสูงจะได้ผลแบบนี้ไหม และหากระดับแอลดีแอลสูงหรือควบคุมไม่ได้จะได้ผลแบบนี้ไหม และที่สำคัญ ก็ไม่รู้ว่าถ้าไม่ใช่พิธา ผลจะออกมาเป็นแบบนี้ไหม จะใช้ simvastatin, atorvastatin, rosuvastatin อันนี้ไม่รู้
ยาพิธานี้ มีปฏิกิริยาระหว่างยาและการจัดการยาที่ต่างออกไปจากสเตตินกลุ่มอื่น อาจเป็นสาเหตุที่เลือกยานี้ เรื่องปฏิกิริยาของสเตตินเป็นคำแนะนำตอนที่เราใช้ยาต้านไวรัสเป็น efavirenz หรือ nevirapine based แต่พอมาเป็น dolutegravir, raltegravir ที่ไม่ค่อยไปยุ่งกับไขมันและไม่ค่อยไปยุ่งกับยาอื่น ๆ ก็เลยทำให้ผลการศึกษาออกมาในทำนองนี้ จะอ้างอิงไปใช้กับยาอื่นไม่ได้นะ
ดังนั้นถ้าเป็นเอชไอวี รักษาดีแล้ว ต้องการความลดเสี่ยงโรคหัวใจเมื่อคุณเริ่มมีความเสี่ยง มีไขมันสูง ตัวเลือกการใช้ pitavastatin ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ ใครสนใจไปอ่านฟรีได้เลยที่ nejm.org แต่จำกัดเวลานะครับ ของฟรีมีจำกัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น