นอนไม่หลับ ต้องใช้ยานอนหลับตลอด เป็นโรคหรือติดยา
เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากนะครับ และเป็นหนึ่งในการใช้ยาที่ควรทบทวนมากที่สุด หลายครั้งผู้ป่วยร้องขอเพราะถ้าไม่กินแล้วนอนไม่หลับ หลายครั้งคุณหมอก็แจกติดปลายนวมให้พร้อมกับยามากมายที่จ่ายให้ ในหลายโรงพยาบาลชุมนอาจนะพบเจอผู้ป่วยที่มาขอรับยานอนหลับเป็นประจำ
อย่างแรกคือ ผู้ป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับ (primary insomnia) หรือนอนไม่หลับจากสาเหตุอื่น เพราะหากเป็นการนอนไม่หลับจากสาเหตุอื่นนั้น การรักษาคือต้องเอาเหตุออกไป ส่วนการรักษาเพื่อให้นอนหลับไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาหรือการทำพฤติกรรมบำบัด จะเป็นเพียงการรักษาตามอาการเท่านั้น
การวินิจฉัยโรคนอนไม่หลับ (ที่มีหลายชนิดย่อย) ใช้ประวัติและการตรวจร่างกายเป็นหลัก บางครั้งอาจต้องซักประวัติญาติหรือคนดูแลผู้ป่วยร่วมด้วย และมีเกณฑ์การวินิจฉัยตามมาตรฐานของ international classification of sleep disorders-3 ส่วนการวินิจฉัยโรคนอนไม่หลับจากเหตุอื่นที่สำคัญคือ จากโรคทางจิตเวช จากโรคทางกายเรื้อรัง เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคกระเพาะปัสสาวะผิดปกติ จากสารเคมีหรือสารเสพติด ที่พบบ่อยคือจากกาแฟและสุรา
นั่นหมายความว่าหากมีอาการนอนไม่หลับบ่อย ๆ จนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรมีการตรวจแยกโรคให้ชัด เพื่อระบุข้อบ่งชี้การใช้ยา ชนิดของยาที่เหมาะสมกับรูปแบบการนอนไม่หลับ การควบคุมการใช้ยา การรักษาแบบไม่ใช้ยา และแก้ไขเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ
ไม่ใช่ว่า นอนไม่หลับ = ใช้ยา หรือ ให้ยา = เพื่อแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ
อย่างที่สองที่ต้องพิจารณา คือ หรือเกิดจากผู้ป่วยรายนั้นติดยา เพราะไม่ได้จัดการเหมาะสมและได้ยาซ้ำกันเป็นเวลานาน
ยาเพื่อการนอนหลับ ขอใช้คำนี้แล้วกัน เพราะยากลุ่มนี้มีไม่กี่ตัวเท่านั้นที่รับรองใช้รักษาโรคนอนไม่หลับ หรือ อาการนอนไม่หลับ แต่หมอมักจะจ่าย "ยาเพื่อการนอนหลับ" ที่เป็นยากลุ่มเดียวกันนี้แต่ไม่ใช่ยานอนหลับโดยตรง
ยาเพื่อการนอนหลับที่ผมพูดถึงคือกลุ่มยา benzodiazepines และที่ใช้บ่อยมากคือ diazepam, lorazepam, clonazepam, clobazem, clorazepate, chlordiazepoxide ยากลุ่มนี้ราคาถูก มีใช้ในทุกโรงพยาบาล ถามว่าทำไมถึงใช้เพื่อการนอนหลับ ก็เพราะฤทธิ์ต่อกดประสาท ที่ทำให้ซึม การรับรู้ลดลง ความคิดอ่านและการรู้ตัวลดลง (อาจถูกล่อลวงโดยมิจฉาชีพได้) และเมื่อหมดฤทธิ์ก็จะกระวนกระวายเป็นอาการตรงข้ามกับเวลาใช้ยา
ที่สำคัญคือ ทำให้ติดยาได้หากใช้ยาโดยไม่ควบคุมและใช้เวลานานเกินไป (ตัวเลขเฉลี่ยคือ 2-3 เดือน) ทำให้ต้องใช้ยาเพื่อนอนหลับ ถ้าไม่มียาจะนอนไม่หลับและกระวนกระวาย ต้องใช้ยาขนาดมากขึ้นเพื่อให้นอนหลับเท่าเดิม (แต่ผลเสียต่อจิตประสาทจะมากขึ้น) และหากขาดยาจะมีอาการถอนยา
ดังนั้นหากผู้ป่วยร้องขอยา ต้องพิจารณาดี ๆ ว่าเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง (ซึ่งควรใช้การรักษาพฤติกรรมบำบัดร่วมกับยา) หรือ ผู้ป่วยติดยา การให้ยาโดยไม่พิจารณาข้อนี้อาจส่งผลให้ติดยามากขึ้น และต้องระวังด้วย เพราะผู้ป่วยที่ติดยามักจะขอเปลี่ยนคุณหมอที่จ่ายยา หรือเปลี่ยนโรงพยาบาลเพื่อรับยาอยู่บ่อย ๆ ผมเคยเจอญาติเอายา diazepam ที่ผู้ป่วยมีในบ้านจากหลายแห่ง รวมกันร่วมร้อยเม็ดครับ
ส่วนยา benzodiazepines ที่ได้รับการรับรองใช้เพื่อเป็นยานอนหลับคือ temazepam, triazolam, quazepam, estazolam, flurazepam
ก่อนจะสั่งจ่ายยานอนหลับ หยุดและสูดลมหายใจเข้าออกสักทีนะครับ ว่าจำเป็นและเหมาะสมหรือไม่ ?
ก่อนจะขอยานอนหลับ หยุดและสูดลมหายใจเข้าออกสักที ถามหมอว่าตกลงต้องใช้ยาจริงหรือไม่ ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น