01 มิถุนายน 2562

เก็บตกวันงดสูบบุหรี่โลกสักเล็กน้อย กับ Smoking Toolkit Study

เก็บตกวันงดสูบบุหรี่โลกสักเล็กน้อย กับ Smoking Toolkit Study
มาตรการการควบคุมยาสูบและเลิกยาสูบเป็นมาตรการที่กำลังขยายผลไปทั่วโลก หลายประเทศทำอย่างจริงจังและสามารถลดอัตราการเสียชีวิต อัตราป่วยจากบุหรี่ได้มาก ทรัพยากรและมูลค่าทางเศรษฐกิจที่กลับคืนมาจากมาตรการลดบุหรี่ เกือบ 80%มาจากที่เราไม่ต้องสูญเสียบุคคลที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากภัยบุหรี่ และสามารถทำงานเป็นประโยชน์ต่อประเทศได้
ประเทศสองประเทศที่ผมติดตามเรื่องมาตรการการควบคุมยาสูบคือประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียที่มีชื่อเสียงเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยง และประเทศอังกฤษที่ถือว่าเป็นดินแดนแห่งการควบคุมยาสูบเลย
ประเทศอังกฤษได้วางมาตรการเพื่อลดนักสูบเยาวชน นักสูบหน้าใหม่ ช่วยเหลือผู้สูบเดิมให้เข้าคลินิกอดบุหรี่แบบไม่มีค่าใช้จ่าย สนับสนุนให้มีการใช้สารชดเชยนิโคตินตามร้านยาได้ มีมาตรการทางกฎหมายและสังคม มาตรการทางสาธารณสุข สนับสนุนงานวิจัย อนุญาตและควบคุมการใช้ตภัณฑ์ลดความเสี่ยงต่าง ๆ แถมมีการติดตามอย่างเป็นระบบอีกด้วย
มีการเก็บข้อมูลผู้ที่สูบและผู้ที่พยายามเลิกต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี 2006-2018 ชื่อ Smoking Toolkit Study เป็นการเก็บข้อมูลว่าเลิกอย่างไร ใช้อะไร สำเร็จหรือไม่ ท่านสามารถไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่
สิ่งที่พบคือ
.. 56% ของผู้ที่พยายามเลิกจะใช้อุปกรณ์มากกว่าหนึ่งอย่าง ..อันนี้จะสอดคล้องกับการศึกษาที่ผ่านมานะครับว่าหากใช้วิธีที่ต่างกลไกกัน เช่น ยาอดบุหรี่ร่วมกับสารทดแทนนิโคติน จะเพิ่มความสำเร็จมากกว่าใช้อย่างเดียว
..27.5% ใช้สารทดแทนนิโคตินที่ซื้อเองตามร้าน แต่ว่ากลุ่มนี้จะประสบความสำเร็จน้อย ... สถานการณ์คือแม้คลินิกอดบุหรี่จะมีเพียงพอในอังกฤษ แต่คนยังอยากที่จะเลิกเองอยู่มาก การใช้สารชดเชยนิโคตินที่ถูกวิธีภายใต้คำแนะนำจะมีโอกาสเลิกสูงกว่าครับ แต่หากใช้ไม่ถูกหรือไม่มีคำแนะนำการปฏิบัติตัวร่วมด้วย จะสำเร็จน้อยมาก
..12.5% ใช้บุหรี่ไฟฟ้า และสามารถเลิกบุหรี่ได้มากกว่าไม่ใช้หรือและอีกหลาย ๆ วิธี ... ต้องเข้าใจก่อนว่าที่อังกฤษสามารถใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้โดยมีการควบคุม การสอน คำแนะนำที่ดี และอนุญาตให้ใข้เป็นอุปกรณ์เลิกบุหรี่ได้ และอีกอย่างคือ การวัดผลคือไม่สูบบุหรี่เผาไหม้ครับ บางทีผู้สูบอาจเปลี่ยนจากบุหรี่เผาไหม้ไปสูบนิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้าแทน ถ้าวัดเป็นเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะถือว่าไม่ประสบผลสำเร็จครับ
..5% ใช้ยาอดบุหรี่ varenicline และประสบความสำเร็จมากกว่าไม่ใช้อะไรและมากกว่าอีกหลายวิธี ..การศึกษาที่ผ่านมาทั้งการติดตาม การทดลอง การทำ systematic review พบว่า varenicline คือยาอดบุหรี่ที่ประสิทธิภาพสูงสุด แต่เนื่องจากต้องเข้าคลินิกและมีการสั่งยา การติดตาม จึงมีผู้ใช้ไม่มากเท่าวิธีอื่น แต่ประสบความสำเร็จมาก
เมื่อปรับตัวแปรอื่น ๆ ทางชีวภาพเช่นเรื่องระดับการติด จำนวนบุหรี่ต่อวัน จะพบว่าวิธีการเลิกต่าง ๆ ประสบผลสำเร็จพอ ๆ กันหากตั้งใจจริง และหากปรับตัวแปรเรื่อง เพศ วัย เศรษฐานะ เพิ่มด้วย จะพบว่าเครื่องมือการเลิกที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าไม่ใช้อะไร และสูงกว่าวิธีอื่นคือ
ยาอดบุหรี่ varenicline, บุหรี่ไฟฟ้า, สารทดแทนบุหรี่ที่มีการสั่งจ่ายและควบคุม (สำหรับผู้สูบสูงวัย), และสื่อทางเว็บไซต์ สำหรับผู้สูงวัยหรือด้อยโอกาสทางสังคม
สรุปคือ ถ้ามีกระบวนการเลิกที่ดีมนโยบายและการบังคับใช้ที่ดี การเลิกมาตรฐานยังใช้ได้ผลดีมาก และวิธีการเลิกแต่ละวิธีได้ผลไม่เท่ากันทุกคน อนาคตการเลิกบุหรี่จะต้องเป็น individual care ไม่ใช่แค่นโยบายและการปฏิบัติภาพรวมอีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม