รายงานการศึกษา GALATHEA และ TERRANOVA เกี่ยวกับการใช้ยา benralizumab ในการป้องกันโรคถุงลมโป่งพองกำเริบ
benralizumab เป็นยาที่ไม่ใช่สารเคมี แต่เป็นแอนติบอดี โปรตีนที่ร่างกายใช้จับสิ่งแปลกปลอม เราใช้เทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรมสร้างแอนติบอดีที่เป็นรูปแบบเดียวกันออกมา เรียกชื่อว่า monoclonal antibody สังเกตว่ายากลุ่มนี้มักจะลงท้ายด้วย -mab คือ M..onoclonal..A..nti..B..ody นั่นเอง เจ้าแอนติบอดี้ตัวนี้เป็นแอนติบอดี้ต่อ ตัวจับสัญญาณที่จะรับสาร interleukin-5 ของเซลล์เม็ดเลือดที่ชื่อ อีโอสิโนฟิล เมื่อตัวรับสัญญาณถูก benralizumab มาจับจะทำให้ Interleukin-5 ไม่สามารถไปกระตุ้นการทำงานขออีโอสิโนฟิลได้ แถมยังดึงให้เซลล์เม็ดเลือดขาว (natural killer cell) มาทำลายอีโอสิโนฟิลอีกด้วย
การที่มีอีโอสิโนฟิลสูงหรือแม้แต่พบอีโอสิโนฟิลในเสมหะ เป็นตัวบ่งชี้ว่าโอกาสโรคกำเริบมากขึ้น ก่อนหน้านี้ยา benralizumab ได้รับการรับรองใช้ในโรคหืดรุนแรงที่มีอีโอสิโนฟิลสูง สำหรับโรคถุงลมโป่งพองนั้น การที่มีระดับอีโอสิโนฟิลสูงเป็นตัวบ่งชี้โอกาสกำเริบเช่นกัน และในปัจจุบันใช้เป็นตัวกำหนดการให้ยาสูดพ่นสเตียรอยด์อีกด้วย การปรับอีโอสิโนฟิลจึงดูมีความสำคัญ เคยมีการศึกษาการใช้ยานี้ในผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง พบว่าการกำเริบลดลง แต่ตอนนั้นไม่ได้ตั้งเป้าเป็นวัตถุประสงค์หลักของการศึกษา และไม่มีนัยสำคัญทางสถิติด้วย
การศึกษา GALATHEA ออกแบบศึกษาในผู้ป่วยถุงลมโป่งพองความรุนแรงปานกลางถึงหนัก ที่เคยกำเริบและอีโอสิโนฟิลสูง ส่วนการศึกษา TERRANOVA ออกแบบศึกษาในผู้ป่วยถุงลมโป่งพองรุนแรงมาก เคยกำเริบและอีโอสิโนฟิลสูงเช่นกัน
นำผู้ป่วยมาทดสอบการให้ยา ถ้าสามารถใช้ยาได้จึงนำมาแบ่งกลุ่ม ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างได้ยากับไม่ได้ยา และดูการตอบสนองของยานี้ที่ปริมาณต่าง ๆ กัน โดยติดตามดูว่าอัตราการกำเริบของโรคจะต่างกันไหมที่หนึ่งปีหลังจากศึกษา ผลปรากฎว่าอัตราการกำเริบระหว่างการใช้ยา benralizumab กับยาหลอก (ยาหลอกคือได้รับแต่การรักษามาตรฐานด้วยนะ) ต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ และระหว่าการใช้ยาในขนาดต่างกันก็ผลเหมือนกัน คือ กำเริบน้อยกว่ายาหลอกจริงแต่ว่าความแตกต่างนี้ "ต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ" โดยที่ผลข้างเคียงไม่ต่างกัน
สรุปว่าตอนนี้ benralizumab ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ในโรคถุงลมโป่งพองได้อย่างชัดแจ้ง ยังคงต้องรอการศึกษาในโรคถุงลมโป่งพองต่อไป อ้อ...การรักษาที่ลดอัตราการกำเริบ ลดอัตราเสียชีวิต และเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองตอนนี้ที่ได้ผลชัดเจนที่สุดคือ การเลิกบุหรี่ นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น