รายงานข่าวข้อมูลเรื่องวัคซีนโควิดจากอิสราเอล 4 เรื่อง ที่ลงใน New England Journal of Medicine ฉบับวันนี้ เอาแบบสรุป ใครสนใจไปอ่านได้ฟรี ทำลิงค์มาให้ด้านล่างแล้ว
ทำไมต้องอิสราเอล เพราะอิสราเอลฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมมาก วางแผนอย่างเป็นระบบและมีการเก็บข้อมูลเฝ้าระวังอย่างดี และมีระบบข้อมูลสาธารณสุขที่เป็นโครงข่าย วิเคราะห์ได้ง่ายมาก
ทำไมต้องเป็น BNT162b2 ก็เพราะประเทศอิสราเอลใช้วัคซีนนี้เป็นหลัก ทั้งเข็มแรก เข็มสอง เข็มสาม จะใช้วัคซีนอื่นเมื่อใช้ BNT162b2 ไม่ได้
ทำไมต้องเป็น NEJM เพราะผมเป็นสมาชิก –
เอาเรื่องวัคซีนกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบก่อนแล้วกัน กำลังฉีดในบ้านเราพอดี
นักวิจัยทำการดึงข้อมูลจากสองแหล่งมาทำการวิเคราะห์ย้อนหลัง เกี่ยวกับการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ทำเป็นสองการศึกษาที่ไม่เหมือนกันเลย
🚩🚩 ขอเริ่มด้วยการศึกษาแรกก่อน เป็นการเก็บข้อมูลย้อนหลังจาก Clalit health services หนึ่งในผู้ให้บริการข้อมูลสาธารณสุขรายใหญ่ของเขา มีข้อมูลมากกว่าครึ่งของประชากร โดยดึงเอาข้อมูลประชากรที่เขารับผิดชอบ ที่อายุมากกว่า 16 ปีและรับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มแล้ว จำนวน 2.5 ล้านคน เรียกข้อมูลว่ามีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบกี่ราย โดยทุกรายต้องเข้าเกณฑ์และผ่านการตรวจสอบจากอายุรแพทย์โรคหัวใจ
ปรากฏว่าพบ 54 รายจากสองล้านห้าแสน คิดเป็น 2.13 ต่อแสนประชากร จากจำนวนนี้ 76% อาการน้อย 22% อาการปานกลาง มีรายเดียวที่ช็อก และในจำนวนทั้งหมดที่มีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
พบว่ามีเพียง 14 รายที่มีการทำงานของหัวใจห้องซ้ายบกพร่องเมื่อแรกวินิจฉัย (อันนี้ทำให้หัวใจล้มเหลวและช็อกได้) พอจะกลับบ้านเหลือเพียง 10 ราย และเมื่อนัดมาติดตามอาการพบว่า 5 จาก 10 รายดีขึ้น ส่วนอีก 5 รายไม่ได้ตรวจซ้ำ (แต่ไม่ตายนะ)
และถ้าไปดูกลุ่มผู้ชาย อายุ 16-29 ปี จะพบว่ากลุ่มนี้อัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมากที่สุด อยู่ที่ 10.69 ต่อแสนประชากร อาการส่วนใหญ่เกือบ 85% คือเจ็บหน้าอก การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจส่วนมากพบ ST segment abnormalities และ 100% มีเอนไซม์การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจขึ้นสูง (troponin T)
🚩🚩คราวนี้มาดูการศึกษาที่สอง เป็นการดึงข้อมูลดูย้อนหลังเหมือนการศึกษาแรกเลย แต่ทำในระดับที่ใหญ่กว่า คือทำด้วยกระทรวงสาธารณสุขของเขา ที่รวมบรรดาผู้ให้บริการสุขภาพทุกรายมารวมกัน ปริมาณประชากรในการศึกษาที่สองนี้มากถึง 5 ล้านคนเศษ เก็บข้อมูลช่วงเดียวกับการศึกษาแรกเลย แต่การคิดรูปแบบข้อมูลต่างกัน การศึกษาแรกเขานับคนที่รับวัคซีนใช่ไหม แต่การศึกษานี้เริ่มต้นที่ ในช่วงเวลาที่รับวัคซีนนี้มีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบกี่คน
ปรากฏว่ามีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่ยืนยันชัดเจน 283 ราย ในจำนวนนี้มีครึ่งหนึ่งคือ 142 รายที่เกิดหลังจากรับวัคซีน โดย 136 รายจาก 142 รายนี้เกิดจากการรับวัคซีน (มันก็เกิดเยอะขึ้นจริงนะเนี่ย)
โดยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเกือบทั้งหมด 95% (ทั้งวัคซีนและไม่ใช่วัคซีน) เป็นอาการเบา มีเพียงรายเดียวที่รุนแรง (อาจจะเป็นรายเดียวกับการศึกษาแรก)
ถ้ามาคิดอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการรับวัคซีนคือ 1.76 ต่อแสนประชากร จะเห็นว่าตัวเลขต่างจากการศึกษาแรก ก็แน่นอนเพราะลำดับการคิดและเก็บข้อมูลต่างกัน แบบสองเขารวมข้อมูลมากกว่านั่นเอง และถ้าไปโฟกัสกลุ่มที่เราสนใจคือ ชายอายุ 16-19 ปี พบว่าอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเพิ่มถึง 13.7 ต่อแสนประชากร
ถามว่ามากขึ้นกว่าก่อนรับวัคซีน หรือมากกว่ากลุ่มไม่ได้รับวัคซีนเท่าไร ตัวเลขคือ 5.34 เท่า (แต่อย่าลืมว่า มันไม่รุนแรงนะ)
🚩🚩ข่าวจากการศึกษาที่สาม ระดับภูมิคุ้มกันแบบ Humoral Immunity มันลดลงไหมหลังจากรับวัคซีน BNT162b2 มานานกว่า 6 เดือน ต้องบอกว่านี่เป็นเพียงการวิจัยในหลอดทดลอง และเป็นเพียง surrogate endpoint เท่านั้น และวัดเพียง Humoral Immune ไม่ได้วัดการปกป้องด้วยภูมิทั้งหมดที่จะต้องรวม Cellular-mediated immune เข้าไปด้วย
ทำการตรวจเลือดอาสาสมัครที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้ว ติดตามกันทุกเดือนแล้วมาเขียนเป็นกราฟ ดูแนวโน้มข้อมูล วัดทั้งระดับ Anti Spike igG และการตรวจ Neutralizing antibody มีการตรวจจาก 4868 คนแต่นำมาวิเคราะห์ได้ 3808 คน พบดังนี้
ระดับ Anti Spike IgG จะลดลงไปเรื่อย ๆ แบบสม่ำเสมอจากหลังฉีดไปจนหกเดือน ส่วนระดับ Neutralizing Antibody จะลดลงเร็วในช่วงสามเดือนแรก แล้วจะคงที่ในระดับประมาณครึ่งหนึ่งของระดับภูมิคุ้มกันที่สูงมากในช่วงหลังฉีดใหม่ ๆ
แต่ว่าระดับที่ลดลงทั้งคู่ มันก็ยังปกป้องได้ดีนะครับ
ใครที่ระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงมาก ..ผู้ชายลดมากกว่าหญิง ที่อายุเท่ากัน, ผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปี ภูมิคุ้มกันลดลงมากกว่า และกลุ่มที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ ไม่ว่าจากโรคหรือจากยา ตรงนี้น่าจะมาเป็นตัวกำหนดว่าใครควรฉีดกระตุ้นเข็มสาม
ก็สรุปว่ามันลดลงตามเวลาจริง ๆ นะ แต่ยังปกป้องได้ และระดับ Anti spike IgG ที่วัดง่ายกว่า ดูจะมีความสัมพันธ์อย่างดีกับ neutralizing antibody ในอนาคตเราอาจวัด anti spike IgG แทนได้ เพราะวัดได้ง่ายกว่าเยอะเลย
🚩🚩ข่าวการศึกษาที่สี่ ผลจากการให้วัคซีนเข็มสามเพื่อกระตุ้นในอิสราเอล การศึกษานี้มุ่งดูประสิทธิผลของวัคซีนเรื่องลดการป่วยที่แท้จริง หลังจากที่รัฐบาลอิสราเอลรับรองการฉีดเข็มสามในคนที่อายุมากกว่า 60 ปีและได้รับวัคซีนเข็มสองมานานกว่า 5 เดือน
ข้อมูลตรงนี้มาจากระดับภูมิคุ้มกันที่พบว่าลดลงตามเวลาโดยเฉพาะกับคนที่อายุมาก ร่วมกับการเข้ามาของสายพันธุ์เดลต้าในอิสราเอล ทำให้ต้องเร่งการฉีดวัคซีนเข็มสาม อย่าลืมว่าแม้ BNT162b2 จะพอจัดการสายพันธุ์เดลต้าได้ แต่พื้นฐานของวัคซีนก็ยังมาจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอยู่ดี
โดยเก็บข้อมูลจากคนที่มีข้อบ่งชี้ คือ อายุมากกว่า 60 และรับวัคซีนเข็มสองมานานกว่า 5 เดือน เก็บข้อมูลอะไร ตอบคือเก็บข้อมูลการติดเชื้อ การป่วยรุนแรง ตั้งแต่ 12 วันหลังรับวัคซีนเข็มสาม เก็บข้อมูลประมาณหนึ่งเดือน ตรงนี้สำคัญนะครับ เพราะมันจะบอกแค่ประสิทธิผลตอนที่ระดับภูมิคุ้มกันยังสูงหลังเข็มสาม
ข้อมูลออกมาว่า ลดการป่วยติดเชื้อลง 11.3 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้วัคซีน ส่วนการลดกาป่วยหนักจะลดลงถึง 19.5 เท่า … หมายความว่าแม้ฉีดวัคซีนแล้ว ยังป่วย ยังวิกฤตได้นะครับ แต่จะลดลงมาก ซึ่งจริง ๆ หลังฉีดสองเข็มแล้ว การป่วยและป่วยวิกฤตมันลดลงมากแล้ว และตัวเลขที่ลดลงมากไปอีกหลังเข็มสาม มันจะแสดงพลังการปกป้องที่สูงมาก
💓💓สรุปสี่ข่าว วัคซีนลดความรุนแรงได้จริงและดีมาก แม้จะมีผลข้างเคียงที่น่ากังวล แต่สุดท้ายก็ไม่รุนแรง ประโยชน์ในการป้องกันยังสูงกว่าผลเสียอย่างมหาศาล และสุดท้ายเราอาจต้องบูสเตอร์เป็นระยะ ๆ ต่อไป💓💓
Waning Immune Humoral Response to BNT162b2 Covid-19 Vaccine over 6 Months. https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2114583…
Myocarditis after Covid-19 Vaccination in a Large Health Care Organization. https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2110737…
Myocarditis after BNT162b2 mRNA Vaccine against Covid-19 in Israel. https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2109730…
Protection of BNT162b2 Vaccine Booster against Covid-19 in Israel. https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa2114255…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น