ว่าด้วยเรื่อง ศิลปะในหัวใจ soft skill ที่เราควรมี
วันก่อนได้ไปฟังดนตรีที่ TK Square Korat รู้สึกชื่นใจที่งานดนตรีดี ๆ มีผล มีอิทธิพลกับหัวใจคนมาก และทำให้คิดได้ว่า น้อง ๆ หมอทั้งหลาย (และเพื่อน ๆ วิชาชีพใด ๆ ก็ตาม) นอกจากจะมี hard skill คือความรู้ความชำนาญในวิชาชีพของตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว สิ่งที่ควรจะมีเสมอคือ soft skill ด้านศิลปะ
การที่เรามี soft skill ด้านนี้จะทำให้เราสามารถเข้าใจ ปรับปรุง hard skill ของเราได้ดี มีสมาธิ มีความสุขใจ ความเศร้า ลดความตึงเครียด ส่งผลให้การเรียนหรือหน้าที่การงานเราดีขึ้น ยกตัวอย่าง เชอร์ล็อค โฮล์มส์ เขาใช้ไวโอลินเพื่อให้สมองปลอดโปร่ง โลดแล่น ทั้งเวลาปรกติและเวลาตึงเครียด
เพื่อนผมหลายคน เล่นเปียโน ตั้งวงดนตรี ถ่ายภาพ เราไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญนะครับ หรืออาจทำไม่เป็นก็ได้ เพียงแต่ดูศิลปะ ฟังดนตรี แค่นี้ก็ชุ่มชื่นหัวใจแล้ว แต่ถ้าจะตั้งใจทำ ฝึกฝนทักษะต่อเนื่อง จะทำให้สมองอีกซีกเราทำงานดีขึ้น ความกลมกล่อมของวิชาการหรือการงานจะดีขึ้น และเป็นอาชีพเสริมได้ครับ
แต่ละคนจะมี ศิลปะ ต่างกันครับ
- ปลูกต้นไม้ ดูแลสวน บางคนนี่เป็นราชาแคคตัสเลย
- เล่นดนตรี เชื่อไหม อาจารย์แพทย์บางคน เห็นดุ นศพ. เวลาสอนแบบนั้น พอจับกีต้าร์ ออกงาน กลายเป็นร็อคสตาร์ทีเดียว
- ถ่ายภาพ น้อง ๆ หมอหลายคน ขายภาพสต็อกได้ดีเลยครับ
- ทำกับข้าว ก็ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง และเป็นเสน่ห์ทัพพี ของดีปลายจวัก อีกต่างหาก
- วาดภาพ งานคราฟต์ทำมือ งานประดิษฐ์ มีเป็นชมรมหลายชมรม เป็นอีกตัวตนที่มีความสุขของเรา
ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะแขนงใด สำหรับผม ถือว่าดีทั้งสิ้นและเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มนุษย์แตกต่างจากสปีชี่ส์อื่น ๆ ในโลก เพราะสามารถสร้าง "ความสุข" ในใจได้ครับ
ฝึกไว้ตั้งแต่เด็กจะดีครับ มาฝึกตอนบั้นปลายเหมือนหมอชราบางคน มันยาก ปลูกต้นไม้ก็ตาย เล่นดนตรี..แมวยังวิ่งหนี วาดรูปสู้เด็กประถมก็ไม่ไหว ที่พอใช้ได้หน่อย ก็เตะปี๊บดังสนั่นเนี่ยแหละครับ เตะอยู่เมืองไทย แต่ชื่อเสียงดังไกลระดับสากล
ปล. ขอขอบคุณอาจารย์ผู้ฝึกสอนจากโรงเรียนดนตรี มิวสิกา นครราชสีมา ที่บรรเลงเพลงอันไพเราะให้พวกเราฟังครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น