09 กรกฎาคม 2558

เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

  เยื่อหุ้มสมองอักเสบ--- วันนี้เราจะมาทำความรู้จักโรคนี้กันครับ เยื่อหุ้มสมองเป็นเกราะป้องกันสมองชั้นเลิศตัวมันเองยอมติดเชื้อ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆเข้าสู่สมองและในทางกลับกันมันคือปราการด่านสุดท้ายแล้วถ้าไม่รักษาให้ทันเวลาก็อาจลุกลามไปสู่สมอง ทำให้เสียชีวิตหรือมีความพิการแทรกซ้อนได้ครับ

   เยื่อหุ้มสมองอักเสบมีได้หลายสาเหตุเช่น เกิดจากเลือดออก เกิดจากการติดเชื้อ เกิดจากมะเร็ง ในวันนี้ผมจะมาเล่าถึงเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางอายุรกรรมครับ อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อนั้นก็จะมีไข้สูง ต่อเนื่องกันสองสามวัน ปวดศีรษะรุนแรงมากๆๆ ผู้ป่วยมักจะบอกว่า "ปวดจนหัวจะระเบิด" อันนี้เกิดจากแรงดันในกระโหลกสูงจากน้ำในเยื่อหุ้มสมองมากเกิน อาจมีอาการอาเจียนมาก ตาพร่ามัว และมักจะก้มคอไม่ได้ เพราะก้มคอแล้วเยื่อหุ้มสมองจะตึงยืดปวดมาก เมื่อผู้ป่วยไปพบแพทย์ คุณหมอจะซักประวัติอย่างรวดเร็วและครบถ้วน หลังจากนั้นก็จะตรวจร่างกายอย่างรวดเร็วและครบถ้วนเช่นกัน ก็จะส่องตา ส่องหู จับก้มคอ กลอกตา ยกแขนยกขา ที่ต้องเน้นว่ารวดเร็วเนื่องจากเป็นภาวะฉุกเฉินครับ ยิ่งรอจะยิ่งมีผลข้างเคียงแทรกซ้อนมากขึ้นๆ.. 
     ณ จุดๆนี้..คุณหมอจะมีความคิด mindmap อยู่ในใจทันทีครับว่าอาการของผู้ป่วยเข้าได้กับเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือไม่ และถ้าเป็นจริงจะมีสาเหตุเบื้องต้นจากสาเหตุใด เช่น ถ้าเป็นเร็วมากเฉียบพลันก็จะคิดถึงเลือดออก ถ้ามีอาการสับสน พฤติกรรมเปลี่ยน ก็จะคิดถึงการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ ถ้ามีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือก็จะคิดถึงการติดเชื้อไวรัส JE ถ้ามีประวัติขายหมูอาจต้องคิดถึง Streptococcus suis เป็นต้นครับ

จะเห็นได้ว่าจากการซักประวัติและการตรวจร่างกาย ก็จะทราบวินิจฉัยและสาเหตุส่วนใหญ่ได้ อย่างที่เคยโพสต์ในหน้าเพจก่อนหน้านี้ครับ แต่ว่าการตรวจที่สำคัญมากคือการเจาะตรวจน้ำไขสันหลัง เนื่องจากการตรวจน้ำไขสันหลังจะบอกชนิดของการอักเสบ การติดเชื้อ ความรุนแรง เพื่อที่จะรักษาอย่างเฉพาะแบบ ตรงสาเหตุต่อไป ผลการตรวจจะใช้เวลาเล็กน้อยซึ่งทางการแพทย์แล้วอาจจะช้าไป (อย่าลืมเป็นภาวะฉุกเฉินทางอายุรกรรมนะครับ) คุณหมอก็จะให้ยาทันทีเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความพิการแล้วปรับยาตามผลการตรวจน้ำไขสันหลังต่อมา การเจาะตรวจน้ำไขสันหลังมีความเสี่ยงต่ำครับ เป็นสิ่งที่ "ต้องทำ" ครับ และในสถานที่ที่สามารถตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองได้เร็ว ก็อาจจะทำเอกซเรย์ก่อนครับเพื่อเก็บข้อมูลให้ละเอียดขึ้น แต่จริงๆไม่มีเอกซเรย์ก็เจาะหลังได้ครับ

    ส่วนการรักษาเฉพาะแบบนั้นขึ้นกับผลการตรวจน้ำไขสันหลังเป็นสำคัญ เช่นถ้าติดเชื้อแบคทีเรียก็จะให้ยาทางหลอดเลือดประมาณสองสัปดาห์ ถ้าเป็นการติดเชื้อวัณโรคก็จะใช้ยาประมาณ หกถึงเก้าเดือน ถ้าเป็นการติดเชื้อราก็จะรักษาประมาณสามถึงสี่สัปดาห์แล้วก็ตามด้วยการกินยาป้องกันต่อไปอีกเป็นปีนะครับ ผมจึงอยากจะย้ำว่าความเร็วในการตรวจวินิจฉัย ความเร็วในการรักษา และต้องเจาะน้ำไขสันหลังครับ และก็อยากบอกว่าโรคไม่ได้น่ากลัวมากแต่ต้อง "รู้ทัน" ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม