Zerlasiran ยาลดไขมัน Lp(a) โดยยับยั้งระดับสารพันธุกรรม
1.Lipoprotein a [Lp(a)] คือ ส่วนผสมระหว่าง apolipoprotein B100 กับ apolipoprotein A ซึ่งเจ้า Lp(a) มีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่าเป็นส่วนของก้อนตะกรันไขมันในหลอดเลือด ถ้ามี Lp(a) สูง จะเพิ่มโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคลิ้นหัวใจตีบ
3.ยา zerlasiran ก็เป็น siRNA มันจึงออกฤทธิ์ตรงเป๊ะ ตรงจุด ไม่ไปรบกวนการทำงานอื่น ๆ ของร่างกายเลย ยาเคยผ่านการทดลองระยะที่หนึ่งมาแล้ว ครั้งนี้มาทำการศึกษาระยะที่สอง เพื่อศึกษาความปลอดภัย ความทนต่อยาและระดับ Lp(a) ที่ลดลงหลังได้ยา
4.ทำการศึกษาในคนสุขภาพดี ตรวจวัดระดับ Lp(a) เกิน 150 mmol/L ปกติเกิน 60 ก็เสี่ยงแล้ว ถ้าใช้ยาลดไขมันใด ๆ ก็ต้องอยู่ในสภาวะคงที่มาก่อน เรียกว่าควบคุมตัวแปรปรวนกันพอสมควร กลุ่มแรกพวกไม่มีโรคได้คนมา 32 คนฉีดยาครั้งเดียว มีทั้ง 30-100-300-600 ส่วนกลุ่มที่สองเป็นโรคที่คงที่ ใช้ยาเดิมคงที่ ได้มา 37 คน กลุ่มนี้จะมาแบ่งฉีดยาสองโด๊ส มีทั้ง 200x2 - 300x2- 450x2 ทั้งสองกลุ่มเทียบกับยาหลอก
5..ติดตามผลตั้งแต่ 150 วันและระยะต่าง ๆ จนครบ 1 ปี ผลปรากฏว่าผลข้างเคียงที่พบมากที่สุดคือปวดหัว 33% แต่ไม่รุนแรง และเกิดปวดบวมตรงจุดฉีดยาแบบไม่รุนแรงถึง 81% ไม่ทำให้ต้องถอนตัวจากการศึกษา และเกือบทั้งหมดเกิดในกลุ่มฉีดหลายครั้ง สรุปว่า ผลข้างเคียเล็กน้อย ไม่รุนแรงและไม่ต่างจากยาหลอก
6. มาดูผลการลด Lp(a) กันบ้าง ขนาด 300 และ 600 มิลลิกรัม จะลด Lp(a) ลงมาจากเดิมได้ 95% ยาหลอกลดได้ 10% โดยตัวเลขไขมันจะขยับเพิ่มขึ้นเมื่อเวลานานออกไป (ก็ยาอ่อนฤทธิ์ลง) เมื่อติดตามผลที่หนึ่งปีพบว่าระดับ Lp(a) ลดลงจากเดิมประมาณ 30% โดยขนาดยาที่ส่งผลลดไขมันได้ดีสุดคือ 300 มิลลิกรัมสองเข็ม ห่างกันแปดสัปดาห์
ทำไมเลือกเอาการศึกษานี้มาเล่า
1.มันว้าวมากกับเทคโนโลยีใหม่
2.ทำให้รู้ว่า มันไม่ได้มีแต่ไขมัน LDL ที่ส่งผลต่อโรคนะ
3.คนทำคือ Steven E. Nissen เขาคือ ออฟเพ่นไฮเมอร์ สำหรับยาไขมัน
4.ฟรี JAMA, Apr 8th 2024
และอย่าเพิ่งว้าวเกินไป
1.นี่เป็นแค่การศึกษาระยะที่สองเท่านั้น กลุ่มตัวอย่างไม่ถึง 50 คนเลย
2.การศึกษาบอกว่ายาลด Lp(a) ได้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะลดโรคหรืออัตราการตายได้
3.ยังไม่มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนว่า ลด Lp(a) แล้วโรคจะลดลง อันนี้ไม่เหมือนโคเลสเตอรอลและแอลดีแแอล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น