ลดนิโคตินในบุหรี่
รายงานข่าวจากวอชิงตันโพสต์ ระบุว่าท่านประธานาธิบดีไบเดนของอเมริกา มีนโยบายให้องค์การอาหารและยาสหรัฐ (กำกับดูแลเรื่องยาสูบ) กำหนดลดปริมาณนิโคตินในบุหรี่ เพื่อลดการติดบุหรี่ และสุดท้ายเพื่อลดโรคและอัตราการเสียชีวิตจากบุหรี่กว่า 480,000 คนต่อปี
บุหรี่หนึ่งมวน มีปริมาณนิโคติน (ก่อนเผา) ประมาณ 10-12 มิลลิกรัม หลายชนิดก็สูงถึง 20 หลายชนิดที่เราเรียกว่า lite จะมีนิโคตินลดลง ไม่เกิน 10 มิลลิกรัม คิดเหมา ๆ คิดกลม ๆ ที่สิบมิลลิกรัม แต่เมื่อเผาไหม้และสูบ ผู้ที่สูบบุหรี่จะได้นิโคตินที่ 1-2 มิลลิกรัมต่อมวน หรือ 20 มิลลิกรัมต่อซอง
ปริมาณนี้สูงกว่าปริมาณต่ำสุดที่ทำให้ติดนิโคติน !!
เราลองไปดูปริมาณนิโคตินในยาสูบอื่น ๆ บ้าง
ซิการ์ อันนี้เท่า ๆ กับบุหรี่ อยู่ที่ประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อมวน ไอ้ที่มากกว่าคือ ควันและสารพิษอื่น ๆ
สูบยาใส่ไปป์ อันนี้ประมาณ 30 มิลลิกรัมต่อการสูบหนึ่งครั้ง บรรจุเต็มไปป์ ได้สารเผาไหม้เต็มพิกัด
ยาสูบแบบเคี้ยว เป็นผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยงจากการเผาไหม้แบบหนึ่ง กระป๋องเล็กมีนิโคติน 150 มิลลิกรัม
ยาสูบมวน อันนี้ระบุยาก เพราะชนิดยาสูบ และปริมาณการมวนไม่เท่ากัน แต่ก็คิดประมาณบุหรี่
บุหรี่ไฟฟ้า แล้วแต่น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าว่ามีนิโคตินเท่าไร
ก่อนหน้านี้เคยมีการศึกษาติดตามว่าถ้าเปลี่ยนเป็นบุหรี่ชนิดไลท์ แล้วปริมาณการสูบจะลดลง ติดน้อยลงไหม ข้อมูลออกมาว่า ส่วนใหญ่สูบมากขึ้นเพราะนิโคตินมัน 'ไม่ถึง' จึงต้องสูบมากขึ้นเพื่อให้ปริมาณนิโคตินเท่าๆ เดิม …. อย่าลืมว่าสมบัติสำคัญของสารเสพติดคือ ต้องการปริมาณเท่าเดิมหรือมากขึ้น เพื่อส่งผลต่อร่างกายในระดับสุขใจตามเดิม
แต่เมื่อสูบมากขึ้นเพื่อให้ได้นิโคตินอย่างที่ต้องการ แต่ปริมาณสารพิษอื่น ๆ และควันจากการเผาไหม้มันไม่ลดลง แถมมากขึ้นอีก สารพิษพวกนี้ทำให้เกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดต่าง ๆ ก็น่าคิดว่าจะอันตรายมากขึ้นอีก
แต่ไม่ได้หมายความว่าบุหรี่แบบไลท์จะไม่ดี เพราะในอดีต การศึกษาที่เปรียบเทียบกับบุหรี่ปรกติ คือนำคนที่เคยใช้บุหรี่ปกติมาก่อนแล้ว มาเลือกใช้ไลท์ เขาจึงต้องสูบมากขึ้น ถ้าเราเลือกกลุ่มที่ไม่เคยสูบมาก่อน แล้ววัดผลระหว่างไลท์กับปกติ อาจจะบอกผลได้ดีกว่านี้
ดังนั้นมาตรการการใช้ไลท์ ที่จะได้ผลคือ ปริมาณการสูบ ไม่ว่าเป็น cigarette per day (CPD) หรือ packyears จะต้องลดลงด้วย และหากจะวัดผลทดสอบต้องวัดว่าสารโคตินิน (urine cotinine) ในปัสสาวะ ต้องลดลง
เอาล่ะแต่เมื่อเป็นนโยบายของท่านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็น่าจะมีผลพอควร เราคงต้องดูกันต่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางอเมริกาโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ ได้ยับยั้งบุหรี่รสเมนทอลไปแล้ว (เชื่อว่าทำให้ติดมากกว่าปกติ) และได้ระงับการอนุญาตเพื่อขายบุหรี่ไฟฟ้าชนิด JUUL ที่ใช้กันมากในหมู่วัยรุ่น JUUL คือ บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมใช้ รูปแบบคล้ายแฮนดี้ไดรฟ์ มีปริมาณนิโคตินคงที่ รสชาติคงที่ พกง่าย ชาร์จง่าย
น่าจะบอกว่าคุณไบเดน คงต้องการลดการสูบยาในระดับหนึ่ง เพราะงบประมาณด้านการรักษาโรคจากบุหรี่ (tobacco-related disease) มันสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ ปริมาณการสูบต่อประชากร และโรคจากบุหรี่ต่อประชากร ที่ไบเดนหวาดหวั่น ที่ว่าสูงนั้น และต้องหามาตรการมาจัดการนั้น หากหันมาดูประเทศในแถบเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า สูงกว่าอเมริกามากทีเดียว !!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น