เยื่อหุ้มสมองอักเสบ---
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักโรคนี้กันครับ
เยื่อหุ้มสมองเป็นเกราะป้องกันสมองชั้นเลิศตัวมันเองยอมติดเชื้อ
ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆเข้าสู่สมองและในทางกลับกันมันคือปราการด่านสุดท้ายแล้วถ้าไม่รักษาให้ทันเวลาก็อาจลุกลามไปสู่สมอง
ทำให้เสียชีวิตหรือมีความพิการแทรกซ้อนได้ครับ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบมีได้หลายสาเหตุเช่น
เกิดจากเลือดออก เกิดจากการติดเชื้อ เกิดจากมะเร็ง ในวันนี้ผมจะมาเล่าถึงเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางอายุรกรรมครับ
อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อนั้นก็จะมีไข้สูง ต่อเนื่องกันสองสามวัน
ปวดศีรษะรุนแรงมากๆๆ ผู้ป่วยมักจะบอกว่า "ปวดจนหัวจะระเบิด"
อันนี้เกิดจากแรงดันในกระโหลกสูงจากน้ำในเยื่อหุ้มสมองมากเกิน
อาจมีอาการอาเจียนมาก ตาพร่ามัว และมักจะก้มคอไม่ได้
เพราะก้มคอแล้วเยื่อหุ้มสมองจะตึงยืดปวดมาก เมื่อผู้ป่วยไปพบแพทย์
คุณหมอจะซักประวัติอย่างรวดเร็วและครบถ้วน
หลังจากนั้นก็จะตรวจร่างกายอย่างรวดเร็วและครบถ้วนเช่นกัน ก็จะส่องตา ส่องหู
จับก้มคอ กลอกตา ยกแขนยกขา ที่ต้องเน้นว่ารวดเร็วเนื่องจากเป็นภาวะฉุกเฉินครับ
ยิ่งรอจะยิ่งมีผลข้างเคียงแทรกซ้อนมากขึ้นๆ..
ณ จุดๆนี้..คุณหมอจะมีความคิด mindmap อยู่ในใจทันทีครับว่าอาการของผู้ป่วยเข้าได้กับเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือไม่
และถ้าเป็นจริงจะมีสาเหตุเบื้องต้นจากสาเหตุใด เช่น
ถ้าเป็นเร็วมากเฉียบพลันก็จะคิดถึงเลือดออก ถ้ามีอาการสับสน พฤติกรรมเปลี่ยน
ก็จะคิดถึงการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์
ถ้ามีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือก็จะคิดถึงการติดเชื้อไวรัส JE ถ้ามีประวัติขายหมูอาจต้องคิดถึง
Streptococcus suis เป็นต้นครับ
จะเห็นได้ว่าจากการซักประวัติและการตรวจร่างกาย
ก็จะทราบวินิจฉัยและสาเหตุส่วนใหญ่ได้ อย่างที่เคยโพสต์ในหน้าเพจก่อนหน้านี้ครับ แต่ว่าการตรวจที่สำคัญมากคือการเจาะตรวจน้ำไขสันหลัง เนื่องจากการตรวจน้ำไขสันหลังจะบอกชนิดของการอักเสบ การติดเชื้อ ความรุนแรง เพื่อที่จะรักษาอย่างเฉพาะแบบ ตรงสาเหตุต่อไป
ผลการตรวจจะใช้เวลาเล็กน้อยซึ่งทางการแพทย์แล้วอาจจะช้าไป
(อย่าลืมเป็นภาวะฉุกเฉินทางอายุรกรรมนะครับ)
คุณหมอก็จะให้ยาทันทีเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความพิการแล้วปรับยาตามผลการตรวจน้ำไขสันหลังต่อมา
การเจาะตรวจน้ำไขสันหลังมีความเสี่ยงต่ำครับ เป็นสิ่งที่ "ต้องทำ" ครับ
และในสถานที่ที่สามารถตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองได้เร็ว
ก็อาจจะทำเอกซเรย์ก่อนครับเพื่อเก็บข้อมูลให้ละเอียดขึ้น
แต่จริงๆไม่มีเอกซเรย์ก็เจาะหลังได้ครับ
ส่วนการรักษาเฉพาะแบบนั้นขึ้นกับผลการตรวจน้ำไขสันหลังเป็นสำคัญ
เช่นถ้าติดเชื้อแบคทีเรียก็จะให้ยาทางหลอดเลือดประมาณสองสัปดาห์
ถ้าเป็นการติดเชื้อวัณโรคก็จะใช้ยาประมาณ หกถึงเก้าเดือน
ถ้าเป็นการติดเชื้อราก็จะรักษาประมาณสามถึงสี่สัปดาห์แล้วก็ตามด้วยการกินยาป้องกันต่อไปอีกเป็นปีนะครับ
ผมจึงอยากจะย้ำว่าความเร็วในการตรวจวินิจฉัย ความเร็วในการรักษา
และต้องเจาะน้ำไขสันหลังครับ และก็อยากบอกว่าโรคไม่ได้น่ากลัวมากแต่ต้อง
"รู้ทัน" ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น