เรื่องเล่าจากห้องตรวจ : ยาเม็ดรวม กับ ความเข้าใจคนไข้
ยาเม็ดรวมคืออะไร คือ การนำยาตั้งแต่สองชนิด มารวมกันเป็นเม็ดเดียวกันโดยไม่เสียสมบัติทางยา สัดส่วนของยาแต่ละตัวคงที่ อาจจะมีสองชนิดสามชนิดหรือสี่ชนิดก็ได้
ตัวอย่างเช่นยาเม็ดรวม TDF/ETC/EFV สามชนิดรวมกันสำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ HIV
ยาเม็ดรวม INH/RIF/ETB/PZA ในการรักษาวัณโรค
หรือยาเม็ดรวมเบาหวานสองชนิด ยาเม็ดรวมความดันสามชนิด
ปัจจุบันยาเม็ดรวมมีวางจำหน่ายเป็นตัวเลือกให้ใช้มากขึ้น
การศึกษาของยาเม็ดรวมส่วนมาก จะออกแบบมาว่า ประสิทธิภาพของยาเม็ดรวม “ไม่ด้อยไปกว่ายาเม็ดแยก” หรือ “ไม่ด้อยไปกว่าการรักษามาตรฐาน” คำว่าไม่ด้อยกว่าคือ อาจจะด้อยกว่านิดนึงในขอบเขตที่ยอมรับได้ แลกมากับอะไร
แลกมากับข้อดี ความสะดวกในการกินยา ไม่ต้องกินหลายเม็ด ลดการลืม เพิ่มความต่อเนื่องในการรักษา ยาหลายชนิดเมื่อนำมารวมแล้วราคาถูกว่ากินแบบแยก แลกมากับข้อเสียคือ ปรับขนาดรักษายากเพราะสัดส่วนยาที่คงที่ในเม็ดนั้น และเวลาเกิดผลแทรกซ้อนจะปรับยายากเช่นกัน
ผมนิยมใช้ในกรณีผู้ป่วยต้องใช้ยาหลายเม็ด โดยเฉพาะโรคเรื้อรังและผู้ป่วยที่สูงวัย ลดโอกาสการลืมกินยา
🚩🚩แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ป่วยคิดและผมเจอมากับตัวเองคือ ผู้ป่วยบางส่วนคิดว่า ความรุนแรงของโรค แปรผันตาม จำนวนเม็ดยา เมื่อเขากินยาแค่เม็ดเดียว แสดงว่า โรคไม่รุนแรง !!🚩🚩
ผู้ป่วยรายหนึ่งใช้ยาความดันสามชนิดเม็ดรวม จำนวนหนึ่งเม็ดต่อวัน แต่เขาคิดว่าโรคคุมได้ดี เพราะเดิมเคยกินสามเม็ด จึงย่อหย่อนการปฏิบัติตัวลง
เป็นข้อเตือนใจนะครับ ไม่ว่ากับหมอ เภสัช คนไข้ ผู้ดูแล ต้องแจ้งความจริงจุดนี้เสมอ ว่าจริง ๆ แล้วเขากินยาหลายชนิด เพียงแต่รวมเป็นเม็ดเดียวให้สะดวก หลายคนพอคิดว่าตัวเองดีขึ้นเพราะเม็ดยาลดลง เมื่อผมย้ำเตือนก็ได้แต่หัวเราะแหะ ๆ และเริ่มทบทวนการรักษาใหม่อีกรอบ
จะเป็น 2 in 1 หรือ 3 in 1 หรือ 4 in 1 ดีแค่ไหนก็ต้องมีสติในการใช้ จะมียกเว้น 3 in 1 คือ ซาล่าห์-มาเน่-ฟีร์มีโน่ เท่านั้นแหละ ที่เชื่อใจได้ทะลวงทุกทีม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น