เมื่อเงินฝืดเคือง การรักษาเลยต้องปรับเปลี่ยน
**การรักษานี้อาจไม่ตรงตามแนวทาง และไม่อาจใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ เป็นการรักษาตามข้อตกลงระหว่างผู้รักษากับผู้ป่วย**
ผู้ป่วยรายหนึ่งมาปรึกษาที่คลินิกพร้อมประวัติเดิมโรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง เดิมทีผู้ป่วยรักษาที่ภาคตะวันออกเพราะทำงานที่นั่น แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจผันผวนจนต้องถูกเลิกจ้าง จึงกลับมาอยู่บ้านและทำงานรับจ้างรายวัน ร่วมกับขายอาหารเลี้ยงชีพ การหยุดงานคือรายได้ที่ลดลงทันที
เดิมทีผู้ป่วยได้รับยา atorvastatin (40mg) วันละครึ่งเม็ด ส่วนยาลดความดัน manidipine (20mg) วันละเม็ดร่วมกับ hydrochlorothiazide (25mg) วันละเม็ด เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่าไม่มีโรคร่วมใด และควบคุมโรคได้ดี
ผมเลือกที่จะใช้ยา simvastatin ขนาด 20 มิลลิกรัม วันละเม็ด คู่กับยากิน losartan ขนาด 50 มิลลิกรัม เริ่มที่วันละเม็ดก่อน สูตรนี้เสียค่าใช้จ่ายต่อวันน้อยมาก
**การปรับลดความแรงของยา statin ที่ผลการรักษาดีแล้ว ไม่แนะนำให้ทำนะครับ**
**การเปลี่ยนกลุ่มยาความดัน ต้องคิดเสมอว่า ผลการรักษาอาจไม่ดีเท่าที่คิด**
**แม้ว่า simvastatin 20 มิลลิกรัม จะไม่เกิดปฏิกิริยากับ amlodipine ในขนาด 5-10 มิลลิกรัม แต่ผมไม่อยากให้เกิดปฏิกิริยาเลย เพราะอาจเสียเวลาเสียเงิน จึงไม่ใช้คู่ผสมนี้**
ใช้ลองใช้อยู่ 6 สัปดาห์ นัดมาติดตามความดันโลหิต พบว่าควบคุมได้ตามกำหนด ตรวจระดับ LDL ไม่เพิ่มจากเดิม ไม่มีผลข้างเคียงของยา
คุยกับคนไข้ว่า ผมปรับตามสถานการณ์ที่ผมพอรับได้ และเขาจ่ายไหว มีการติดตามที่ดีพอสมควร ไม่น้อยไปไม่มากไป อาจไม่ตรงตามแนวทางการรักษาแบบเป๊ะ แต่ว่าไม่อันตรายและช่วยเขาได้
สอบถามคนไข้บอกว่า แม้ตอนนี้ภาวะทางการเงินก็ยังฝืดเคือง แต่ถ้าแบบนี้ก็ยังไปด้วยกันได้ มีเวลาทำมาหากินและดูแลบุพการีที่ล้มป่วยได้
ยุคลำบากแบบนี้ ปัจจัยชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐานะ สำคัญมากในการดูแลผู้ป่วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น