วันที่ 15 กันยายน ถือเป็นวัน world lymphoma day วันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก เริ่มต้นจัดที่อาร์เจนตินาในปี 2004 เพื่อให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ให้ความสนใจและทำเป็นแหล่งรวมความรู้เกี่ยวกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จนถึงปัจจุบันเรายังไม่สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้อย่างถูกต้องถึง 62% (2014 Global Patient Survey) ในปี 2008 ทางองค์กร lymphoma coalition ได้ทำการสำรวจใหญ่และพบความจริงอันน่าสะพรึงกลัวคือ
--กว่า 50% ของคนที่มีต่อมน้ำเหลืองโต เคยได้ยินและรู้จัก lymphoma แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่รู้ด้วยว่ามันคือมะเร็ง
-- กว่า 67% ของคนที่มีต่อมน้ำเหลืองโต ไม่เคยรู้เลยว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลืองนั้น เป็นมะเร็งที่โตเร็วและรุนแรงที่สุดอันหนึ่ง
เพราะว่าวันนี้เป็นวันมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก ผมจะพาท่านไปรู้จักมะเร็งต่อมน้ำเหลืองง่ายๆครับ
เป็นมะเร็งของระบบโลหิตวิทยาที่พบบ่อยที่สุดครับ โดยมากพบตอนอายุ 50-60 ปี อาการเด่นๆของมะเร็งชนิดนี้ แบ่งเป็นสองประการครับ
ประการที่หนึ่ง..เกิดจากก้อน ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับ มะเร็งของต่อม อาการที่พบคือ อวัยวะน้ำเหลืองจะโตขึ้น อันได้แก่ต่อมน้ำเหลืองโต แข็ง ยึดติดกับโครงสร้างด้านล่างเช่น กล้ามเนื้อ พังผืด อาจโตเป็นกลุ่มๆ เช่น ที่คอ ที่รักแร้ หรือ โตทั่วตัว พวกโรคติดเชื้อมักโตเร็วกว่า กดเจ็บ บวม กลิ้งต่อมไปมาได้ และยุบลงเมื่ออาการติดเชื้อดีขึ้น และอวัยวะน้ำเหลืองอื่น เช่น ม้ามโต ก็จะคลำได้ที่ใต้ชายโครงซ้าย ตับโต ต่อมทอนซิลโต ที่มักจะโตนาน แข็ง
ก้อนอาจใหญ่มากไปกดเบียดอวัยวะข้างๆได้ และ อาการของก้อนที่ดูไม่เป็นก้อนอีกอันคือ ตัวเซลล์มะเร็งนี้อาจแทรกตัวอยู่ในผนังอวัยวะต่างๆ ทำให้มีอวัยวะที่ไม่เกี่ยวกับน้ำเหลืองโตได้ ยกตัวอย่างมี่พบบ่อย คือ แทรกตัวอยู่ในผนังกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะโต และสูญเสียหน้าที่ในการย่อยอาหารด้วยครับ
ประการที่สอง เนื่องจากเซลล์ที่เป็นต้นกำเนิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนั้น คือ เม็ดเลือดขาวชนิด ลิมโฟไซท์ มันหลั่งสารต่างๆได้ครับ ก็จะเกิด ไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เม็ดเลือดแตก ภูมิคุ้มกันผิดปกติ มีทั้งไวเกิน และ บกพร่อง
พูดง่ายๆ --มีอาการได้ทุกอย่าง--ในทางอายุรกรรมนั้น เราจะต้องคิดถึงโรคนี้ไว้เสมอ เผื่อไว้เสมอ เนื่องจากมีอาการได้ทุกอย่าง มันเลยวินิจฉัยยากมากไงครับ
การวินิจฉัยที่แน่นอนต้องตัดต่อมน้ำเหลืองไปตรวจทางพยาธิวิทยา และย้อมพิเศษครับ เพื่อระบุชนิด ความรุนแรง และการตอบสนองต่อการรักษา ส่วนการตรวจอื่นๆเพื่อประเมินระยะโรคเป็นสำคัญครับ เรื่องการแยกชนิด เป็น T-cell , B-cell, Hodgkin's disease เอาไว้ให้เรซิเดนท์ท่องสอบครับ
ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากจริงๆคือการรักษาครับ การรักษาโรคนี้ประสบผลสำเร็จดี เรียกว่าเป็นมะเร็งที่น่ารักษาทีเดียวครับโดยเฉลี่ยยืดชีวิตได้ 8-10 ปี ในประเภทรุนแรงคือ diffuse large B cell lymphoma นั้นมีโอกาสหายขาด 50-60% ครับ การรักษาประกอบด้วยแบบเดิมคือ ตัดก้อนถ้าใหญ่มาก ให้ยาเคมีบำบัดสูตรมาตรฐาน อาจฉายแสงถ้าก้อนโตหรือเสี่ยงไปโดนอวัยวะสำคัญ การรักษาแบบดั้งเดิมนี้ยังใช้ได้ดีมากๆ ในกรณีเป็นซ้ำก็มีตัวเลือกเพิ่มคือ การปลูกถ่ายเซลต้นกำเนิดเม็ดเลือด นี่เป็นการใช้สเต็มเซลที่ถูกต้องเพียงกรณีเดียวครับ
แต่การรักษาแบบเดิมเปรียบเสมือน ใช้ปืนกลรัว ทิ้งระเบิดนาปาล์ม ตามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ มะเร็งก็ตายจริงครับ เซลอื่นๆก็ตายด้วย เผลอ เจ้าของก็ตายพร้อมๆกัน เราจึงคิด ขีปนาวุธนำวิถีทำลายเฉพาะเซลมะเร็ง ที่มันดันมีตัวรับพิเศษอยู่ที่เรียกว่า CD20 และอาวุธนั้นคือสารชีวภาพสังเคราะห์ "rituximab" ทำให้อัตราการอยู่รอดดีขึ้นมาก ปัจจุบันมีใช้ในไทย ต้องผ่านการลงทะเบียนก็มีสิทธิใช้ครับ ส่วนขีปนาวุธตัวใหม่ๆ กำลังสร้างเพิ่ม เช่น bretuximab, ibrutinib, idelalisib ยังอยู่ในห้องทดลองครับ
พอได้นะครับ รายละเอียดอื่นๆยาวมากๆๆ
ที่มา : http://www.lymphomacoalition.org/
: ASH-SAP textbook 3rd ed
: NHL, อ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย ใน
essential hematology for general practitioner
: ตำราโลหิตวิทยา 3rd ed
: wintrobe's clinical hematology 12th ed
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น