ณ ร้านสะดวกซื้อมุมหนึ่งของโลก
หญิงสาววัยสะคราญสองคน ถือตะกร้าเข้าไปซื้อขนมหวานเกือบครึ่งตะกร้า ด้วยใบหน้าสนุกสนานและฟินสุดขีด ผมฟังเขาพูดไม่รู้เรื่องหรอก แต่เห็นที่หยิบลงตะกร้า ตะลึงแล้วบอกว่า พังน้อง พังแน่ ๆ ที่พังคือเป็นช้างแน่ ๆ ... ช้างพัง
หนังสือเซเปี้ยนส์ ของ ยูวาล โนอา แฮรารี บอกไว้ว่า ในอดีตมนุษย์ต้องแย่งกินของหวานเพราะหายากและให้พลังงานสูง เช่นผลไม้ เมื่อเจอต้องรีบเก็บกินเพราะเดี๋ยวสัตว์อื่นแย่งกิน ของหวานใช้ปริมาณนิดเดียวแต่พลังงานมาก การเรียนรู้และจดจำของมนุษย์ถ่ายทอดการชื่นชอบของหวานมาหลายชั่วอายุ น่าจะผ่านทางยีน เขาถึงเรียกว่า หวานเย็น ที่เพี้ยนมาจากหวานยีน (555)
แต่อิทธิพลของยีนและชุดคำสั่งมันเกินจำเป็นในยุคนี้แล้ว ยุคที่ขนมหวาน อาหารหวานเย้ายวนที่ทั่วทุกหัวระแหง ชานมไข่มุก เค้กช็อกลาวา ซอฟต์ครีมนุ่มลิ้น ไอศกรีมทุเรียนแสนหอม ช็อกโกแลตนมแท่งยักษ์ หรือกระทั่งบัวลอยของแม่ค้าสุดสวย
เราไม่ต้องแย่งกับใคร แต่เราต้องยั้งใจกับตัวเอง พลังการหักห้ามใจเอาชนะยีนได้แน่ ๆ เพราะถ้าชนะไม่ได้ คุณก็พัง คุณอยากจะ(ช้าง)พังไหมล่ะ ถ้าไม่มีสติปล่อยตามใจอยาก ปล่อยปากตามกลิ่น คุณจะพบขนมเต็มตู้เย็น ที่พร้อมให้ความสุขคุณทุกครั้งที่เปิดตู้เย็น และงั่มมมม
โปรดอย่าบอกว่า เครียดจึงกิน เคยได้ยินโฆษณา กิน - เครียด - อ้วน ไหมล่ะ
"กินหวานมากเดี๋ยวจะอ้วน ถ้ากินไม่ชวนขอให้อ้วนทุกชาติไป"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น